ทันทีที่แองเจลีนไป เซ็ตตี้น้อยก็คว้าแขนของเจนสันไว้แล้วถามว่า “เราจะไปกันตอนไหนพี่ชาย?”
ตาเหยี่ยวของเจนสันฉายแววคมกล้า “ฉันติดตั้งระบบติดตามไว้ที่สร้อยคอกะโหลกของคุณพ่อแล้ว ไม่ต้องห่วง ฉันมีที่อยู่ของพ่อกับแม่แน่นอน ฉันจะพาเธอไปหาพวกเขาหลังจากที่ฉันจัดการเรื่องในแกรนด์ เอเซียแล้ว”
เซ็ตตี้น้อยร้องออกมา “ไชโย”
ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่เจย์และแองเจลีนจะออกไปจากสวนไร้กังวล เซ็ตตี้น้อยและเจนสันต่างก็อำลาพวกเขาอย่างนิ่งสงบ
“ไปดี ๆ นะคะ คุณแม่ คุณพ่อ”
แองเจลีนปลื้มมาก “ลูกเราโตกันแล้ว และรู้ความไม่ต้องให้เราต้องเป็นกังวลเลย”
แต่เจย์รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขามองสัมภาระที่กำลังขนออกไปแล้วกระซิบบอกเกรย์สันว่า “ตรวจดูกระเป๋าสัมภาระทีหลังด้วย ลองดูว่ามีอุปกรณ์ติดตามหรืออะไรแบบนั้นซ่อนอยู่ไหม”
เกรย์สันตอบรับ “ครับ”
เพื่อไม่ให้สะดุดตา พวกเขาแยกกันเดินทางเป็นสองกลุ่มและสองเส้นทาง สมาชิกทีมภูตผี 20 คนจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปลงอีกที่และไปพร้อมสัมภาระเพื่อตรวจสอบบริเวณชายแดนของเมืองคันทรี่ก่อน
เจย์ แองเจลีน พี่เชอร์ลีย์ เกรย์สัน รวมถึงเซย์นและโจเซฟินจะแต่งกายเหมือนคู่แต่งงานที่ไปเที่ยวฮันนีมูน พวกเขานั่งเครื่องบินโดยสารทั่วไปและเปลี่ยนเครื่องสองครั้งก่อนที่จะไปยังชายแดนของเมืองคันทรี่
มันเป็นการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยและเจย์รู้สึกสงสารภรรยาของเขามาก เมื่อมาถึงประเทศเอ็มในการต่อเครื่องครั้งแรก เขาก็ยืนกรานให้หยุดพักผ่อนที่ประเทศเอ็มสักสองสามวันก่อนที่จะเดินทางต่อ
เซย์นแหย่เจย์ว่า “ถ้าคุณเดินทางแล้วหยุดเรื่อย ๆ แบบนี้ ฤดูหนาวในประเทศแถบตอนเหนือก็คงหมดไปแล้วตอนที่เราไปถึงชายแดนเมืองคันทรี่ เราคงไม่มีโอกาสได้เห็นหิมะตกแล้ว”
ตอนนี้เป็นปลายฤดูใบไม้ร่วงดังนั้นเห็นได้ชัดว่าเซย์นพูดเกินจริง แต่เจย์ก็เริ่มที่จะคิดเกี่ยวกับฤดูจริงจังขึ้นมา
“แองเจลีนไม่ถูกกับอากาศหนาว บางทีอาจจะดีกว่าถ้าเราไปทางเหนือหลังจากที่หมดฤดูหนาวแล้ว”
เซย์นอึ้งไป “คุณบ้าเหรอเปล่า? นี่คุณตามใจเมียมากจนหมดทางเยียวยาแล้วนะ”
แองเจลีนนั้นอยากที่จะไปตามหาร็อบบี้น้อย เธอจึงรีบท้วงข้อแนะนำของเจย์ “เจย์บี้คะ ฉันคิดว่า จะดีกว่าถ้าเราจะไปที่เมืองคันทรี่เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ร็อบบี้น้อยรอเราอยู่นะคะ”
เซย์นแหย่เจย์ “เขาสนแค่เมียเท่านั้นแหละ ส่วนลูกชายน่ะเป็นของแถม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!