“โอ๊ย” แองเจลีนส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“แองเจลีน?” โจเซฟีนเปิดไฟและเห็นว่าแองเจลีนกำลังนั่งอยู่กับผ้าห่มที่แผ่ออกบนพื้น เธอรีบวิ่งเข้าไปหาและช่วยแองเจลีนลุกขึ้น
“ทำไมพี่ไม่ขอให้ฉันช่วยล่ะ?” โจเซฟีนบ่น
“ในที่สุดฉันก็คิดว่าฉันจำเป็นต้องชินกับความมืด” แองเจลีนตอบกลับ
โจเซฟีนรู้สึกปวดร้าวในใจ
แองเจลีนอาจจะกังวลว่าสักวันหนึ่งเธอจะตาบอดอย่างถาวรและนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอพยายามที่จะเผชิญหน้ากับความมืดด้วยความคิดในแง่บวก
วันต่อมา
มันเป็นวันที่ไร้ลมและมืดมน เสียงฟ้าร้องก็ดังกึกก้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นี่เป็นการบ่งชี้ว่าพายุกำลังมา
การสูญเสียการมองเห็นเป็นครั้งคราวของแองเจลีนไม่ฟื้นฟูโดยเร็วเหมือนที่มันเคยเป็น
การมองเห็นของเธอยังคงมืดสนิท
โจเซฟีนถามแองเจลีนขณะที่เธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งว่า “ให้ฉันทาน้ำผึ้งให้พี่ไหม?”
แองเจลีนพูดอย่างซึม ๆ “วันนี้ฉันไม่ได้ไปไหน ทาแค่มอยซ์เจอไรเซอร์ก็ได้”
โจเซฟีนทาโทนเนอร์ให้เธอตามมาด้วยโลชั่นมอยซ์เจอไรเซอร์
โจเซฟีนเคยเห็นแองเจลีนทาหน้าด้วยน้ำผึ้งด้วยความพยายามที่จะดูเป็นผู้ใหญ่ เมื่อโจเซฟีนเห็นใบหน้าที่สดใสในตอนนี้ เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอเป็นเหมือนแก้วเล็ก ๆ ที่เปราะบาง
โจเซฟีนพูดว่า “แองเจลีน พี่ดูเหมือนกับราชินีผู้มีวุฒิภาวะพร้อมกับออร่าที่ทรงพลังในตอนที่พี่ทาน้ำผึ้ง แต่เมื่อพี่ล้างการแต่งหน้าออก พี่ก็ดูเหมือนกับเด็กผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก ถ้าพี่ชายของฉันเห็นพี่ไม่แต่งหน้า ฉันมั่นใจว่าเขาจะไม่มีใจที่จะพูดคำพูดที่โหดร้ายพวกนั้นกับพี่ พี่ว่าไหม?”
แองเจลีนตอบกลับว่า “เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอกนะ”
โจเซฟันพูดว่า “ถ้าเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น แล้วเขาเป็นอะไรล่ะ? ก็ดูคนที่อยู่ใกล้ชิดเขาก่อนหน้านี้สิ พวกหล่อนคนไหนที่ไม่หน้าตาดีบ้าง?”
ทันใดนั้น แองเจลีนก็จำได้ว่าเจย์บ่นเรื่องหน้าที่เป็นน้ำมันน้ำผึ้งของเธอ…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!