เจย์มองเซย์น แม้ว่าเสียงของหมอนี่จะโดนแปลงไป แต่เขาก็ยังสติแตกเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานอยู่เหมือนเดิม หากว่ามองดูเซย์นอย่างตั้งใจแล้วก็จะรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมา
เขายังคงกดดันเซย์นต่อ “ถ้านายไม่อยากตาย ก็หุบปากซะ”
ประโยคนี้เหมือนคำศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้เซย์นหุบปากฉับ
ไม่นานปาฏิหาริย์ก็บังเกิด
เหมือนกับว่ามีนางฟ้ามาเสกมนตร์ให้กับถนนบนเขานี้ จู่ ๆ พื้นถนนก็ราบเรียบ หิมะหนาก็ราวกับว่าโดนกวาดออกไปจนหมดเผยให้เห็นต้นไม้สีเขียวสด
เซย์นพูดด้วยความกลัวที่ยังมีอยู่ในใจ “คนที่รอดจากวิกฤติรอบนี้ไปได้ จากนี้ต้องโชคดีแน่”
ทั้งโจเซฟีนและพี่เชอร์ลีย์ต่างก็แสดงท่าทางยินดีที่รอดพ้นหายนะมาได้
ใบหน้าหล่อเหลาของเจย์จู่ ๆ ก็เย็นชายิ่งกว่าหิมะที่อยู่รายรอบ เขารู้ดีว่าสาเหตุที่ทำให้ค่ายกลนั้นโดนปิดก็เป็นเพราะว่าแองเจลีนใช้ชื่อของตัวเองเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน
เขานึกด่าโคลในใจ ‘ไอ้หนอนสวะ’
แองเจลีนคิดบางอย่างได้และรีบบอกเจย์ “ที่รักคะ พอเราเข้าไปที่ป้อมแล้ว คุณต้องไม่เปิดเผยตัวตนนะ ถ้าเราจำเป็นต้องทำก็ให้ฉันเป็นคนจัดการเอง ฉันคิดว่าโคล ยอร์กคงไม่สร้างปัญหาให้ฉันหรอก”
ขณะที่เจย์กำลังจะเอ่ยขัด แองเจลีนก็บอกว่า “ถ้าไม่อดทนสักหน่อยก็อาจจะทำลายทุกอย่างที่เราทำมาได้ ที่รักคุณต้องคิดเพื่อลูก ๆ และฉันนะ”
เจย์ตอบ “ก็ได้”
ตัวตนที่แท้จริงของเจย์นั้นมันก็เป็นเหมือนดาบสองคม
เขาเป็นลูกชายของโคลอี้ ยอร์ก ในแง่นั้นตระกูลยอร์กก็อาจจะปฏิบัติต่อเขาต่างออกไป
แต่ว่าเขาก็เป็นลูกชายของตระกูลอาเรสด้วย และพวกอาเรสก็เป็นศัตรูตัวเอ้ของตระกูลยอร์ก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!