โอปาของสาวๆ – ตอนที่ต้องอ่านของ รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก
ตอนนี้ของ รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก โดย ปีศาจชอนซา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายสำหรับผู้ใหญ่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง โอปาของสาวๆ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลายวันแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มจะลงตัว ผมโทรให้แม่กับนับดาวมาดูแลไร่แทน ซึ่งผมเองก็ยังต้องการให้นับดาวเรียนรู้งานที่ไร่ด้วย โดยวานให้เมืองรามเป็นคนช่วยและสอนงานให้กับน้องสาว ในระหว่างที่ผมจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด
“พี่แน่ใจนะว่าเพื่อนของพี่จะสอนงานน้องได้ หน้าตาไม่เหมือน.."
"ไม่เหมือนอะไรครับคุณนับดาว" หน้าตาที่หล่อเหลาบวกกับความขาวของเมืองราม ใครเห็นก็คิดว่าเขาต้องทำงานออฟฟิศอย่างเดียว แต่ใครจะรู้ว่าเขาไม่ชอบงานเหล่านั้นเลย เขาชอบอยู่กับธรรมชาติ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาคลุกคลีอยู่กับไร่ได้ทั้งวัน ทั้งเดือน ทั้งปีไม่มีเบื่อ
"ไม่เหมือนคนทำงานในไร่ เหมือนคนมาเดินชมไร่มากกว่า" นับดาวพูดขึ้นมาลอยๆ
“ผมว่าคุณก็ไม่เหมือนเจ้าของไร่ เหมือนนักท่องเที่ยว ที่แวะมาถ่ายรูปแล้วก็กลับไปมากกว่า วันๆ ทำอะไรเป็นบ้าง"
"ถึงฉันจะแวะมาถ่ายรูปแล้วกลับไป มันก็คือการโปรโมตไร่อย่างหนึ่งของฉัน"
“ครับโปรโมตก็โปรโมต งานของคุณเนี่ยสบายจังเลยนะครับ"
"พอได้แล้วทั้งคู่เลย ฉันให้นายมาสอนงานนับดาว ส่วนนับดาวพี่ให้น้องมาเรียนรู้งานจบนะ" ปัญหาคือทั้งสองไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ สรุปคนสอนงานกับคนฝึกงานจะได้วางมวยกันไหมนี่ แต่ไม่ว่ายังไงนับดาวก็ต้องเรียนรู้งานจากเมืองรามอยู่ดี เพราะผมต้องไปตามนารากลับมา
หลายวันผ่านไปฉันกับตาลุงนั่นก็ยังคงติดต่อกันโทรหากันทุกวัน เขาบอกว่ารอแม่กับคุณนับดาวไปดูงานที่ไร่แทน แล้วเขาจะมารับฉันกลับไป บางทีฉันก็รู้สึกใจหาย ถ้าได้กลับไปจริงๆ มารดาจะอยู่กับใคร แม่คงเหงามาก เวลาที่ฉันกับนาทีไม่อยู่ มันคงเป็นช่วงเวลาที่แม่อ้างว้างเป็นที่สุด
"นาราตื่นหรือยังทำไมเดี๋ยวนี้ตื่นสายทุกวันเลย บาสมารอนานแล้วนะลูก" เสียงแม่ดังมาจากข้างล่าง ช่วงนี้ฉันไม่รู้เป็นอะไร ชอบนอนเป็นที่สุดเลย แทบจะไม่อยากลุกออกจากที่นอนด้วยซ้ำ
"ค่ะแม่ เดี๋ยวหนูลงไปค่ะแป๊บหนึ่ง" ฉันตะโกนบอกแม่ไป ก่อนจะเข้าห้องน้ำอาบน้ำแต่งตัว เพราะวันนี้นัดกับบาสจะไปงานแต่งจอย เพื่อนสมัยเรียน ซึ่งไม่ได้เจอกันนานแล้ว สักพักฉันก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วรีบลงมา โดยมีบาสรออยู่ข้างล่างแล้ว
"อ้าว! หนูนาราได้ข่าวว่ามีผัวเป็นถึงเจ้าของบริษัทใหญ่โต อยู่กรุงเทพฯ ทำไมถึงได้มาอยู่บ้านคนเดียวล่ะ ผัวเอ็งไปไหนไม่เห็นมาหาสักที"
"เขางานยุ่งจ้าป้า" ฉันพูดพลางชำเลืองมองไปที่มารดา ฉันกลัวว่าแม่จะไม่สบายใจอยู่ๆ ลูกสาวก็ตกเป็นขี้ปากของชาวบ้านแบบนี้
"ดูนาราดีๆ นะบาส ไปได้แล้วนาราระวังเรื่องเครื่องดื่มด้วยล่ะ"
"ค่ะแม่"
"ครับคุณน้า เดี๋ยวผมจะดูแลนาราเอง ไปกันเถอะนารา"
ฉันนั่งรถมากับบาส เพื่อตรงไปยังบ้านของจอย ที่เป็นหมู่บ้านใกล้ๆ กันนี่เองไม่ไกลมาก
"นาราบาสขอถามอะไรหน่อยสิ" บาสพูดออกมา ขณะที่ตายังมองถนนมือก็บังคับพวงมาลัยรถไปด้วย
"บาสมีอะไรเหรอถามมาสิ"
"เอ่อ..นาราแน่ใจแล้วใช่ไหม ที่เลือกเขาเข้ามาในชีวิต คือบาสแค่เป็นห่วงนาราน่ะ"
"ขอบใจมากนะบาส นารามาไกลเกินกว่าจะกลับไปแล้ว นาราขอเดินต่อไปในทางที่นาราเลือกก็แล้วกันนะ ทางที่นาราจะเดินไปกับเขาพร้อมๆ กันให้สุดปลายทางดังที่หวังเอาไว้"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นบาสก็ดีใจด้วยนะ แต่ถ้าวันไหนเขาทำนาราเสียใจ อย่าลืมเพื่อนคนนี้นะ บาสจะคอยอยู่ข้างๆ เสมอ" ฉันฉีกยิ้มกว้างพร้อมทั้งพยักหน้าให้กับบาส อย่างน้อยเขาก็เป็นเพื่อนที่คอยอยู่ข้างๆ และหวังดีกับฉันตลอดมา แล้วสักพักรถก็เล่นเข้ามาถึงในงานบ้านของจอย
พอผมขับรถมาถึงหมู่บ้าน นาทีบอกว่าแค่ถามบ้านของเจ๊คะน้าไปทางไหน ทุกคนในย่านนั้นรู้จักหมด ที่ผมแปลกใจคือบ้านนี้เขาใช้สระอากันทั้งตระกูลกันเลยหรือเปล่า ถ้าผมมีลูกหวังว่านาราคงไม่ตั้งชื่อลูกผมว่าอากาศหรอกนะ ผมไม่ชอบชื่อนี้เอาเสียเลย มันดูว่างเปล่ายังไงไม่รู้ ผมถามทางมาเรื่อยๆ ไม่นานผมก็ขับรถสปอร์ตคันหรูมาจอดยังหน้าร้านตามที่คนแถวนี้บอกมา
"สวัสดีครับใช่บ้านแม่คะน้าไหมครับ" ผมเอ่ยถามออกไป พร้อมกับเดินเข้าไปในร้าน ที่มีลูกค้าเลือกซื้อของอยู่ค่อนข้างหนาตา
"ฉันนี่แหละคะน้าเจ้าของร้าน มีอะไรหรือเปล่าพ่อหนุ่ม" หญิงวัยกลางคนมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างคุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน รูปร่างหน้าตาผิวพรรณหล่อเหลายังกะนายแบบ ไม่น่าใช่คนแถวนี้แน่ๆ
"สวัสดีครับคุณแม่ ผมพ่อเลี้ยงตะวัน เป็นสามีของนาราครับ" แม่คะน้าถึงกับอ้าปากค้าง พร้อมกับเอามือขึ้นมาทาบอก ส่วนลูกค้าในร้านต่างหันหน้ามามองกันเป็นตาเดียว เพราะก่อนหน้าคนละแวกนี้ต่างก็ซุบซิบนินทา เรื่องที่นาราเป็นข่าวและคิดว่าเธอคงถูกหนุ่มผู้ดีทิ้ง ถึงได้หนีกลับมาบ้านเกิดแบบนี้
"แหม! แม่คะน้ามีลูกเขยรูปหล่อเชียวนะ หนูนาราเนี่ยตาถึงจริงๆ เลย แถมรวยอีกต่างหาก" ลูกค้าคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมกับเสียงซุบซิบระยะเผาขน แน่นอนข่าวนี้แพร่กระจายรวดเร็วยิ่งกว่าคลื่นสัญญาณสี่จีเสียอีกใครๆ ต่างก็อิจฉา ที่นาราได้สามีรูปหล่อและรวยแบบพ่อเลี้ยงตะวัน
"สมใจดูลูกค้าให้ที เชิญคุณไปคุยด้านในก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย" แม่คะน้าสั่งสมใจ ซึ่งเป็นลูกจ้างที่เธอไว้ใจได้ ก่อนจะเดินนำหน้าชายหนุ่มเข้าไปด้านใน ผมเดินตามหลังแม่คะน้าไปด้านในของร้าน ซึ่งถูกจัดแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ก็เป็นระเบียบและเรียบร้อยสะอาดหูสะอาดตาน่าอยู่เลยทีเดียว
"เชิญนั่งสิ"
"เงียบไปเลยยัยไข่เยี่ยวม้า นิสัยเธอนี่ ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ นะ"
"ฉันชื่อไข่มุกเรียกให้ถูกด้วย ทีกับนาราพูดเพราะเชียว"
"เดี๋ยวเราขอตัวไปหาจอยที่ห้องเจ้าสาวก่อนนะ เดี๋ยวขบวนเจ้าบ่าวก็มาถึงแล้ว" ฉันพูดเสร็จก็เดินเลี่ยงออกมา ปล่อยให้ไข่มุกกับบาส ต่อปากต่อคำกันไป ฉันไม่เข้าใจสองคนนั้นเลย เจอกันทีไรทะเลาะกันทุกที ถ้าได้เป็นแฟนกันคงลูกดกแน่
สักพักผมก็ขับรถมาถึงยังบ้านที่จัดงาน น่าจะเป็นบ้านหลังนี้ ผมจอดรถและเปิดประตูก้าวเท้าลงมา ทุกคนในงานต่างจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว
"กรี๊ด! โอปปาชัดๆ เฮ้ยพวกแกใครหน่ะ ญาติเจ้าบ่าวหรือเปล่า"
"เออนั่นสิแกหล่อสเปกพ่อของลูกฉันเลย" หญิงสาวอีกคนเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชอบ และชื่นชมในตัวพ่อเลี้ยงตะวัน
"พวกแกหล่อมากอ่ะ หล่อจนฉันให้อภัยไม่ได้ ดูรถที่ขับมาสิแก รถสปอร์ตเชียวนะเว้ย!"
"กรี๊ดกร๊าดอะไรกันสาวๆ เงียบๆ หน่อยหมอสูตรจะเริ่มพิธีแล้ว" ทางด้านพิธีกรในงานได้พูดขึ้นเสียงดัง เมื่อสาวๆ พากันกรี๊ดออกมาเสียงดัง ฉันยังคงนั่งอยู่ข้างๆ จอย ที่วงพาขวัญ ล้อมรอบไปด้วยเจ้าบ่าวเจ้าสาว ญาติเจ้าบ่าวเจ้าสาว เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว ฉันได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดข้างนอก ไม่รู้พวกนั้นเขาคิดอะไรนักหนา
"ใครก็ไม่รู้หล่ออย่างกับพระเอกหนัง สงสัยจะเป็นญาติฝั่งเจ้าบ่าว นั่นไงเขาเดินเข้ามาแล้ว!"
"ฉันจองนะโว้ย หล่อโคตรๆ แถมรถที่ขับมานะแกไม่ได้นั่งแค่ยืนพิงถ่ายรูปก็ยังดี"
"พวกมึงกูอยากได้อ่ะ! คนอะไรหล่อเพอร์เฟกต์มากไม่มีที่ติเลย"
"ขอโทษครับมีใครรู้จักนาราบ้างไหมครับ เธออยู่ในงานนี้ด้วยหรือเปล่า" เสียงนั่นมันคุ้นหูฉันมาก เวลานี้ฉันหันหลังให้กับเขาอยู่และด้านหลังของฉันก็มีเพื่อนๆ อยู่หลายคน ตอนนี้ใจของฉันมันเต้นรัวราวกับกลองเพลอีกแล้ว ใช่เขาไหม ใช่เขาหรือเปล่า เขามาแล้วใช่ไหม ใจของฉันมันตั้งคำถามรัวเลยทีเดียว
ฉันค่อยๆ หันหลังกลับไป ภาพที่เห็นคือชายตัวสูงหน้าตาหล่อเหลาจมูกคมเป็นสัน เขาคือตาลุงนั่นคนที่ฉันกำลังตั้งตารอ ฉันไม่รอช้ารีบลุกขึ้นวิ่งไปที่เขาทันที
"ค่อยๆ เดินนาราเดี๋ยวก็หกล้มไปหรอก" สิ้นเสียงพูดร่างเล็กของนาราก็อยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ท่ามกลางความอิจฉาของสาวๆ ที่มาร่วมงาน ทุกคนในงานต่างมองมาที่นาราและชายหนุ่มตรงหน้าเป็นตาเดียว วันนี้เธอได้แย่งซีนเจ้าสาวไปเสียแล้วนารา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก