หลายวันต่อมาหลังจากเลิกงานแล้ว เมื่อมาถึงบ้านสิ่งแรกที่ฉันต้องทำคือกวาดบ้านถูบ้าน เพราะตอนเช้าแค่ทำอาหารก็หมดเวลาแล้ว จากนั้นก็รีดผ้าให้กับตาลุงนั่น แล้วมาทำกับข้าวอีก บอกตรงๆ ร่างฉันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปทุ่มกว่า วันนี้ตาลุงนั่นยังไม่กลับบ้าน ไม่รู้ว่าไปแวะที่ไหนหรือเปล่า ฉันเลยนั่งกินขนมดูทีวีรอ สักพักก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ฉันเลยออกไปดูมีรถเก๋งคันหรูจอดอยู่ ซึ่งฉันไม่คุ้นเลยสักนิด ฉันจึงเดินออกไปที่ประตู ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเล็กถามให้แน่ใจ
"คุณมาพบใครคะ"
"ฉันมาพบพี่ภูน่ะ แล้วนี่เธอเป็นใคร ทำไมถึงได้มาอยู่บ้านหลังนี้" สาวสวยตรงหน้าทำท่าทางสงสัย เธอดูสวยน่ารักสดใสผิวขาวผ่องยังกับไข่ปอก หรือว่าจะเป็นแฟนของตาลุงนั่นตายแล้ว
“อ๋อ..คือฉันเป็นหลานป้าสา เจ้าของบ้านหลังนี้ค่ะ" ฉันไม่รู้จะตอบยังไงก็เลยตอบไปตามความจริง ถ้าเป็นแฟนตาลุงนั่น เขาจะไล่ฉันออกจากบ้านไหมนะ
"ช่วยเปิดประตูให้ฉันหน่อย ฉันจะเอารถไปจอดรอพี่ภูข้างใน"
" ได้ค่ะ..เชิญคะ" จากนั้นฉันก็เปิดประตูให้กับเธอแล้วเชิญเธอไปนั่งรอตาลุงนั่น ที่ห้องรับแขก เธอมักจะถามโน่นถามนี่ แต่ดูเธอน่ารักเป็นกันเองมาก ฉันคุยกับเธอได้สักพักตาลุงนั่นก็มาพอดี
"สวัสดีค่ะพี่ภู" เธอกล่าวทักทาย พร้อมกับวิ่งไปสวมกอดชายตรงหน้า ที่กำลังเดินเข้ามาหา แล้วตาลุงนั่นก็กอดตอบแถมยังหอมแก้มเธอซ้ายขวาอีก แต่ทำไมนะใจฉันถึงสั่นๆ ราวกับว่ากำลังโกรธผู้ชายตรงหน้า อ้อมกอดนั่นฉันรู้สึกหวงมันยังไงบอกไม่ถูก
"แล้วนี่น้องมาได้ยังไงคิดถึงพี่ล่ะสิ" สรรพนามที่เขาเรียกกันมันฟังดูน่ารัก แต่ทำไมนะมันช่างขัดหูฉันไปเสียหมด กิริยาอ่อนหวานที่เขาแสดงออกมานั้น มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอิจฉาผู้หญิงคนนี้เสียเหลือเกิน เธอช่างโชคดีที่มีตาลุงนี่คอยดูแลเอาอกเอาใจ "เชิญตามสบายนะคะ ฉันขอตัวก่อนพอดีตั้งหม้อแกงไว้"
ความจริงฉันทำกับข้าวเสร็จแล้ว ฉันแค่อยากออกไปจากตรงนี้ให้มันพ้นๆ แค่นั้นเอง ทำไมฉันถึงรู้สึกใจหายแบบนี้ด้วย ยิ่งเห็นภาพเขาคุยกันกะหนุงกะหนิงมิ หนำซ้ำน้ำตาเจ้ากรรมของฉัน มันยังไหลซึมออกมา ราวกับว่าฉันกำลังถูกแย่งคนรักไป ทั้งที่ฉันกับเขาเป็นเพียงแค่คนรู้จักกันเท่านั้น
"ยังไงเนี่ยมีแอบหญิงไว้ด้วย ยังเด็กอีกต่างหาก เธอบรรลุนิติภาวะหรือยังคะพี่ชาย"
"แอบหญิงบ้าบออะไร นั่นหลานป้าสา ที่เคยเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ พอดีเธอเพิ่งได้งานทำเดี๋ยวก็ย้ายออกไปแล้ว" "ผีดิบอย่างพี่ยอมให้ใครมาอยู่ร่วมชายคาด้วย แสดงว่าเธอต้องมีอะไรดีแน่ๆ เลย สรุปเธอบรรลุนิติภาวะหรือยังคะ"
"เธออายุยี่สิบ"
"ว้าว! แจ๋วเลย!" อะไรของน้องสาวผมเนี่ย ทำไมเด็กสมัยนี้ชอบทำเสียงดัง ทั้งๆ ที่คุยกันใกล้ๆ แค่นี้
"น้องทานข้าวมาหรือยัง ถ้ายังทานด้วยกันนะ"
"เดี๋ยวก่อนสิพี่ชาย พี่ช่วยทำตัวเป็นแสง ให้มันเร็วกว่าเสียงหน่อยได้ไหม"
“อะไรของน้องอีกละ จะมาสอนวิทยาศาสตร์อะไรพี่ตอนนี้"
"สอนวิทยาศาสตร์ส่งวิทยาศาสตร์อะไรกันล่ะ! ตอนนี้คุณแม่กับคุณเจสซี่เขาเริ่มเตรียมงานแล้วนะ ไม่รู้ว่าเตรียมไปถึงไหนกันแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ น้องมีแผนแล้ว แผนนี้ดีที่สุดเลยได้ผลแน่" นับดาวพูดพร้อมกับฉายแววตาเจ้าเล่ห์ออกมา จนผมสงสัยในแผนการของเธอ
"แผนอะไรของน้อง"
"เอาหูมาใกล้ๆ จะพูดให้ฟัง" แล้วนับดาวก็เริ่มบรรยายถึงแผนการของเธอให้พี่ชายฟัง เมื่อผู้เป็นพี่ชายของเธอฟังแล้วถึงกับส่ายหัว เพราะว่าไม่เห็นด้วยกับแผนการของน้องสาวเลยสักนิด
"พี่ภูนั่นคือวิธีเดียวที่จะหยุดคุณแม่กับคุณเจสซี่ได้ น้องจะไม่ช่วยแล้วนะ ถ้าพี่ยังลังเลคิดเอาเองก็แล้วกัน คิดให้ดีๆ ด้วย น้องกลับแล้วนะไม่ทานข้าวด้วยหรอก ไม่อยากเป็น กอ ขอ คอ ใคร" พูดจบประโยคนับดาวก็ลุกขึ้นก้าวเดินออกไป ปล่อยให้ผมปวดหัวกับแผนการของเธอ แผนการบ้าบออะไรใครเขาจะยอม
หลายวันต่อมาผมนั่งที่อยู่ภายในห้องทำงาน แต่ในสมองกลับนึกถึงแผนการของน้องสาวตัวแสบ หรือว่าผมจะทำตามแผนที่นับดาวบอกดีนะ นี่ก็ใกล้วันเกิดผมแล้ว ต้องทำอะไรสักอย่าง เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเปิดประตูลงไปที่ฝ่ายบัญชีทันที
"นารามานี่ก่อน” ผมพูดพร้อมกับเดินไปคล้องแขนของเธอ ให้ตามมาท่ามกลางความมึนงงของเหล่าพนักงานในออฟฟิศ
"ช่วยเป็นเมียลุงเนี่ยนะ! เหอะบ้าไปแล้ว"
"เธอจำไม่ได้เหรอ เธอเคยบอกว่าถ้าฉันขออะไรเธอก็จะช่วยฉันอย่างไม่ลังเลเลยยินดีที่จะช่วยฉันทุกอย่าง ฉันขอให้เธอช่วยฉันแค่เรื่องเดียวนะ”
"ทุกอย่างของฉัน ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องเป็นเมียลุงนะ”
"เธอก็แค่ช่วยเป็นเมียหลอกๆ ให้ฉันหน่อย ตอนนี้ฉันกำลังลำบากแม่กำลังจะยัดเยียดผู้หญิงให้กับฉัน ผู้หญิงที่ฉันไม่ได้รักและก็ไม่คิดจะรักผู้หญิงคนไหนด้วย นอกจาก.." ผมไม่พูดต่อแต่ส่งสายตาให้เธอแทนคำพูด ซึ่งผมแน่ใจว่านาราพอเดาออกว่าผมหมายถึงใคร
"นี่ลุง ให้ฉันช่วยอย่างอื่นเถอะนะ! แล้วทำไมไม่ให้ผู้หญิงคนนั้น ที่ไปหาลุงที่บ้าน ไปขอให้เธอช่วยสิ"
"จะบ้าเหรอนั่นมันนับดาว น้องสาวในไส้ของฉันเลยนะ" เมื่อได้ฟังคำตอบจากเขาทำให้ฉันอดที่จะแอบอมยิ้มไม่ได้ แต่แกล้งทำเป็นหันหน้าไปทางอื่น เพื่อเก็บอาการดีใจเอาไว้ ฉันข้องใจมานานแล้ว ตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้นมาหาเขาในบ้าน แต่ฉันไม่กล้าถามเขาว่าเธอเป็นใคร
"จดทะเบียนสมรสนะลุงไม่ได้เล่นขายของอยู่ดีๆ ฉันก็ได้สามี ถึงจะปลอมๆ ก็เถอะ แต่ในทะเบียนสมรสนั่นมันเป็นของจริง"
"ฉันไม่ได้ให้เธอช่วยเปล่าๆ หรอกนะ ฉันจะส่งน้องเธอเรียนหมอจนจบ ฉันจะจ่ายเงินให้เขาเดือนละห้าหมื่นบาท จนกว่าเขาจะเรียนจบเลยเธอคิดดีๆ นะ เพราะข้อเสนอของฉันไม่ได้เอาเปรียบเธอ"
มันก็จริงนะถ้าเขาพูดแบบนี้ตั้งแต่แรก ฉันอาจจะยอมเขาตั้งแต่ลงจากรถแล้วก็ได้ เดือนตั้งห้าหมื่นเชียวนะนาทีจ๋าพี่ยอมทำครั้งนี้ เพื่อน้องชายสุดที่รักของพี่นะ เป็นไงเป็นกันฉันยอม ฉันตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับเขาและขอใช้คำนำหน้าว่านางสาว แต่เขาก็บอกว่าไม่ได้ และต้องใช้นามสกุลของเขาเดี๋ยวแม่เขากับผู้หญิงคนนั้นจะไม่เชื่อกลัวแผนแตก
ผมว่าแผนของนับดาวก็ไม่เลวนะ ดีด้วยซ้ำไป ผมชอบซะอีก ส่วนเรื่องเงินอยู่นอกแผน ผมแค่อยากทำให้เธอรู้ว่าน้องชายของเธอจะไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน ในระหว่างเรียนไม่ว่าพรุ่งนี้หรือวันไหนๆ จะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่มีวันปล่อยมือจากเธอนารา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก