ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ นิยาย บท 43

แค่สองสามคำของหยุนหรั่นเฟิงก็เอาอำนาจการดูแลจัดการบ้านมาไว้ในมือได้แล้ว ยังไม่ทันได้ดีใจ หลินหลังที่กล้าหาญมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆก็กระโดดออกมาพูดบั่นทอนกำลังใจแล้ว “คุณหนู พวกเราอยู่กันดีๆ จะต้องมาทนเหนื่อยเปล่าทำไมกันล่ะเจ้าคะ! ไม่แน่ผ่านไปอีกสองวันฮูหยินใหญ่ก็ออกมาแล้ว อำนาจดูแลบ้านก็ยังต้องคืนให้นางอยู่ดี นี่ไม่ได้มาลำบากแทนคนอื่นหรือเจ้าคะ?”

หยุนหรั่นเฟิงยิ้มแล้วกล่าว: “แม้จะมีเพียงแค่สองวัน ข้าก็จะต้องทำให้กระจ่างว่า ลู่ซื่อจัดสายสืบไว้ในบ้านมากมายเท่าไหร่ รู้เขารู้เราถึงจะสามารถรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งได้ เข้าใจหรือไม่?”

หลินหลัง: “ครั้งนี้ฮูหยินใหญ่เสียเปรียบหนักขนาดนี้ ยังจะกล้าเป็นศัตรูกับพวกเราอีกหรือเจ้าคะ?”

“สุนัขเปลี่ยนนิสัยกินขี้ไม่ได้ ระวังให้มากหน่อย ก็ไม่เสียหลาย” ในเมื่อหยุนหรั่นเฟิงตัดสินใจแล้วว่าจะปกป้องหยุนโม่ นางจึงไม่สามารถทำให้ในบ้านของเขามีปัญหาขึ้นมาได้ อีกอย่างหนี้ที่ลู่ซื่อติดค้างเจ้าของร่างเดิมไว้ ก็ยังสะสางไม่หมดเลยน่ะ!

“แต่คุณหนู ท่านดูแลจัดการบ้านเป็นหรือเจ้าคะ?”

“ไม่เป็นน่ะสิ”

“ห๊ะ?”

หยุนหรั่นเฟิงดูแลจัดการบ้านไม่เป็น แต่นางมีห้องทดลองที่เป็นเครื่องคำนวณอันสุดยอดเหนือชั้น เพียงแค่ป้อนข้อมูลทั้งหมดเข้าไปจัดเก็บให้เป็นระเบียบและวิเคราะห์ นางก็จะมีเอกสารข้อมูลตระกูลหยุนที่เป็นภาพรวมที่สุดมีรายละเอียดรอบคอบมากที่สุดแล้ว บวกกับการรู้จักใช้คนให้ตรงงาน แบ่งแยกการให้รางวัลและการทำโทษอย่างชัดเจน ไม่ถึงสองวัน ตระกูลหยุนที่วุ่นวายในเดิมทีก็เป็นระเบียบขึ้นในทันใด ทำให้ทุกคนที่รอจะหัวเราะเยาะนางตกตะลึงจนปากค้าง

จิตใจของหยุนโม่เต็มไปด้วยความสบายใจ ไปค่ายฝึกทหารที่ชานเมืองหลวงด้วยความวางใจแล้ว

หยุนหรั่นเฟิงก็จัดการเก็บกวาดในบ้านอีกสองวัน ตรวจจนมั่นใจว่าทุกอย่างในบ้านล้วนดำเนินการไปอย่างเป็นระเบียบตามการจัดการของนาง จึงได้ออกจากบ้านไปผ่อนคลายพร้อมกับหลินหลังแบบหมดปัญหาไร้กังวล

เดินเล่นกว่าครึ่งค่อนวัน ทั้งยังไปซื้อถั่ววอลนัทชั้นดีให้หยุนโม่อีกสองเม็ด จากนั้นนายบ่าวสองคนก็ไปดื่มชาที่โรงน้ำชา

คนในในโรงน้ำชามีไม่น้อย คุยโวโอ้อวดกันก็ไม่น้อย หยุนหรั่นเฟิงปิดหน้าและพาหลินหลังไปนั่งตรงหัวมุม ชายังไม่ได้เสิร์ฟ ก็ได้ยินเสียงเกือกม้าวิ่งผ่านไปอย่างรีบร้อน!

เมื่อนางหันไปมอง ก็เห็นธงของกองทัพตระกูลหยุนพลิ้วไหว ทหารกลุ่มหนึ่งขี่ม้าผ่านไป ผู้นำคือรองแม่ทัพข้างกายของหยุนโม่ ฝีเท้าเป็นระเบียบไม่สะเปะสะปะแม้แต่น้อย เมื่อมองดูก็คือรีบไปที่ค่ายใหญ่ที่ชานเมืองหลวง

หลินหลังรู้สึกเป็นเกียรติและโชคดี “กองทัพตระกูลหยุนยอดเยี่ยมจริงๆ!”

ทันทีที่หยุนหรั่นเฟิงยิ้ม ก็ได้ยินบัณฑิตที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นทันทีว่า “อนิจจาอนิจจา ก่อนหน้านี้ข้ายังเลื่อมใสในความกล้าหาญและความภักดีของแม่ทัพหยุน คิดไม่ถึงว่าจะมีเพียงแค่นี้!”

ดวงตาของหยุนหรั่นเฟิงเฉียบคมทันที!

หลินหลังโกรธจนทนไม่ไหว จึงต้องการจะไปชี้แจง แต่กลับถูกหยุนหรั่นเฟิงรั้งไว้

แล้วบัณฑิตอีกคนก็กล่าวขึ้นว่า “ใช่แล้ว ตอนนี้ชายแดนสุขสงบ เป่ยหรงไม่กล้ารุกรานต้าหลี่ของเรามาหลายปีแล้ว ในมือของแม่ทัพใหญ่ยังคงกุมกำลังทหารที่สำคัญอยู่ ตอนนี้ก็ฝึกทหารอยู่ที่ชานเมืองหลวงอีก ช่างไม่เหมาะสมจริงๆ”

“ปีนี้ท่านแม่ทัพก็อายุมากแล้ว แต่กลับลืมเรื่องความภักดีและหน้าที่ของตนไปแล้ว”

“ใช่ น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถพบท่านแม่ทัพใหญ่หยุนได้ ไม่เช่นนั้นก็จำเป็นจะต้องชี้แจงกับเขาสักหน่อย!”

“ใช่ที่สุด!”

หลินหลังฟังไม่เข้าใจ แต่ก็สามารถฟังออกได้ว่าคนเหล่านี้ไม่พอใจกับท่านแม่ทัพใหญ่ จึงอดไม่ได้ที่จะมองหยุนหรั่นเฟิงด้วยความร้อนใจ “คุณหนู จะให้เขาพูดถึงท่านแม่ทัพไม่ดีเช่นนี้หรือเจ้าคะ.......”

สีหน้าของหยุนหรั่นเฟิงดุดัน นัยน์ตาทั้งหมดเป็นความเฉียบคม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์