พระอาทิตย์สาดแสงในยามเช้า แสงสีทองสาดส่องเข้ามาในห้อง แม้จะมีผ้าม่านปิดเอาไว้ก็ไม่มิด เมื่อแสงในยามเช้าส่องเข้ามา พอให้รับรู้ได้ว่ามันคือแสงอรุณของเช้าวันใหม่ หนุ่มสาวทั้งสองยังคงนอนกอดกันกลม ประหนึ่งว่าเป็นคนรักกัน นารายังคงโอบพร้อมกับซบใบหน้าเข้ากับอกกว้าง
เธอรู้สึกอบอุ่นกับอ้อมกอดนี้ ราวกับว่าโหยหามันมาทั้งชีวิต ตั้งแต่ขาดบิดาไปเวลาอยู่ภายใต้อ้อมกอดของชายตรงหน้า มันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย เมื่อมีเขาอยู่ข้างกาย ในยามที่เธอเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ ใครจะรู้ว่าเธอจะได้มาอยู่ร่วมชายคา บ้านเดียวกับหนุ่มหล่อที่เป็นถึงเจ้าของโรงงานและบริษัทใหญ่โต แถมยังมีไร่องุ่นอีกด้วย
หากสาวๆ รู้ว่าเธอได้นอนกอดเขาทั้งคืน คงจับเธอไปตบซ้ายขวาให้สาแก่ใจ ที่เอาชายในฝันของพวกหล่อนมากกไว้ในอ้อมกอดแบบนี้ คงอิจฉาแย่เลย
กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! เสียงของนาฬิกาปลุกดังขึ้น ทำให้หญิงสาวพลิกกาย เพื่อเอื้อมมือไปคว้านาฬิกามาปิดเสียง ทั้งที่ตายังหลับอยู่ ในขณะเดียวกันนาราเพิ่งจะรู้สึกตัวคล้ายกับว่าเตียงนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เธอเพียงคนเดียว
"อย่าเพิ่งลุกนอนต่ออีกหน่อยได้ไหมยังเช้าอยู่เลย" ชายหนุ่มตรงหน้าพูดทั้งที่ไม่ลืมตา แต่มือของเขาได้คว้ามาที่เอวของฉันแล้วกอดรัดเอาไว้เข้าร่างกำยำ ฉันตกอยู่ในภวังค์ เมื่อรู้ว่าตาลุงบ้าคงนอนกับฉันบนเตียงนี้ทั้งคืน
เมื่อสติสตางค์ฉันกลับมา ฉันไม่รอช้ารีบผลักเขาออกอย่างแรง ก่อนจะใช้เท้ายันเขาลงไปกองกับพื้น เพื่อให้พ้นจากอ้อมกอดที่รัดแน่นเสียจนฉันจะหายใจไม่ออก
"โอ๊ย! อะไรของเธอเนี่ย เธอจะฆ่าฉันหรือไง" เขาร้องโวยวายออกมาดังลั่น เมื่อฉันผลักและถีบเขาไปอย่างไม่ยั้ง ก่อนที่ฉันจะหยิบหมอนมาได้ แล้วก้มลงไปตีเขาซ้ำๆ แบบรัวๆ โดยที่เขาตั้งหลักไม่ทัน
"ไอ้ลุงบ้า! ไอ้คนโรคจิต! ไอ้คนฉวยโอกาส! ไอ้คนมักมาก! ไอ้คนลามก! ไอ้คนเลว! ไอ้คนบ้า...ไอ้!...ไอ้!" ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าเขาดี ระหว่างที่ฉันด่าเขา ฉันก็ใช้หมอนตีเขาไปด้วย แต่ตาลุงนี่มีแรงเยอะกว่าเขาจับข้อมือของฉันเอาไว้พัลวัน เพราะต่างคนต่างก็ไม่ยอมกัน แต่ตอนนี้ฉันกำลังเสียเปรียบ เพราะแรงที่มีเริ่มจะแผ่วลงแล้ว
"หยุด! หยุดก่อน! หยุดเดี๋ยวนี้นะ! บ้าพอหรือยัง ถ้าพอแล้วก็อยู่นิ่งๆ แล้วฟัง! เธอเอาแรงมาจากไหน ข้าวก็ไม่ได้กินแรงเยอะยังกับช้าง" เขาตะโกนออกมาเสียงดัง ส่วนฉันยังหายใจแรงเพราะหอบเหนื่อย จากการตีเขาไม่ยั้งมือ ฉันหยุดตีแต่ก็ยังมองเขาตาขวางยังไม่ยอมลดละเช่นกัน
"อย่าบอกนะว่าลุงลักหลับฉัน! ฮือๆ! เวอร์จิ้นฉันจบกันเกมแล้ว!"
โป๊ก!
"นี่แหนะ!” เขาเขกมาที่หัวฉันหนึ่งโป๊กอย่างแรง จนฉันต้องเอามือลูบไปมาเบาๆ ไอ้ลุงบ้าเนี่ย เขกลงมาได้ยังไงก็ไม่รู้เจ็บชะมัดเลย
"บ้าสิ! ใครเขาจะบ้าเหมือนลุง ถึงฉันจะสวยฉันก็ไม่เคยอ่อยใคร ไปเลย กลับไปห้องลุงได้แล้ว! ไปชิ้วๆ”
"แหม..ทีแบบนี้ไล่ฉันยังกับหมูกับหมา เมื่อคืนไม่เห็นไล่แบบนี้เลย วันหลังเดี๋ยวฉันจะแวะมาปลอบเธอ ก่อนนอนทุกคืนเลยดีไหม" เขาพูดพร้อมกับเดินก้าวเข้ามาใกล้ๆ ทำท่าจะโอบฉัน ฉันหยิบหมอนขึ้นมาแล้วปาไปที่เขาอีกครั้ง เขาหลบหมอนที่ฉันโยนใส่แล้วทำหน้าทำตาทะลึ่งตึงตังกวนๆ ออกมา ด้วยท่าทางที่ทะเล้น
"ไปเลยนะ! ไปเลย! ไอ้ลุงบ้าคนอะไรกวนประสาทชะมัดเลย"
"ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!" แล้วเขาก็เดินหัวเราะออกไปอย่างอารมณ์ดี ฉันเพิ่งเคยเห็นมุมแบบนี้ของเขา เพิ่งรู้ว่าคนที่อายุสามสิบขึ้นทำแบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ แต่ว่าอาการละเมอของฉันหายไปหลายปีแล้ว ทำไมถึงกลับมาเป็นอีก ที่ฉันเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เพราะเมื่อก่อนฉันมักจะละเมอแบบนี้บ่อยๆ ตั้งแต่วันนั้นวันที่พ่อทิ้งพวกเราไป ฉันยังจำได้ดีที่พยายามอ้อนวอนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พ่อก็เห็นคำอ้อนวอนของฉันเป็นเพียงอากาศ พวกเราไม่มีความหมายอะไรกับพ่อเลย
ผู้หญิงที่มาใหม่คงสำคัญกับบิดาของฉันมาก เขาจึงเลือกผู้หญิงคนนั้น โดยที่ไม่ยอมหันหลังกลับมามองฉัน ที่นั่งทรุดตัวอยู่กับพื้น เพื่ออ้อนวอนให้พ่อกลับมาจนทุกวันนี้ ฉันเริ่มทำใจได้แล้ว ความเข้มแข็งเริ่มมีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฉันมองกลับไปแล้วมีแม่กับน้องจ้องกลับมา ฉันคือความหวังของพวกเขา
ฉะนั้นฉันจึงต้องเข้มแข็งให้พวกเขาเห็นว่าเราจะผ่านมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะมีพ่อหรือไม่มีก็ตาม พวกเราก็อยู่ได้และอยู่ได้ดีด้วยจนถึงทุกวันนี้ เมื่อตาลุงออกไปพ้นห้องแล้ว ฉันก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อคืนฉันคิดว่าฝันไปที่แท้มันคือเรื่องจริง อ้อมกอดอันอบอุ่นที่ฉันได้สัมผัสและรู้สึกได้ เวลาอยู่ใกล้เขาฉันรู้สึกดี โดยเฉพาะอ้อมกอดนั้น แต่แล้วฉันก็พยายามสลัดมันออกไปจากหัว เขาไม่มีทางชอบเด็กอย่างฉันหรอก และฉันก็ไม่คิดที่จะมีใครในตอนนี้ ฉันไม่อยากพาใจไปเจ็บเหมือนที่มารดาเคยพบประสบมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก