รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก นิยาย บท 16

สรุปบท เรื่องของเรา: รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก

อ่านสรุป เรื่องของเรา จาก รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก โดย ปีศาจชอนซา

บทที่ เรื่องของเรา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายสำหรับผู้ใหญ่ รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ปีศาจชอนซา อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

การเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ มันทำให้ฉันคุ้นเคยกับครอบครัวของตาลุงนี่มากขึ้น คุณหญิงแม่ของเขาท่านไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด อย่างน้อยท่านก็มาเยี่ยมฉันบ่อยๆ ดังเช่นในวันนี้

"เดี๋ยวแม่จะให้นับดาวเตรียมเก็บของไว้ให้ หนูนาราออกจากโรงพยาบาล เราจะเดินทางขึ้นเหนือทันที"

"แม่กับน้องก็จะไปด้วยเหรอครับ"

"ใช่ แม่มาคิดดูแล้ว เรามีเงินทองมากมาย แต่หาเวลาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันไม่ได้เลย อย่างที่ลูกเคยบอกเงินทองมากมายเหล่านั้น มันเปรียบกับชีวิตหรือความสุขของเราไม่ได้"

"เย้! ดีใจจังเลย หนูคิดถึงไร่องุ่น คิดถึงสตรอว์เบอว์รี คิดถึงแปลงผัก คิดถึงอากาศดีๆ คิดถึงต้นไม้ คิดถึงพี่อาทิตย์ คิดถึงเหนือ"

"ดีใจเป็นเด็กไปได้ รีบไปเตรียมของได้แล้ว นาราออกจากโรงพยาบาลจะได้เดินทางทันที"

"ไปเถอะแม่ ปล่อยให้พี่ภูได้อยู่กับเมียเขาบ้าง คนแก่เห่อเมียก็อย่างนี้แหละนะ"

"ไม่ต้องมาล้อพี่เลย ทีตัวเองตอนอกหักพี่ภูคะ..พี่ภูขา..น้องเสียใจจังเลยค่ะ ใครปลอบ หืม"

“พอเลยทั้งคู่ หนูนาราจะได้พักผ่อน" ฉันยกมือขึ้นไหว้แม่ของเขาแล้วกล่าวขอบคุณที่ท่านอุตส่าห์มาเยี่ยม ที่ท่านเอ็นดูฉัน เมื่อแม่กับนับดาวเดินออกไป ผมก้าวขึ้นไปนั่งบนเตียงของคนไข้ทันที

"ทำบ้าอะไรของลุง ลงไปเลยนะ ฉันจะพักผ่อนง่วงแล้วจะนอน"

"ขอกอดหน่อยก็คนมันคิดถึงจะตายอยู่แล้ว"

"อะไรของลุงจะมาคิดถึงทำไม ก็เห็นหน้ากันทุกวัน" เขาไม่ฟังคำทัดทานของฉันแม้แต่น้อย คุณภูตะวันขึ้นมานอนแล้วโอบกอดฉันจากทางด้านหลัง พร้อมทั้งเอาคางมาเกยที่ไหล่ของฉันอีกด้วย ทำไมนะผู้ชายที่หล่อเพอร์เฟกต์อย่างเขา ถึงอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้หรือเขาจะอยู่เพื่อรอฉัน ขอเข้าข้างตัวเองหน่อยละกัน

หลังจากออกจากโรงพยาบาล เขาก็พาฉันตรงไปที่ห้างสรรพสินค้า เขาบอกว่าจะพาฉันมาทานข้าวข้างนอกบ้าง และก็จะพาซื้อของ ฉันอยากได้อะไรจะตามใจทุกอย่าง นี่มันสามีแห่งชาติชัดๆ สายเปย์มากค่ะลุง

"ทานอาหารเสร็จแล้วเราค่อยไปเดินซื้อของกัน อยากได้อะไรบ้างคิดไว้นะเดี๋ยวพาไปซื้อ" เขาพูดขณะที่พาฉันนั่งทานอาหารที่ร้านชาบู อยากบอกว่านารายืนหนึ่งเรื่องชาบูเหมือนลุงรู้เลยนะ หรือว่าเขารู้จึงพาฉันมากินที่นี่

"ฉันไม่อยากได้อะไรหรอก แค่เป็นอยู่ตอนนี้ฉันก็สบายจะตายอยู่แล้ว ลุงไม่ต้องซื้ออะไรให้ฉันก็ได้แค่พามากินของอร่อยๆ ก็พอแล้ว" "สำหรับเธอฉันให้ได้ทุกอย่าง แค่นี้ไม่พอหรอกชีวิตฉัน ฉันยังให้เธอได้เลย"

"งั้นลุงก็ตายซะเถอะ!"

"เฮ้ย! อะไรของเธอเนี่ย" ฉันแกล้งเขาด้วยการ เอาตะเกียบทิ่มที่ไปที่อกข้างซ้ายของเขา อย่างเผลอตัวลืมไปว่านี่มันร้านอาหารในห้าง คนมองมาที่ฉันทั้งร้าน เพิ่งรู้ว่าตัวเองก็เล่นใหญ่เหมือนกันแฮะ

"อ้าว! ..ไหนบอกว่าชีวิตก็ให้ได้ไง ก็เลยจะทิ่มเอาหัวใจลุงมาต้มใส่น้ำซุปร้อนๆ หัวใจสดๆ คงอร่อยน่าดู" "คงไม่ได้หรอกหัวใจของฉันมันไม่ได้อยู่ตรงนี้"

"ทำไมกระเพาะของลุงมันอยู่ตรงนั้นรึไง พิลึกคน" ฉันชี้ไปที่อกข้างซ้ายของเขา จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินต่อ ร้านนี้อร่อยจริงๆ หรือว่าฉันหิวก็ไม่รู้

"เปล่า พอดีว่าหัวใจของฉันมันอยู่ที่เธอ" คำตอบของเขา ฉันไม่คิดว่าตาลุงนี่จะใช้มุกนี้กับฉัน เขามักพูดแบบนี้ทีเล่นทีจริงเสมอ แต่เขาคงไม่ได้คิดอะไรกับฉันหรอกมั้ง เขาสมบูรณ์แบบทุกอย่างผิดกับฉันที่ไม่มีอะไรสมบูรณ์เลยสักอย่าง

"ลุงกินไปเลยพูดอะไรก็ไม่รู้" ผมพูดความจริงต่างหาก แต่ด้วยอายุที่ห่างกันเลยทำให้ผมไม่กล้าพูดอะไรจริงจังออกไป ผมกลัวกลัวว่าเธอจะปฏิเสธ ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงรู้สึกแย่มากๆ

“สวัสดีค่ะท่านประธาน" ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน คุณกนกนั่นเอง โลกนี้มันช่างกลมจริงๆ เชื่อเลย

"สวัสดีครับคุณกนก"

"ท่านประธานไม่ได้มาคนเดียวสักหน่อย เขามากับเมียอย่าลืมทักเมีย! ท่านประธานด้วยนะคะคุณกนก” ผมโคตรที่จะดีใจเลย ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม เธอบอกว่าเมียท่านประธาน เอาวะ! น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน นับประสาอะไรกับใจคนสู้ๆ ผมบอกกับตัวเอง

"สวัสดีจ้านารา เขาลือกันให้แซด ว่าเธอกับท่านประธานเป็นอะไรกันยินดีด้วยนะ" เวลากนกพูดเธอมักจะจีบปากจีบคอ เหมือนหวังดียินดีอะไรประมาณนั้น แต่สายตาของเธอก็ไม่เป็นมิตรกับฉันเหมือนเดิม ทั้งที่เราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกันมาก่อน

"ขอโทษครับพอดีทานอาหารเสร็จแล้ว ผมขอตัวพาภรรยาไปชอปปิงก่อน วันนี้ไม่จำกัดวงเงินนะเมียจ๋า ช้อปได้ตามสบายเลย" ตาลุงนี่เหมือนรู้งานเลย เขาพูดพร้อมทั้งโอบไหล่ของฉัน เดินออกมาจากร้านอาหาร ปล่อยให้ยัยพี่กนกนั่นยืนสะดีดสะดิ้งกระทืบเท้ารัวๆ แล้วกรี๊ดออกมาอย่างไม่อายใคร

"ไม่ต้องโอบแล้วแสดงเนียนเกินไปแล้วนะลุง อยู่กับลุงนี่ฉันเปลืองตัวชะมัดเลย!"

"แหม..ก็ถือซะว่าให้กำไรกับผู้มีอุปการคุณไง"

"อ้าว! ก็อยากเป็นทางการบ้างไม่ได้เหรอ" ฉันเหนื่อยที่จะพูดกับเขาแล้ว ฉันว่าเขาพูดมากกว่าฉันเสียอีกแต่เวลาอยู่กับคนอื่นทำเป็นเข้มนะลุง

"แล้วเรามากรุงเทพฯ นานหรือยัง แล้วพักที่ไหนกับใครพี่ขอโทษนะที่ไม่ได้โทรหา"

"ไม่เป็นไรหรอกเจ๊เพิ่งมาได้สองสามวันเอง พักที่ xxx พักอยู่กับเพื่อน เจ๊ไม่ต้องห่วงหรอก"

"แล้วเรียนทันเหรอมันไกลนะเอาอย่างนี้ มาอยู่ที่คอนโด xxx ใกล้กว่าพี่ซื้อไว้นานแล้ว เดี๋ยวยกให้เลยเตรียมเอกสารไว้เดี๋ยวโอนให้ด้วย"

"โอ้โห! ..พี่ คอนโดแถวนั้นแพงมากเลยนะ ไม่เป็นไรหรอกผมอยู่กับเพื่อนได้"

"สำหรับน้องเมียแค่นี้จิ๊บๆ อย่าเกรงใจพี่เลย"

"อย่างนี้สิพี่เขย เอาเจ๊นาราไปเลยผมยกให้"

"แกเป็นแม่ฉันเหรอ..เขาเอาของมาล่อหน่อยไม่ได้เลยนะ แล้วไม่ต้องมายกฉันให้ใครเลยไอ้น้องบ้า"

"โธ่! เจ๊ผมล้อเล่นน่า.."

“เรื่องของพี่อย่าบอกแม่นะ กลัวแม่ไม่สบายใจเดี๋ยวพี่จะบอกเอง"

"ผมว่าแม่คงสบายใจ ถ้าเจ๊มีผัวเพราะแม่ไม่คิดว่าจะมีใครมาเอาเจ๊ เพื่อนมาแล้วผมไปก่อนนะ บ๊าย บาย คนมีผัว ไปแล้วนะครับพี่เขย"

"ไอ้น้องบ้า ไอ้หมอบ้า..จะมีคนไปรักษากับแกไหมเนี่ยไอ้หมอติ๊งต๊องไปเลยนะ ตั้งใจเรียนด้วย อย่าคิดหนีเที่ยวล่ะ”

"ค้าบ.." ผมชอบนะที่พี่น้องคู่นี้เขาพูดล้อเล่นกันไปมา มันน่ารักดีนาราชอบมองโลกในแง่ดี เพราะเธอมีภูมิคุ้มกันที่ดีในสังคมที่แย่แม่ของเธอคงเลี้ยงมาดี

"ทำไมไม่บอกแม่ล่ะเรื่องของเรา" เรื่องของเราคำพูดของเขามันยังกำกวมสำหรับฉัน มันไม่ชัดเจน คำถามเขามันฟังดูง่าย แต่คำตอบของฉันมันยากไม่รู้จะตอบยังไงดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก