ฉับพลันเขาก็รู้สึกราวตนจมดิ่งอยู่ในความทุกข์ ครอบครัวที่แม้ไม่สมบูรณ์ของเขาสลายหายไปราวกับฟองสบู่
ตอนนี้เขาเจอกับสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าความยากไร้และความไม่สมบูรณ์แบบเสียอีก… นั่นคือการไม่เหลืออะไรเลย
ตอนนี้เขาไม่เหลืออะไรแล้วจริง ๆ ทั้งในแง่วัตถุและในทางจิตใจ
จู่ ๆ เขาก็รู้สึกวิงเวียนหน้ามืด
ขณะที่กำลังรอลิฟต์ มาริลินก็ไล่ตามเจย์มาทันก่อนคว้ามือเขาไว้อย่างหน้าด้าน ๆ พร้อมร้องอ้อนวอน “อย่าเมินฉันสิคะ ที่รักได้โปรดเถอะ ฉันรักคุณจริง ๆ นะคะ”
เจย์แค่นเสียง “ถ้าคุณรักผม แล้วคุณไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นทำไมกัน?”
มาริลินโอดครวญทั้งน้ำตา “เขาบังคับฉันนะ ฉันไม่ได้ต้องการจะทำแบบนั้นแลย”
เจย์ตาแดงก่ำด้วยโทสะ “คุณคิดว่าผมโง่มากนักเหรอ?”
เมื่อเห็นความเกรี้ยวกราดดุร้ายของเขา มาริลินก็หวาดกลัวจนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
พอประตูลิฟต์เปิดออก เจย์และมาริลินก็เดินตามกันออกมา
ตอนที่พวกเขามาถึงบ้าน แองเจลีนหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเธอเห็นเส้นเลือดเจย์กระตุก เธอรีบเข้าไปหาเขาและถามด้วยความเป็นห่วง “นายโอเคไหม เบ็น?”
ถ้าไม่มีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้น ก็เป็นการยากที่จะเห็นคนเย็นชาไร้อารมณ์อย่างเจย์ดูโกรธมากมายขนาดนี้
เจย์มองแองเจลีนและเห็นดวงตาคู่งามดำขลับ ดูกระจ่างใส อ่อนโยนปลอบประโลมยิ่งกว่าน้ำพุกลางหุบเขา
บางทีเธออาจเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างดี
แต่เธอเองก็มีชายอื่นอยู่ในหัวใจ
เขาถอนใจอย่างสิ้นหวัง “ผมไม่เป็นอะไร ช่วยให้พวกเขากลับไปเถอะ ผมเหนื่อยมากอยากพักผ่อน”
เธอรู้สึกได้ถึงความอ่อนล้าของเขา แองเจลีนถอนใจอย่างไม่สบายใจก่อนสั่งคนที่เหลือ “กลับกันเถอะ”
เมื่อทุกคนออกจากบ้านเช่าไปแล้ว แองเจลีนก็ได้ยินเสียงล็อกประตูจากด้านใน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!