หลังจากที่ผมนวดขาและคลึงเท้าให้พลอยเสร็จ ผมก็นั่งรอนาราเธอบอกว่าหิว แต่ทำไมไม่ลงมาสักที ผมจึงถือจานข้าวขึ้นมาไปเธอ แต่ปรากฏว่านาราหลับไป แล้วผมจึงเดินไปห่มผ้าและปรับในห้องให้อุณหภูมิมันอุ่นขึ้น เพราะเธอเปิดไว้เย็นมาก ผมกลัวว่าเธอจะไม่สบาย ก่อนที่ผมจะหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป
เช้าของวันใหม่แสงแดดจ้าที่ส่องแสงกระทบมา ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันสายมากแล้ว ฉันหันมองไปหาคนข้างๆ แต่เวลานี้มันกลับว่างเปล่า ในใจของฉันคิดว่าเขาคงจะออกไปไร่แล้ว
ฉันดันตัวลุกขึ้น แต่ก็ต้องล้มนอนลงตามเดิม เพราะรู้สึกหน้ามืดเวียนหัวมาก หรือเป็นเพราะว่าฉันพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่อาการแบบนี้ และประจำเดือนของฉันก็ยังไม่มา ฉันเคยเรียนเพศศึกษา กลางคืนหิวบ่อยๆ รู้สึกหน้ามืดเวียนหัว ประจำเดือนขาดอาการแบบนี้มันเหมือนคนท้องเลย!
"ท้อง!" ฉันอุทานออกมาเสียงหลง ความจริงมันเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ฉันกลับรู้สึกว่าช่วงเวลานี้ ฉันยังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่คน ฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าฉันจะเป็นแม่ที่ดีเหมือนที่แม่ของฉันเป็นได้ไหม
"ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ทำไมฉันถึงไม่สังเกตเลย รู้แต่ว่าเดือนนี้ก็ยังไม่มาแล้วเดือนที่แล้วฉันเริ่มไม่แน่ใจ" นาราเริ่มบ่นพึมพำกับตัวเองคนเดียวในห้องนอน น้ำตาใสๆค่อยๆ เล็ดออกมาจากตาคู่สวย ใบหน้าที่หมองหม่นลงนั้น
หากว่ามีผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าสามีนอนอยู่ข้างๆ แล้วปลอบประโลมเธอในเวลานี้ มันคงจะทุเลาความรู้สึกแย่ๆ ลงไปได้บ้าง นาราลุกนั่งชันเข่าขึ้น เรียวแขนทั้งสองข้างโอบไว้กับเข่าที่ตั้งชัน ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ในเวลานี้เธอทำได้เพียงแค่ปลอบประโลมตัวเองเท่านั้น เธอตัดสินใจดันตัวลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะลงมาทานข้าว โดยมีคำหล้าคอยเสิร์ฟอาหารให้
"คำหล้าทุกคนไปไหนกันหมดล่ะ"
"คุณนายแม่กับคุณนับดาวไปที่ไร่เจ้า ส่วนพ่อเลี้ยงออกไปธุระกับคุณพลอยเจ้า" ฉันได้ฟังแค่นั้นก็กลืนข้าวไม่ลง เขาไปโดยที่ไม่บอกฉันสักคำ อย่างน้อยก็น่าจะปลุกและบอกฉันหน่อยเป็นไร
"คำหล้าไปธุระในเมืองเป็นเพื่อนนาราหน่อยสิ"
"ได้เจ้า" เมื่อฉันทานข้าวเสร็จเพราะกินไม่กี่คำก็รู้สึกอิ่ม จึงชวนคำหล้าขึ้นรถตรงไปยังตัวเมืองทันที พอไปถึง ฉันให้คำหล้ารออยู่ด้านนอกแล้วเข้าไปซื้อที่ตรวจครรภ์ในร้านขายยา
"คุณนาราไม่สบาย เป็นอะไรเจ้า"
"นารารู้สึกเวียนหัวนิดหน่อยก็เลยมาซื้อยา ไม่มีอะไรหรอกไปขึ้นรถได้แล้ว" ฉันพาคำหล้าแวะที่ปั๊มก่อน แล้ววานคำหล้าไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ
จากนั้นฉันรีบเดินไปที่ห้องน้ำทันที ใจของฉันเวลานี้มันเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ในระหว่างที่ฉันกำลังลุ้นว่ามันจะขึ้นกี่ขีด ปรากฏว่ามันขึ้นที่ขีดซี และทีได้ผลบวก แปลว่าน่าจะมีการตั้งครรภ์ ฉันพยายามอ่านข้อมูลครั้งแล้วครั้งเล่า วกไปวนมา ที่ตรวจครรภ์ขึ้นสองขีด แสดงว่าฉันท้องเหรอ ฉันบ่นพึมพำคนเดียว ก่อนที่จะเก็บมันเข้าไปใส่ในกระเป๋าสะพายเอาไว้ เมื่อออกมาจากห้องน้ำ ฉันพาคำหล้าขับรถออกมา และบอกเธอว่ารู้สึกปวดหัวไม่ค่อยสบาย จึงมาที่คลินิกแห่งหนึ่ง
"คำหล้านี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว คำหล้าเอาตังค์ไปซื้ออะไรกินรอก่อนนะเดี๋ยวนารามา" ฉันพูดพร้อมกับยื่นแบงก์ห้าร้อยให้กับคำหล้าไป เพราะคลินิกกับห้างมันติดกัน เลยอยากให้เธอไปรอที่ห้างและที่สำคัญฉันไม่อยากให้คำหล้ารู้เรื่องอะไรมากไปกว่านี้
“ไม่เป็นไรเจ้า คำหล้าจะรอคุณนาราแล้วค่อยไปทานพร้อมกันก็ได้เจ้า"
"ไปเถอะคำหล้า มันนานคำหล้ายังไม่ทานอะไรตั้งแต่เช้าไม่ใช่เหรอ" ฉันพูดพร้อมกับยัดเงินใส่มือของคำหล้า แล้วดันหลังเธอ เพื่อให้เดินตรงไปที่ห้าง
ก่อนที่ฉันจะเข้ามาด้านในคลินิก คนค่อนข้างเยอะแต่อยู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหู แล้วหมอก็พูดถึงพ่อเลี้ยงตะวัน ฉันจึงรีบเอาหมวกพร้อมกับแว่นตามาใส่และแอบหลบคนไข้หลายคนที่นั่งรอหมอตรวจอยู่ด้านหน้า
"ดิฉันไม่แน่ใจว่าวันที่เท่าไหร่ แต่เดือนที่แล้วก็ไม่มานะคะเดือนนี้ก็ยังไม่มาอีก"
"ครับ ถ้าอย่างนั้นหมอขอตรวจหน่อยแล้วกัน ขอเจาะเลือดแล้วก็ตรวจปัสสาวะด้วยนะครับ" หมอพีตรวจโน่นนี่บลาๆ แล้วเขาก็ให้นั่งรออยู่นาน ฉันกลับไม่สนใจเวลานั้นเลย เพราะตอนนี้ฉันรู้แค่ว่าโลกใบนี้เหมือนฉันอยู่คนเดียวเพียงลำพังเท่านั้น "เชิญคุณนาราครับ" แล้วฉันก็เดินเข้าไปในห้องตรวจอีกครั้ง
"คุณตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้วนะครับ นี่ครับแผ่นอัลตร้าซาวด์เก็บไว้ดีๆ นะครับ ไว้ให้ลูกดูเดี๋ยวหมอจะจัดยาให้เป็นยาบำรุงครรภ์ คุณแม่ทำอะไรก็ระวังหน่อยนะครับ ช่วงนี้แพ้อะไรไหมครับ"
"ไม่ค่อยแพ้ค่ะส่วนมากจะกินแล้วก็นอน" ฉันพูดพร้อมกับก้มมองแผ่นอุลตร้าซาวด์ใบนั้น น้ำตาของฉันมันไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อฉันกำลังจะเป็นแม่คน ถ้าตาลุงนั่นรู้เขาจะดีใจเหมือนฉันไหมนะ
"คุณนาราจะฝากครรภ์เลยไหมครับ"
"ไว้คราวหน้าจะมาฝากค่ะ"
"พาพ่อเด็กมาด้วยนะครับ จะได้เจาะเลือดตรวจด้วย"
"ค่ะ" ฉันตกปากรับคำคุณหมอออกไป พร้อมกับยิ้มบางๆ ให้กับเขาก่อนจะลุกออกมา
พอหาหมอเสร็จฉันก็ไปทานข้าวที่ห้างสรรพสินค้าเดินดูอะไรเพลินๆ ก่อนจะพาคำหล้าขับรถกลับไร่ ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด แต่อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็เป็นสิ่งดีๆ ในชีวิต ที่ฉันควรรักษาปกป้องดูแล เพื่อให้เขาเติบใหญ่มาอย่างมีคุณภาพ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก