สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1018

บทที่ 1018 พลิกแผ่นดินในเมืองหลวง

บทที่ 1018 พลิกแผ่นดินในเมืองหลวง

“นายท่านมีเรื่องต้องทำ ข้าไปเองได้ ขอเพียงนายท่านมอบเงินให้ข้าก็พอแล้ว” สตรีนางนั้นยิ้มหวาน

เจียงหว่านเฉินเหลียวมองนาง แล้วกล่าวอย่างใจเย็น “เงินข้ามอบให้เจ้าได้ แต่เรื่องที่ข้าให้เจ้าตรวจสอบ พรุ่งนี้เจ้าก็ต้องตรวจสอบออกมาให้ข้าเช่นกัน”

“นายท่านวางใจ ข้าจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จอย่างแน่นอน” สตรีนางนั้นแบมือออก

เจียงหว่านเฉินวางถุงเงินลงบนมืออีกฝ่าย “วันนี้ไม่ต้องเข้าไป ข้างในมีผู้สูงศักดิ์ หากเจ้าชนกับนางเข้า เกรงว่าแม้นมีสิบชีวิตก็ไม่อาจรอดพ้น”

สตรีนางนั้นไม่ได้จริงจังในคราแรก ครั้นนางเห็นผู้คุ้มกันที่เฝ้าอยู่หน้าประตู จึงได้รู้ว่าเจียงหว่านเฉินไม่ได้ล้อเล่น เกรงว่าข้างในจะมีผู้สูงศักดิ์อยู่จริง ๆ จู่ ๆ นางก็นึกถึงสตรีที่เพิ่งพบเมื่อครู่นี้จึงเข้าใจบางอย่าง

“มิน่าเล่าไยจึงไม่ได้จริงใจต่อโบตั๋น ที่แท้เป็นเพราะไม่ชอบข้าโบตั๋นปลอมดอกนี้ ชอบเพียงโบตั๋นจริงดอกนั้น” สตรีนางนั้นเอนตัวเข้าหา ทว่าเจียงหว่านเฉินเบี่ยงตัวหลบก่อนที่นางจะทันได้สัมผัสเขา

ระยะนี้ภายในเมืองหลวงเกิดข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่ว กล่าวว่าคุณชายจวนเจียงพึงใจยอดพธูแห่งหอโบตั๋น เพื่อนางแล้วจ่ายเงินไปนับพันตำลึง แต่แท้ที่จริงแล้ว เจียงหว่านเฉินเพียงแสร้งทำ เป้าหมายคือเพื่อล่อคนออกมา

สกุลเจียงกับสกุลโม่บาดหมางกันแล้ว ทว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ไม่กลับไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ อีก เรื่องนี้ทำให้เจียงหว่านเฉินเริ่มทนไม่ไหว อยากจะเป็นฝ่ายล่อลวงคนผู้นั้นออกมา ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่แต่ไรมาไม่เคยไปหอนางโลม ตอนนี้กลับกลายเป็นแขกประจำของหอนางโลม เพียงแต่คนมือสะอาดก็ยังคงเป็นคนมือสะอาด เขาเพียงแค่แสร้งทำเท่านั้น

ลู่จื่ออวิ๋นกับมู่ซืออวี่เลือกของ จากนั้นก็ให้คนงานของหอนงคราญนำของไปส่งที่จวนอ๋อง จากนั้นจึงนั่งรถม้าไปยังหอเซียวเหยา ภัตตาคารในเมืองหลวง

“ร้านขนมฝั่งตรงข้ามพวกท่านน้าเปิดหรือเจ้าคะ?” ลู่จื่ออวิ๋นนั่งอยู่ริมหน้าต่างมองไปยังร้านขนมฝั่งตรงข้าม

“ไม่ผิด ขนมระยะนี้ที่เจ้ากินล้วนเป็นของที่ซื้อมาจากพวกเขา” มู่ซืออวี่เอ่ย “พวกน้าของเจ้าเปิดร้านขนมไปทั่วทุกแห่งหนแล้ว เกือบตามทันร้านเครื่องเรือนของข้า พวกเขายุ่งมากทีเดียว ร้านในเมืองหลวงล้วนเป็นข้าให้คนไปคอยดูแล ทุกปีจะส่งบัญชีกลับไป จากนั้นก็รับกำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ”

“ไม่เจอพวกท่านน้านานแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง”

“ยังมีท่านยายของเจ้าอีก”

“กลับมาคราวนี้ ข้าคิดจะกลับไปเยี่ยมเสียหน่อย” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “รอไปเยี่ยมแล้ว ก็ถึงคราวกลับอาณาจักรเฟิ่งหลินกับเขาเสียที ที่นั่นไม่อาจขาดเขา ครานี้กลับมากับข้า ยังคงไม่วางใจเสียทีเดียว”

“ข้าเข้าใจ” มู่ซืออวี่คว้ามือลูกสาวมากุม “รอแม่ว่างจะไปเยี่ยมเจ้าที่อาณาจักรเฟิ่งหลิน แม่ไม่ยุ่งเท่าเจ้า อยู่เป็นเพื่อนเจ้าได้ระยะหนึ่ง”

มู่ซืออวี่และลู่จื่ออวิ๋นดูเหมือนมีเรื่องให้พูดคุยไม่รู้จบ ถึงแม้จะไม่ได้คุยกัน สองแม่ลูกก็จะนั่งบำรุงผิวหน้าหน้า กินขนม พูดคุยเรื่องราวที่ผ่านมา แค่นี้ก็นับเป็นเรื่องที่มีความสุขมากแล้ว

มู่ซืออวี่มองลู่จื่ออวิ๋นที่นับวันยิ่งเติบโตและมั่นคงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วหันไปมองลิงน้อยที่วิ่งซุกซนอยู่รอบ ๆ วิ่งไปออดอ้อนลู่จื่ออวิ๋นบ้างเป็นครั้งครา นางได้แต่ทอดถอนใจให้กับเวลาที่ผ่านไปเร็วยิ่งนัก มักจะรู้สึกราวกับว่านางเพิ่งทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนาในยุคโบราณเมื่อวาน บัดนี้กลับรายล้อมไปด้วยลูกหลานกลุ่มหนึ่งแล้ว

มู่ซืออวี่จ้องมองเงาสะท้อนของตนในกระจกแล้วถาม “ข้าแก่แล้วใช่หรือไม่?”

เจ๋อหลานที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ย “พระชายาไม่อาจกล่าวเช่นนั้นนะเจ้าคะ ผู้อื่นจะขบขันท่านได้ หากท่านแก่แล้ว เช่นนั้นหญิงชราผมขาวที่เดินอยู่ทั่วถนนจะทำอย่างไรเจ้าคะ? พวกนางจะไม่อับอายขายหน้า กระทั่งหาที่เข้าไปแทรกหนีไม่ได้เลยหรือเจ้าคะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย