ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ นิยาย บท 40

หยุนโม่มองไปยังหยุนหรั่นเฉินที่น้ำตาคลอเบ้า โฉมหน้าที่เหมือนดั่งมีดสลักเคลื่อนไหวเล็กน้อย

หยุนหรั่นเฟิงเป็นลูกที่เกิดจากเขาและภรรยาคนแรก เป็นสัญลักษณ์ความรักของพวกเขาทั้งสอง ยิ่งเป็นสายเลือดสืบทอดของภรรยาคนแรกด้วย

ดังนั้นเขาจึงปฏิบัติต่อหยุนหรั่นเฟิงเสมือนสมบัติล้ำค่ามาตลอด แม้ว่าภายหลังจะมีหยุนหรั่นเฉินแล้ว เขาก็ให้ความสนใจในตัวของหยุนหรั่นเฉินน้อยมาก

ดีที่ปกติแล้วหยุนหรั่นเฉินรู้ความเข้าอกเข้าใจ เวลานานไป เขาก็ให้ความสำคัญกับลูกสาวคนที่สองคนนี้มากขึ้น เขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถให้ความรักของพ่อกับอีกฝ่ายในระดับเดียวกับหยุนหรั่นเฟิงได้ ดังนั้นในจิตใจจึงมีความรู้สึกผิดเล็กน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ความเยาะเย้ยแวบเข้ามาในดวงตาของหยุนหรั่นเฟิง เดินขึ้นหน้าไปดึงหยุนหรั่นเฉินให้ลุกขึ้นด้วยตัวเอง จงใจกล่าวว่า “น้องสาว เจ้าคุกเข่าเช่นนี้ ไม่ได้เป็นการทำให้ท่านพ่อลำบากใจหรือ? เรื่องหนึ่งก็เป็นเรื่องหนึ่ง พวกเราลุกขึ้นมาพูดจากันดีๆ”

ในดวงตาอันหม่นหมองของหยุนหรั่นเฉินละคนไปด้วยไฟโทสะ

หากไม่ใช่เพราะนังสารเลวนี่ แม่ของนางจะตกมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร? !

แต่เพื่อช่วยท่านแม่ นางก็ยังถือโอกาสคว้าแขนของหยุนหรั่นเฟิงไว้ “ท่านพี่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับท่านแม่จริงๆ น้องขอร้องท่าน เห็นแก่ที่แม่ของข้าทำงานอย่างลำบากเพื่อจัดการงานบ้านมาหลายปีนี้ ท่านช่วยนางพูดดีๆสักประโยคเถอะ ท่านพ่อชอบท่านเป็นที่สุด ท่านพูด เขาจะต้องฟังเป็นแน่”

หยุนหรั่นเฟิงจ้องมองนางนิ่งๆแวบหนึ่ง

ทีแรกนางไม่ได้คิดว่าหยุนหรั่นเฉินจะเป็นคนทำเรื่องนี้ หยุนหรั่นเฉินความคิดซับซ้อน คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำเรื่องวางยาพิษซึ่งเป็นสิ่งที่ง่ายต่อการถูกคนจับได้เช่นนี้

เดิมทีนางยังคิดไตร่ตรองว่าสุดท้ายแล้วเป็นลู่ซื่อหรือว่าฮูหยินเฒ่าทำกันแน่ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นท่าทางที่คิดจะปิดบังความจริงของลู่ซื่อแต่ความผิดยิ่งชัดเจนขึ้น ก็รู้ว่าความเป็นไปได้โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะลู่ซื่อที่มีนิสัยอดรนทนไม่ได้จึงหาคนมาทำ

ตอนนี้หรูอวี้ก็ปิดปากแน่นไม่ยอมพูด คิดแล้วว่าก็รู้ว่าเพราะลู่ซื่อและหยุนหรั่นเฉินลงมือ แม้ว่าหยุนหรั่นเฟิงจะมีวิธีสอบสวนและถามความจริงออกมาได้ แต่อย่างไรซะลู่ซื่อก็เป็นนายหญิงของตระกูลหยุน หยุนหรั่นเฉินก็เป็นสายเลือดของหยุนโม่ คนในครอบครัวสายเลือดเดียวกันขัดแย้งกัน หากว่าทะเลาะผิดใจกันขึ้นมาจริงๆ สีหน้าของทุกคนในตระกูลหยุนก็ล้วนไม่น่าดู

“ท่านพี่” หยุนหรั่นเฉินกล่าวเร่งเร้า ในตามีแววความบีบคั้นปรากฏออกมารางๆ “อายุของท่านพ่อและท่านย่าไม่น้อยแล้ว เจอกับเรื่องวุ่นวายไม่ไหว”

หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะเยาะเบาๆ

นางหัวเราะเบาๆ สะบัดมือของหยุนหรั่นเฉินออก เดินไปเบื้องหน้าหรูอวี้ช้าๆ พลิกฝ่ามือตบนางไปฝ่ามือหนึ่งเพื่อให้ฟื้น “พูด ใครเป็นคนบงการ?”

“เป็นข้า เป็นข้าที่อยากวางยาพิษเจ้า หยุนหรั่นเฟิง! เจ้านังสารเลว! เจ้าจะต้องไม่ตายดี!”

หยุนโม่โกรธเคืองอย่างหนัก กำลังจะระเบิดอารมณ์ แต่กลับถูกหยุนหรั่นเฟิงห้ามไว้ นางมองไปทางหยุนโม่ด้วยความใจเย็น “ท่านพ่อ คนยอมรับผิดเพราะถูกทรมานจนทนไม่ไหวแก้ไขปัญหาไม่ได้ นางไม่ได้บอกว่าเกลียดข้าหรือ? ข้าก็อยากรู้ว่า นางเกลียดอะไรข้า?”

หยุนโม่ระเบิดความโกรธ “ได้ ให้นางพูดให้กระจ่าง!”

เดิมทีหรูอวี้ก็แค่พูดเพ้อเจ้อตามน้ำไปเรื่อย จึงพูดไม่ออกติดอ่างขึ้นมาทันที “ข้า ข้า......ก่อนหน้านี้คุณหนูใหญ่ทุบตีข้า ข้าไม่พอใจ ดังนั้นจึงอยากฆ่านาง!”

“ข้าเคยตีเจ้า เจ้าก็คิดจะฆ่าข้าแล้วงั้นเหรอ? เช่นนั้นเป็นเจ้านายนี่ ก็เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงจริงๆ” หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะเยาะ “ตีเมื่อไหร่ ทำไมถึงตี ในเมื่อเจ้าเกลียดข้าขนาดนี้ จะต้องจำได้อย่างชัดเจนเป็นแน่”

หรูอวี้อึกอักทันที “ข้า......”

หยุนหรั่นเฉินเกิดความกังวลใจเล็กน้อย รีบรับช่วงพูดต่อทันที “ท่านพี่ ต้องเป็นเรื่องเมื่อสิบปีก่อนที่ท่านผลักนางลงน้ำแล้วตีนางเป็นแน่ ก่อนหน้านี้นางมักจะพูดติดปากทุกวัน แต่ช่วงนี้กลับไม่ค่อยได้เอ่ยถึงแล้ว พวกเราล้วนคิดว่านางลืมไปแล้ว คิดไม่ถึงว่านางจะกล้าขนาดนี้ กล้าลงมือกับท่านจริงๆ!”

หยุนหรั่นเฉินแทบอยากจะเป็นบ้าอย่างแท้จริงแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์