สเปนเซอร์เย้ย “ไอ้เด็กตัวเหม็น แกพูดแบบนี้ได้ยังไง? ตอนนี้พ่อแก่แล้วนะแกยังจะมาบอกให้ฉันไปสู้อีกเหรอ? แกไม่กลัวว่าพวกมันจะหักกระดูกคนแก่อย่างฉันเหรอไง? แกอยากให้ฉันตายเต็มแก่แล้วสินะ?”
ริมฝีปากโคลกระตุก
“คนที่หักกระดูกพ่อได้คงยังไม่โผล่มา”
สเปนเซอร์ย้อนอย่างหมดความอดทน “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว รีบเข้าไปจับพวกนั้นมัดมาให้พ่อ”
โคลมองนิ้วก้อยซ้ายที่ถูกตัดไปของเขาและบอกว่า “ผมไม่อยากสู้”
สเปนเซอร์อึ้งไป
ตลอดเวลาสามปีเขาได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อบังคับลูกชายให้ต่อสู้ ไม่ว่าจะวิธีไม้อ่อนไม้แข็ง ทั้งปลอบ ทั้งขู่ หรือแม้แต่หลอกล่อเขา รวมทั้งใช้วิธีข่มขู่และขุดหลุมดัก แต่ว่า…
โคลก็ยังไม่สะทกสะท้าน
ราวกับว่าเขากลายเป็นอีกคนและทอดทิ้งศิลปะการไปแล้ว เขาเอาแต่อยู่ในห้องอ่านหนังสือหรือไม่ก็เมาทั้งวัน สเปนเซอร์นั้นร้อนใจที่เห็นลูกชายของตนกลายเป็นแบบนี้
สเปนเซอร์มองลูกชายอย่างผิดหวัง “ถึงแกจะไม่อยากแต่วันนี้แกก็ต้องสู้ พี่น้องป้อมตระกูลยอร์กหลายคนบาดเจ็บ ในฐานะผู้สืบทอดคนต่อไปแกจะปล่อยเรื่องนี้ไปได้ยังไง?”
โคลบอกว่า “ถ้าผมเป็นผู้สืบทอดคนต่อไป ผมจะยกเลิกป้อมทั้ง 108 แล้วก็ไปอยู่ในเขาแทน”
สเปนเซอร์รู้สึกขุ่นเคืองมาก
เขาเป็นคนที่จะฆ่าคนทิ้งได้เป็นกองหากว่าอารมณ์ไม่ดี
“ไปปล่อยพวกคอร์เวตต์ออกมา แล้วให้ระเบิดที่นี่ให้ราบ ฉันเกลียดหน้าตาไอ้สวนนี่อยู่แล้ว” คำพวกนี้พูดออกมาเพราะลูกชายของเขาที่ตอนนี้ไม่เป็นตัวเองอีกแล้ว
เจย์นั้นไม่มีแผนที่จะกลายเป็นตัวปะทะระหว่างพ่อลูกคู่นี้ เพื่อการหลีกเลี่ยงหายนะที่ไม่จำเป็น เจย์ก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาสเปนเซอร์ก่อนบอกว่า “นายท่านยอร์ก ใจเย็นก่อน…”
สเปนเซอร์มองเจย์ ใบหน้าสง่าของเขามืดครึ้มลง
ชายคนนี้โผล่มาจากไหนกัน? เขานั้นมีความคิดเหมือนโคลมากและทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังหนีเสือปะจระเข้
สเปนเซอร์รู้สึกรำคาญใจมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!