สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 224

บทที่ 224 ข้าอยากได้ยินเจ้าเรียกข้าแล้ว

บทที่ 224 ข้าอยากได้ยินเจ้าเรียกข้าแล้ว

หลังจากดื่มน้ำขิงเสร็จ ทั้งสองก็กลับไปที่เก้าอี้นวม ลู่อี้นอนลง พักผ่อนไปพร้อมกับโอบมู่ซืออวี่เอาไว้ในอ้อมแขน

“ใต้ตาของท่านดำคล้ำเช่นนี้ ท่านไม่ได้นอนมานานเพียงใดแล้ว?”

“เดินทางครั้งนี้ข้าแทบไม่ได้นอนหลับเลย” ลู่อี้กอดนางจากด้านหลัง ซุกใบหน้าลงในซอกคอของนาง ปล่อยให้ลมร้อน ๆ ลอยผ่านใบหู “คุณหนูเฉินผู้นั้นเป็นหลานสาวของเจียงเหล่า เจ้าก็เคยเห็นเขา ครั้งแรกที่พวกเราเห็นเขา เขากำลังคร่าชีวิตคน ดูก็รู้ว่าฆ่าคนไปแล้วมากมาย ข้าไม่กล้าหละหลวม แม้แต่กลางคืนก็ต้องเฝ้าอยู่หน้าประตูนาง โชคดีที่การเดินทางครั้งนี้ปลอดภัย ภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงด้วยดี”

“เฝ้าประตูสตรีคนหนึ่งเสียหลายวัน มิน่าผู้อื่นเขาถึงได้เรียกท่านว่าพี่ใหญ่ลู่” มู่ซืออวี่เบ้ปาก

ลู่อี้หัวเราะเบา ๆ “หากเจ้าชอบก็เรียกได้ ข้าให้เจ้าเรียกข้าอย่างไรก็ได้ ดีหรือไม่?”

“ข้าไม่เรียก”

“ไม่เรียกจริง ๆ หรือ?”

“ไม่เรียก ๆๆ! อื้อออ”

“แต่จะทำอย่างไรดีเล่า ข้าอยากได้ยินเจ้าเรียกข้าแล้ว” ลู่อี้พลิกตัวนางกลับมา

ผ่านไปสักพัก เสียงแปลก ๆ ค่อย ๆ เปล่งออกมาทีละเล็กละน้อย ถึงแม้จะพยายามลดเสียงลงแล้ว แต่ก็ยังคงเหลือเสียงเล็ดลอดออกไปคลอเคล้ากับเสียงสายฝน

ฝนข้างนอกเทลงมาหนักกว่าเดิม ทว่าความเร่าร้อนข้างในกลับพลุ่งพล่าน

เขาเป็นดั่งไฟร้อนระอุ แทบหลอมละลายนางให้กลายเป็นเถ้าถ่าน ครั้งแล้วครั้งเล่าผ่านไป ลู่อี้ก็กอดนางไว้แน่ ปลอดปล่อยบางอย่างร้อนผ่าวออกมาภายนอก

มู่ซืออวี่เห็นลู่อี้ผล็อยหลับไป ใจหนึ่งก็เขินอาย ทว่าอีกใจกลับหงุดหงิด

เพราะเหตุใด?

เหตุใดเขายังไม่ทำไปถึงขั้นสุดท้ายอีก เหนื่อยเกินไปหรือ?

แต่เขาทรมานกลั่นแกล้งนางถึงเพียงนี้แล้ว ยังมาแสดงท่าทีเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้อีก

ช่างเถิด นางไม่อยากคิดถึงสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว นางเชื่อความรู้สึกของลู่อี้ เช่นนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ!

ลู่อี้หลับไปนานจนข้างนอกฟ้ามืดแล้ว โชคดีที่มู่ซืออวี่ให้จือเชียนและเซี่ยคุณอยู่ที่บ้านในวันนี้ หากนางและลู่อี้กลับไปไม่ได้ ลู่เซวียนและอวิ๋นเอ๋อร์คงไม่มีคนคอยดูแล หากเป็นเช่นนั้นนางคงไม่วางใจ

ถึงเก้าอี้นวมของนางจะสามารถพักผ่อนได้ชั่วคราว แต่มันยังคงคับแคบเล็กน้อยเมื่อคนสองคนมานอนรวมกัน

“ฝนหยุดแล้ว” ลู่อี้กลับมามีเรี่ยวแรงดังเดิม

“อืม มืดแล้ว วันนี้พวกเราคงต้องค้างคืน”

“ข้าหิวแล้ว ออกไปหาอะไรกินเถอะ!” ลู่อี้หยิบเสื้อผ้าของเขาขึ้นมาสวมใส่

มู่ซืออวี่แต่งตัวเสร็จก็ไปช่วยเขาผูกสายรัดเอว

ลู่อี้มองคิ้วที่ขมวดมุ่นของนาง คิดเพียงแค่ว่าแม่นางน้อยคนนี้ช่างน่ารักเหลือเกิน

“เหตุใดท่านต้องมองข้า?” มู่ซืออวี่ถูกเขามองเช่นนี้ก็รู้สึกว้าวุ่นใจ

“ภรรยาของข้าเอง อยากมองอย่างไรก็มองได้” ลู่อี้ก้มลงจูบกลางหน้าผากนาง “หลายวันมานี้ที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง?”

“กล่าวถึงเรื่องที่บ้านแล้ว ข้ายังมีเรื่องที่ต้องบอกท่าน” มู่ซืออวี่จัดกวานประดับผมให้เขา “แต่ไปทานข้าวกันก่อนเถิด อีกเดี๋ยวข้าจะค่อย ๆ เล่าให้ฟัง เรื่องนี้ไม่อาจใช้คำเพียงไม่กี่คำอธิบายชัดเจน”

“อืม”

ฝนเพิ่งหยุดตกไปจึงมีร้านเปิดอยู่ไม่มาก ถนนเส้นนี้ร้างผู้คนไปแล้ว

มู่ซืออวี่รู้สึกเสียดาย หากรู้เช่นนี้นางคงทำอาหารทานที่ร้านไปแล้ว แต่ลู่อี้ไม่อยากให้นางเหนื่อย เขายืนกรานที่จะพานางออกมาทานอาหารข้างนอก

“ร้านนี้ไม่เลว พวกเราเข้าไปเถอะ” ลู่อี้พามู่ซืออวี่เข้าไปในร้านสุราเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย