ณ หอท่าเรือหอมหวน
เขากลับทำตัวเหมือนหมาหง่อย เขาจมดิ่งลงไปในความเหงาและความอ้างว้างในยามค่ำคืนนี้
เจย์นั่งอยู่บนโซฟาตลอดทั้งคืน ด้วยเหตุผลบางอย่าง หัวใจของเขารู้สึกอ้างว้าง
เมื่อพ่อแม่ของเขาและโรสจากไปในตอนนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาอยู่ตัวคนเดียวในโลกใบนี้ ดูเหมือนไร้ความหมายที่จะมีชีวิตต่อไป
“ท่านอาเรส!” ประตูไม้มะฮอกกานีโบราณของบ้านถูกเปิดออก เกรย์สันตะโกนเรียก เขารีบจนเดินสะดุดเข้ามาในห้องขณะที่ตอนนี้ฟ้ายังคงร้องอยู่ข้างนอก
เจย์มองด้วยความตกใจ
สายตาของเขาจ้องไปที่เกรย์สันที่หน้าซีดซึ่งมีเสียงสั่นเครือออกมา “ท่านอาเรส ผมเพิ่งได้รับเรื่องเกี่ยวกับเควนตินส์มาว่า… คำพูดสุดท้าย เขาบอกว่าพวงมาลัยของรถเริ่มทำงานผิดปกติประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากที่รถออกจาก อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน ผมเลยรีบวิ่งมาบอกทันทีแต่ช้าไปหนึ่งก้าว รถไถลลงไปในแม่น้ำแล้ว…”
“นายว่าไงนะ?” เจย์ยืนขึ้นอย่างสั่นเทา
เกรย์สันรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งในขณะที่เขาบังคับตัวเองให้พูดคำว่า “ท่านอาเรส คุณท่านและคุณนายหญิงได้จากไปแล้ว”
ร่างกายของเจย์ยืนแกว่งไปมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะพุ่งออกจากห้องไปราวกับปีศาจร้ายที่สูญเสียการควบคุม
ข้างนอกยังคงฝนตกหนักอยู่
ฟ้าร้องและฟ้าผ่าคำรามตึงตัง
พื้นที่ราบอันกว้างใหญ่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยน้ำเอ่อล้นในขณะที่กระแสน้ำในแม่น้ำก่อตัวขึ้นรอบพื้นที่อันกว้างใหญ่
ร่างสูงวิ่งข้ามที่ราบราวกับพายุเฮอริเคน
เกรย์สันเอามือป้องปากในขณะที่เขาตะโกนให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ท่านอาเรส รอผมด้วย! ให้ผมขึ้นรถไปด้วย!”
กระนั้น เสียงของเขาถูกกลืนกินไปกับลม ฟ้าฝนและฟ้าร้องที่โหดเหี้ยม เกรย์สันไม่รู้ว่าท่านอาเรสได้ยินเขาหรือเปล่า แต่เขารู้ว่าร่างกายของท่านอาเรสไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศได้ถ้าเขายังคงวิ่งต่อไปภายใต้พายุเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะทำตัวทนทานเหมือนเหล็กก็ตาม
ความคิดแบบนี้กลายเป็นความคิดที่เจ็บปวดที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเกรย์สัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!