บทที่ 193 มีข้าอยู่ ไม่ต้องกลัว
บทที่ 193 มีข้าอยู่ ไม่ต้องกลัว
ภายในห้องนอน มู่ซืออวี่เช็ดผมไปพลาง คิดเรื่องลู่ฉาวอวี่ไปพลาง
ลู่อี้เห็นนางเหม่อลอย กระทั่งเขาเดินเข้ามานานแล้วก็ยังไม่รู้สึกตัว เขาจึงคว้าผ้าจากมือนางมาเช็ดผมให้
“เมื่อครู่นี้ข้าเพิ่งถามเจิ้งหาน เขาเป็นเด็กตรงไปตรงมาขนาดนี้ นึกไม่ถึงว่าจะไม่ยอมบอกเหตุผลที่ต่อยตีให้ข้าฟัง เจ้าว่าอีกสักสองสามวัน ข้าควรไปสำนักศึกษาเหวินชางสักเที่ยวดีหรือไม่?”
“ที่เขาไม่ยอมพูดย่อมมีเหตุผล พวกเราไม่จำเป็นต้องไปหาสาเหตุ”
ลู่อี้ไม่เคยคิดว่าลู่ฉาวอวี่เป็นเด็กไม่รู้ความ บางทีอาจเป็นเพราะประสบการณ์ในวัยเยาว์ เด็กคนนั้นจึงโตมาอย่างเจ้าเล่ห์ราวกับปีศาจ ความคิดความอ่านนำเด็กในวัยเดียวกันไปมากโข
มู่ซืออวี่หันกลับมามองลู่อี้ที่อยู่ด้านหลัง “ข้าจะเอาของไปให้ท่านอาจารย์ คงแค่ถามเรื่องความคืบหน้าในการเรียนของพวกเขา ไม่เอ่ยถึงเรื่องที่พวกเขาไปต่อยตีกัน”
ผมสีดำสนิทของลู่อี้ปรกลงมาบนใบหน้า พอใส่เสื้อผ้าบาง ๆ ทั่วทั้งตัวก็ราวกับไม่เคยแปดเปื้อนฝุ่นผงบนโลกมนุษย์ บดบังดวงตาคมกริบคู่นั้นเอาไว้มิดชิด
นางตกอยู่ในห้วงแห่งภวังค์ ราวกับเห็นคุณชายน้อยจากสกุลหนึ่ง สง่างามเกินอาจเอื้อม
จากมุมนี้ นางสามารถมองเห็นขนตางอนยาวชัดเจน มือคู่นั้นกำลังขยับเช็ดผมให้นางอย่างตั้งใจ การกระทำของเขาช่างนุ่มนวล ทั้งยังสง่าเสียจนสายตาของนางแทบจะพร่ามัว
รอยแผลเป็นของเขาดูเหมือนจะจางลงไปมากแล้ว หากไม่มองดูดี ๆ ก็คงไม่เห็นแม้แต่น้อย
ชายผู้นี้ช่างแปลกจริง ๆ มีขี้ผึ้งดี ๆ เช่นนี้ เหตุใดจึงไม่ใช้ตั้งแต่แรก ไม่เช่นนั้นคงดีขึ้นนานแล้ว
“หากเจ้าไม่วางใจ เช่นนั้นพวกเราก็ไปด้วยกัน”
“ข้าไปคนเดียวก็ได้ ท่านมีงานมากมาย…”
“ไม่ต้องกังวลเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้” ลู่อี้เกลี่ยนิ้วไปตามเรือนผมของนาง ก่อนจะโน้มใบหน้าลง กระซิบที่ข้างหู “เขาเป็นลูกชายของเราสองคน ข้าจะปล่อยให้เจ้าต้องเลี้ยงดูเพียงลำพังได้อย่างไร”
ยามลมหายใจร้อนผะผ่าวรินรดลงบนใบหู มู่ซืออวี่ก็รู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมา
นางสัมผัสใบหูของตน หลบเลี่ยงสายตาร้อนแรงของเขา
“วันนี้ข้าได้ยินบางอย่างมา” มู่ซืออวี่ลูบชายเสื้อของตน “ท่านอยู่ที่ศาลาว่าการ ได้ยินอะไรบ้างหรือไม่?”
“เรื่องสกุลหลี่น่ะหรือ?”
มู่ซืออวี่พยักหน้ารัว ๆ ลืมแล้วว่าผมของนางยังอยู่ในมือของลู่อี้ ผลที่ได้คือแทบจะกระชากผมตนเอง
“อ๊ะ!”
สีหน้าของนางบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด
ลู่อี้รีบปล่อยมือแล้วลูบศีรษะนาง
ฝ่ามือใหญ่ลูบศีรษะให้นางอย่างอ่อนโยน รอให้นางหายเจ็บแล้วจึงเอ่ยว่า “ให้ข้าดูซิ มีรอยแดงตรงไหนหรือไม่”
มู่ซืออวี่ปล่อยให้เขาเกลี่ยผมอย่างว่าง่าย
“ข่าวลือเหล่านั้นไม่เป็นผลดีกับท่าน ท่านมีวิธีจัดการหรือไม่? ข้าไม่อยากให้ท่านรักษาตำแหน่งขุนนางไว้ไม่ได้เพราะเรื่องนี้” มู่ซืออวี่ถอนหายใจ
“มีข้าอยู่ เรื่องพวกนี้เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล ข้าจะจัดการให้เรียบร้อย” ลู่อี้เอ่ยขึ้นเบา ๆ “ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวลือเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้สั่นคลอนตำแหน่งของข้าไม่ได้”
“แต่ว่า…”
ลู่อี้ยังคงลูบศีรษะนางเบา ๆ “ไปนอนเถอะ ไม่ต้องคิดมากแล้ว”
คืนนั้นมู่ซืออวี่รู้สึกจิตใจระส่ำระส่ายเป็นอย่างมาก ปกติแล้วนางจะรู้สึกเขินอายยามใกล้ชิดกับลู่อี้ ทว่าคืนนี้ เมื่อนางได้แนบชิดอยู่ในอ้อมอกของลู่อี้และได้ยินเสียงหัวใจของเขา จิตใจถึงสงบลง
ลู่อี้รอให้มู่ซืออวี่หลับไปแล้วค่อยลืมตาขึ้น
ข่าวลือแพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว ถึงแม้เขาจะอยู่ในศาลาว่าการ แต่ก็ยังมีคนเล่าลือไปถึงหูของเขา เขาจะไม่ทราบได้อย่างไร
ชายหนุ่มไม่คิดจะสนใจ นึกไม่ถึงว่ามันจะกระทบกับมู่ซืออวี่อย่างใหญ่หลวง ในเมื่อเป็นเช่นนี้คงต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเสียแล้ว
เขาเอียงหน้า ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของนาง “นอนเถิด ข้าจะเก็บกวาดให้หมดสิ้นภายในสองวัน”
…
ลู่ฉาวอวี่ขอลาหยุดพักผ่อนอยู่ที่บ้านหนึ่งวัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...