จากนั้น แองเจลีนก็ย้อนกลับเข้าไปสู่โลกของเธอเองเป็นเวลานานมาก
เมื่อไหร่ก็ตามที่ใครคุยกับเธอ เธอเพียงแต่จำหน้าที่เป็นผู้ฟังโดยไม่ตอบโต้ใด ๆ
เมื่อคุณท่านปู่อาเรสได้ทราบถึงอาการของแองเจลีน เขาก็มาที่ห้องผู้ป่วยด้วยตัวเองและพูดกับแองเจลีนว่า “โอ้ แองเจลีน ฉันเพิ่งจะรู้ว่าเธอชอบเจย์มากแค่ไหน ที่ฉันมาในวันนี้ก็เพื่อบอกกับเธอว่าเจย์อาจจะไม่ตาย รถถังที่ฉันส่งให้เขาในวันนั้นถูกทดสอบโดยฝนกระสุนหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน หรือการที่มันไม่สามารถถูกเจาะทะลุได้โดยอาวุธชีวภาพหรือเคมี ฉันเชื่อว่าไฟนั่นไม่สามารถทำลายรถถังได้”
หลังจากที่หยุดไปครั้งหนึ่ง เขาก็แนะนำอย่างเอาจริงเอาจังและพูดว่า “เพราะฉะนั้น แองเจลีน เธอต้องรักตัวเองและบริหารแกรนด์ เอเซียให้ดี ถ้าวันหนึ่งเจย์กลับมา เธอต้องแสดงด้านที่สวยงามที่สุดของโลกใบนี้ให้กับเขา”
เป็นที่น่าเสียดาย แองเจลีนไม่ตอบโต้แม้กระทั่งหลังจากที่คุณท่านปู่อาเรสพูดเป็นเวลานาน
หมอพูดว่า “ถ้านายหญิงเซเวียร์ไม่สามารถคลี่คลายจากความโศกเศร้าและความสิ้นหวังในเวลาอันสั้นได้ ผมเกรงว่าเธอจะเดินกลับไปสู่เส้นทางเดียวกันกับคุณท่านปู่เซเวียร์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตใจและกายผิดปกติอย่างรุนแรง”
ทุกคนห่วงแองเจลีน แต่ก็ไม่มีใครปลุกเธอให้ตื่นขึ้นได้
ฟินน์นอนอยู่ในโรงพยาบาลกว่า 20 วันก่อนที่จะค่อย ๆ ได้สติคืนมา
เมื่อเขาลืมตาขึ้น เขาก็เห็นเซ็ตตี้น้อยผู้อ่อนโยนและงดงามยืนอยู่ข้าง ๆ เตียง ถือผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก ๆ และเช็ดหน้าของเขาเบา ๆ
“ในที่สุดคุณก็ฟื้นแล้ว ฟินน์” เซ็ตตี้น้อยยิ้มอย่างอ่อนหวาน
ฟินน์ยื่นมือออกไปหยิกหน้าที่กำลังยิ้มแย้มอย่างไร้เดียงสาของเซ็ตตี้น้อย “ลำบากคุณแย่เลยนะ เซ็ตตี้น้อย”
ขณะที่ฟินน์ไม่เห็นคนอื่น ๆ รอบ ๆ ร่องรอยของความสงสัยก็เล็ดลอดออกมาจากสายตาของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!