หลายวันต่อมาฉันได้รับโทรศัพท์จากโรงงาน xxx y group จำกัดแน่นอนเขารับฉันเข้าทำงาน ฉันรีบวิ่งแจ้นลงบันได พร้อมทั้งตะโกนออกไปยังคนที่นั่งอยู่ข้างล่าง เพราะวันนี้ตาลุงนั่นบอกว่าไม่มีงานตอนเช้าฉันก็งงๆ เขาทำงานอะไร หยุดบ่อยไม่เห็นเจ้านายว่าเขาเลย
"นี่ลุง!" ฉันวิ่งพร้อมทั้งตะโกนออกมาเสียงดัง
"อะไรของเธอเนี่ย! จะวิ่งลงมาทำไม เดี๋ยวก็ตกบันไดคอหักตายหรอก เดินเป็นไหมทำตัวเหมือนผู้หญิงหน่อย" ผมเอ็ดเธอออกไป เพราะในใจของผมเป็นห่วงเธอมาก กลัวว่าเธอจะตกบันไดลงมาแข้งขาหัก
"สาบานว่าที่พูดอ่ะปากหรอลุง ก็ฉันดีใจนี่นา บริษัท xxx y groupจำกัด เขาตอบรับฉันเข้าทำงานแล้วนะ พรุ่งนี้ฉันก็ได้ไปทำงานแล้วดีใจจังเลย" ผมมองไปยังยัยเด็กนั่น อะไรของเธอจะดีใจจนออกนอกหน้าขนาดนั้น แน่นอนที่เธอได้งานผมก็มีส่วน ในการช่วยเหลือ ผมให้เลขาจัดการเรื่องนี้ให้ เพราะคนสมัครเยอะมาก
"ไม่ดีใจกับฉันหน่อยเหรอลุง คนเขาอุตส่าห์วิ่งลงมาบอก"
"ดีใจสิ แต่ฉันก็เก็บอาการจะให้ฉันป่าวประกาศเลยดีไหม หรือจะให้ปิดซอยหน้าบ้านเลี้ยงฉลองเลยเป็นไง"
"ปากดีไปเถอะ! ฉันได้งานทำแล้วเดี๋ยวถ้าฉันย้ายออกไปอยู่ข้างนอกลุงจะเหงา แล้วไม่มีใครทำกับข้าวให้กินไม่รู้ด้วยนะ ถึงแม่บ้านทำก็ไม่อร่อยเหมือนฉันทำหรอกเชื่อสิ" เธอพูดพร้อมกับสะบัดหน้าใสผม นั่นสิผมลืมไป ถ้าเธอได้งานทำแล้วและมีเงินเก็บมากพอที่จะเช่าบ้าน เธอก็ต้องย้ายออกไปผมลืมข้อนี้ไปเสียสนิทเลย
"อืม รู้แล้วว่าทำอาหารอร่อย ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปทำเลยใกล้เที่ยงแล้วฉันมีประชุมบ่าย"
"ค่ะเจ้านายจอมเก๊ก แค่แสดงความดีใจกับฉันมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ..ชิ!" พูดจบฉันก็เดินออกมา วันนี้จะทำเมนูอะไรให้ตาลุงนั่นดี ผัดกะเพราหรือว่าต้มยำดูซิในตู้เย็นมีอะไรบ้าง ฉันบ่นไปคนเดียวระหว่างที่เดินเข้ามาในครัวก่อนจะเปิดตู้เย็น
"โอ้โฮ! นี่มันตู้เย็นหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตเนี่ย ทำไมมันเยอะแยะขนาดนี้ สงสัยตาลุงนั่นคงไปซื้อมาช่วงเช้าแน่เลย" ฉันบ่นพึมพำคนเดียวระหว่างที่เปิดตู้เย็นและของข้างในตู้เย็นมันเต็ม เสียจนไม่มีพื้นที่ว่าง ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้เนื้อนมไข่และอย่างอื่นอีกมากมาย แต่ถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบสมกับที่เป็นคุณชายจอมเก๊กจอมเนี้ยบจริงๆ แล้วฉันก็ลงมือทำอาหารอย่างสุดฝีมือ
แน่นอนฉันไม่ได้สวยเพียงอย่างเดียว ฉันทำอาหารอร่อยด้วย ฉันทำเป็นแทบทุกอย่างทั้งไทยและเทศ ไม่ว่าจะเป็นของคาวหรือว่าของหวาน เพราะที่บ้านฉันจะเป็นคนทำอาหารให้กับทุกคนในครอบครัวได้รับประทาน ฉันสงสารแม่ที่ทำงานหนัก เพื่อพวกเรามาโดยตลอด อะไรที่ฉันแบ่งเบาท่านได้
ฉันจะลงมือทำอย่างไม่ลังเลเลย ฉันลงมือทำอาหารสามอย่างราวสี่สิบนาทีก็เสร็จดั่งเนรมิต อาหารมื้อนี้สำหรับเจ้านายมีผัดกะเพราทะเล ต้มยํากระดูกอ่อน แกงจืดเต้าหู้สามอย่างก็เกินพอแล้วสำหรับเขา จากนั้นฉันก็เตรียมอาหารขึ้นโต๊ะ เพราะเวลานี้ใกล้เที่ยงแล้ว ฉันกำลังจะเดินไปเรียกเขา แต่ตาลุงนั่นก็เดินเข้ามาพอดี
"นี่โทรศัพท์เธอ ฉันได้ยินเสียงเรียกเข้าหลายสายแล้ว"
"แม่ไม่อยากให้ใครเขามองว่าแม่ไม่มีปัญญาส่งเสียลูกเรียนจบสูงๆ เหมือนคนอื่นเขา"
"ใครคนนั้นของแม่หมายถึงพ่อใช่ไหมคะ”
"ใครก็ช่างเถอะแค่นี้นะ ลูกค้าเข้าร้านแม่ต้องไปดูลูกค้าก่อน ยังไงก็ติดต่อมาหาแม่บ้าง แม่รักหนูนะ อย่าเงียบไปแบบนี้ ติดต่อกลับมาบ้างนะนารา”
"ค่ะแม่สวัสดีค่ะ นาราก็รักแม่นะคะ จุ๊บ!" แม่ของฉันก็เป็นแบบนี้ ถ้าพูดถึงพ่อ แม่ก็จะตัดบทการสนทนาทันทีจะไม่มีการพูดต่อ เมื่อวางสายจากมารดาแล้ว ทำให้ฉันนึกถึงคนที่กำลังพูดถึง ผู้ชายผู้ที่ไม่เคยแยแสต่อพวกเราเลย
ครั้งสุดท้ายที่ได้ข่าวพ่อจากป้าสา ป้าบอกว่าพ่อทำธุรกิจส่วนตัวกับภรรยาใหม่ของเขาอยู่แถวกรุงเทพฯ นี่แหละ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะทำอะไรที่ไหนอย่างไร เพราะเขาเองก็ไม่เคยสนใจพวกเราเลยแม้สักนิดเดียว
ผมมาคิดดูแล้วพอจะเดาได้ในคำพูดที่นาราละเมอออกมา เมื่อคืนนั้นคนที่ทิ้งเธอไปคือใคร เธอคงเจ็บปวดมากมันคงเป็นแผลในใจ ที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ไปชั่วชีวิตของเธอ แต่ผมจะเป็นคนรักษามันเองด้วยวิธีของผม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก