สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 205

บทที่ 205 กังวลใจมากเหลือเกิน

บทที่ 205 กังวลใจมากเหลือเกิน

“เจ้าหนุ่ม เจ้าสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองเสียแล้ว เจ้ารีบหนีไปเถอะ” ชายชราเกลี้ยกล่อมด้วยความหวังดี

“ใช่แล้ว! จงอ๋องไม่ใช่คนที่ยุ่งด้วยได้ ถึงแม้เจ้าจะโชคดีจับมันมาได้ หากเขาไม่ยินดีก็จะไม่ไว้ชีวิตเจ้าอยู่ดี”

“ใช่ ๆ”

ลู่อี้เอ่ยขอบคุณทุกคน “ขอบคุณที่หวังดี ข้าทำให้จงอ๋องพึงพอใจได้แน่”

ครั้นได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนก็มองเขาด้วยสายตาสงสารยิ่งกว่าเดิม

จงอ๋องไม่ใช่คนใจดีอะไร หลายปีมานี้มีคนตายอยู่ในเงื้อมมือของเขาตั้งเท่าไหร่

“พวกเราไปดูแผลก่อนเถอะ” มู่ซืออวี่พยุงลู่อี้

ลู่อี้ไม่เพียงแต่ขาแพลงเท่านั้น ร่างกายเขายังมีบาดแผลอีกหลายแห่ง บางแห่งถูกเสือข่วน บางแห่งถูกเสือกัด แผลที่ลึกที่สุดเป็นบาดแผลที่ได้รับตอนเขาแทงกริชใส่ตาเสือโดยบังเอิญ กริชเล่มนั้นคมมาก ทำให้เกิดรอยแผลขนาดใหญ่บนฝ่ามือเขา เลือดจึงไหลออกมาไม่หยุด

ท่านหมอลี่มองแผลของลู่อี้แล้วถอนหายใจ “ท่านบาดเจ็บจนเป็นเช่นนี้ ระยะนี้ต้องดูแลรักษาตัวเองให้ดี ๆ”

“หากเขาไม่รักษาตัวให้ดี แล้วยังต้องขึ้นไปล่าสัตว์บนเขาอีก จะเป็นอย่างไรเจ้าคะ?” มู่ซืออวี่ถามอยู่ข้าง ๆ

ท่านหมอลี่ขมวดคิ้ว “น้องชายของท่านไม่จำเป็นต้องมาหาหมอและใช้ยาอีกแล้ว ภาระที่ต้องแบกรับลดลงกว่าเดิม เหตุใดยังต้องขึ้นเขาไปล่าสัตว์อีก? บาดเจ็บเช่นนี้ควรรักษาตัวให้ดี จะไปล่าสัตว์ทำไมกัน?

“ข้ารู้แล้ว” ลู่อี้เอ่ยขึ้น “ขอบคุณขอรับ”

ท่านหมอลี่ไม่ได้ถามพวกเขาว่าเหตุใดจากไปได้เพียงไม่นานจึงบาดเจ็บเช่นนี้ แค่มองบาดแผลก็บอกได้แล้วว่านี่ไม่ใช่บาดแผลธรรมดา แต่เขาไม่อยากถามผู้ป่วยมากนัก

“จะให้ดีต้องล้างแผลสามครั้งต่อวัน ข้าจะไม่เขียนใบสั่งยารักษาภายในให้ เพราะยานั้นมีพิษถึงสามส่วน เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บภายในอะไร ล้วนแต่เป็นบาดแผลภายนอก” ท่านหมอลี่ส่งยาให้มู่ซืออวี่

มู่ซืออวี่รับมา

ลู่เซวียนเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายอยู่ในโรงเตี๊ยม เมื่อเห็นพวกเขากลับมาแล้วก็รีบลงไปรับ ครั้นเห็นบาดแผลบนร่างกายของลู่อี้ เขาก็ยิ่งร้อนใจกว่าเดิม

“ข้าได้ยินพวกเขาพูดกันว่าทางทิศตะวันตกมีเสือกัดคน ข้านึกเป็นห่วงความปลอดภัยของท่าน แล้วดูนี่สิ คงไม่ได้ไปเจอมาจริง ๆ กระมัง?”

“เข้าไปก่อนแล้วค่อยพูดคุยกัน” ลู่อี้กล่าว

หลังจากเข้ามาในห้องแล้ว มู่ซืออวี่ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง

ลู่เซวียนเผยสีหน้ากังวลใจ “พี่ใหญ่บาดเจ็บเช่นนี้จะจับเสือได้อย่างไร แล้วยังต้องจับมาตัวเป็น ๆ โดยไม่ให้บาดเจ็บอีก เช่นนั้นไม่ใช่ว่า…”

ล้อเล่นหรือไร?

มู่ซืออวี่ที่รินน้ำอยู่ข้าง ๆ ยื่นจอกน้ำให้พี่ชายน้องชายคนละจอก ก่อนจะนั่งลงเท้าคางครุ่นคิด

เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว บ่นไปก็ไร้ประโยชน์ กังวลไปก็ไม่ช่วยอะไร ไม่สู้หาทางแก้เสียดีกว่า

จงอ๋องไม่ใช่คนที่ยุ่งด้วยได้ง่าย ๆ ในเมื่อพวกเขารับปากแล้วย่อมไม่อาจบิดพลิ้ว สำหรับเรื่องที่กำลังจะเกิด มีเพียงหนทางรับมือหนทางเดียวเท่านั้น

การจะจับเสือตัวใหญ่ตัวเป็น ๆ อีกทั้งยังต้องดุร้ายและตัวใหญ่กว่าเสือตัวนั้น ถึงแม้ลู่อี้ไม่ได้รับบาดเจ็บก็นับว่ายากมากแล้ว นับประสาอะไรกับลู่อี้ที่บาดเจ็บเช่นนี้

“มีเวลาเพียงสิบวัน” มู่ซืออวี่มองลู่อี้ “ข้าจะกลับไปเมืองฮู่เป่ย เรียกพี่เซี่ยมาช่วยดีหรือไม่?”

“จากเมืองฮู่เป่ยมาเมืองซูโจว อย่างเร็วที่สุดก็ใช้เวลาไปกลับถึงสิบวัน ฝีมือของเขาไม่เลวจริง ๆ ข้าคิดว่าถ้าให้เขาตีให้เสือสักตัวสลบย่อมไม่มีปัญหา แต่จะให้จับตัวเป็น ๆ เกรงว่าคงไม่ง่ายนัก” ลู่อี้กล่าว “ยิ่งไปกว่านั้นเวลาสั้นเกินไป น้ำไกลไม่อาจดับไฟใกล้ได้*[1] ให้ข้าลองคิดดูก่อน จะต้องหาวิธีออกมาได้เป็นแน่”

“หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ข้าคงพาพี่ใหญ่เซี่ยมาด้วยแล้ว” ลู่เซวียนถอนหายใจเบา ๆ

“ก่อนอื่นพวกเราต้องหาเสือก่อน เสือตัวนี้ต้องตัวใหญ่และดุร้ายกว่า มิเช่นนั้นย่อมไม่อาจทำให้จงอ๋องพอใจได้ ส่วนเรื่องอื่น พวกเราสามารถลองใช้แผนการหนึ่งได้”

“แผนการ?” ลู่เซวียนถาม “แผนการแบบใด?”

“แผนการล่อมันมาติดกับดัก” มู่ซืออวี่กล่าวต่อไปว่า “ไม่ว่าเสือจะดุร้ายเพียงใด มันก็เป็นแค่สัตว์ร้าย ไม่ฉลาดเท่ามนุษย์ เราสู้มันด้วยกำลังไม่ได้ ก็ได้แต่ต้องพึ่งมันสมองแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย