เสียงโวยวายของพวกเขาทำให้ปลุกเจย์ตื่นขึ้น เขาหายง่วงในทันทีแล้วมองดูบอร์ดี้การ์ดจากในรถในขณะที่แสงยามเย็นสาดส่องเข้ามา
สถานะของเขาที่มีอยู่ในตระกูลอาเรสเมื่อพูดถึงตอนนี้คือ?!
พวกเขาปฏิบัติต่อเขาราวกับว่าเขาเป็นคนพิการอย่างแท้จริงอย่างนั้นเหรอ?
“เกรย์สัน สิ่งที่พวกมันหน้าไหนมีผลกระทบต่อตัวฉันแม้แต่นิดเดียว เอามันออกไปให้หมด”
มีเสียงช้า ๆ มาจากกระจกรถสีดำ มันทำให้บอร์ดี้การ์ดเริ่มหมดหนทางในขณะที่พวกเขาเริ่มตัวสั่นขึ้นมาทันที
เมื่อได้รับคำสั่งจากท่านอาเรส ซึ่งเกือบจะเหมือนสายฟ้าฟาด เกรย์สันก็เข้าไปบิดมือของบอร์ดี้การ์ดที่อยู่ใกล้ ๆ จนกระดูกเคลื่อนทันที
ลูกน้องคนอื่น ๆ หลายคนที่อยู่ที่นั่นต่างก็ตกใจจนหน้าซีด
เกรย์สันเดินไปหาพวกเขา ทันใดนั้นพวกเขาก็คุกเข่าลงบนพื้นเพื่อขอความเมตตา “นายท่าน เราต้องขอโทษด้วย เรารู้ว่าเราผิดไปแล้ว”
“สายเกินไปแล้ว” เจย์พูดคำเย็นชาออกมาจากระหว่างริมฝีปากและฟันของเขา
เกรย์สันเตะคนพวกนั้นไปที่แขน หลังจากได้ยินเสียงดัง ‘แคร้ก’ ตอนนี้เขารู้เลยว่าแขนของพวกเขาก็เหมือนไร้ประโยชน์ไปแล้วทันที
คนอื่น ๆ อีกหลายคนทำโทษตัวเองด้วยการบิดแขน
เกรย์สันกล่าวว่า “จะดีกว่าไหมถ้าพวกนายทุกคนยอมให้เหตุผลก่อนหน้านี้ว่าทำไปเพื่ออะไร?”
จู่ ๆ ก็มีเสียงผิวปากของเจย์ดังขึ้นเพื่อเรียกหา “เกรย์สัน ใครอนุญาตให้นายพาทีมหมอมา”
เกรย์สันรู้แล้วว่าตอนนี้ความลับไม่สามารถซ่อนได้อีกต่อไป เขาเดินไปที่รถโรลส์-รอยซ์ในขณะที่ตัวสั่น “ท่านอาเรส คือ มันคือ…”
ตอนแรกเขาต้องการบอกมันออกมาเพื่อยอมทรยศนายหญิง แต่เมื่อเขานึกได้ว่านายหญิงอยู่ต่อหน้าท่านอาเรสในตอนนี้ เกรย์สันรู้สึกว่ามันช่างโหดร้ายเหลือเกินที่จะพูดออกไป
“ผมเป็นคนอยากพาพวกเขามาเองครับ” เกรย์สันตัดสินใจปิดบังสิ่งที่นายหญิงทำ
แองเจลีนรู้สึกขอบคุณเกรย์สันสำหรับความภักดีของเขา เธอแอบเปิดประตูรถและยกนิ้วโป้งเป็นการชมให้เขา
“อยากตายหรือไง?” เจย์กัดฟันพูดด้วยความโกรธ
เกรย์สันเปลี่ยนคำพูดของเขาทันที “ไม่ใช่ผมครับ ท่านอาเรส นั่นเป็น…พยาบาลของคุณต่างหากครับ”
แองเจลีนเปลี่ยนนิ้วโป้งคว่ำลงทันที เธอกลอกตาใส่เขาและกระซิบ “ไร้ประโยชน์เสียจริง ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!