สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 293

บทที่ 293 เขาบาดเจ็บจึงอยากพบนาง

บทที่ 293 เขาบาดเจ็บจึงอยากพบนาง

หลังจากลู่อี้ไปแล้ว มู่ซืออวี่ก็ไปจัดเก็บงานไม้ที่ตนเองทำ

บ่าวรับใช้รีบวิ่งเข้ามารายงาน “ที่หน้าประตูมีคนโชกเลือดผู้หนึ่งอยู่เจ้าค่ะ”

ตึง!

นางวางไม้ที่อยู่ในมือลงทันที จากนั้นจึงเร่งฝีเท้าออกไปข้างนอกพลางเช็ดมือเปื้อนฝุ่นด้วยผ้าเช็ดหน้า

ถงซื่อออกมาจากในห้อง เมื่อเห็นมู่ซืออวี่จึงเอ่ยขึ้นว่า “ลูกอวี่ ได้ยินว่าหน้าประตูมีคนเลือดอาบร่างอยู่ นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไปไหน นี่มันเรื่องอะไรกันหรือ?”

“ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ไปดูก็รู้แล้ว”

บ่าวรับใช้ยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเห็นมู่ซืออวี่และคนอื่น ๆ กำลังเดินออกมา จึงผละหลีกทางให้ทันที

มู่ซืออวี่มองคนที่มาหา จากนั้นจึงหันกลับไปมองถงซื่อ

ถงซื่อยืนอยู่ข้างหลังมู่ซืออวี่ ในเมื่อมู่ซืออวี่รู้จักเขา เช่นนั้นนางย่อมรู้จักเขาเช่นกัน

ถึงอย่างไรก็เป็นสามีภรรยากันมาหลายปี สภาพใดของเขานั้นนางล้วนเคยพบเห็นมาหมดแล้ว ไม่ต้องเอ่ยถึงว่ามีเลือดเปรอะเปื้อนหน้าเขา ถึงแม้จะกลายเป็นขี้เถ้า นางก็ยังจำได้

“เจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? เจ้าจะนำโชคร้ายมาให้ครอบครัวพวกเราหรือไร?” แววตาของถงซื่อเผยความสงสารขึ้นมาแวบหนึ่งอย่างอดไม่ได้ ทว่าคำพูดของนางกลับเยือกเย็นและไร้หัวใจ

“แม่เด็ก ๆ” มู่ต้าซานเอื้อมมือออกมาอย่างอ่อนแรง ราวกับอยากคว้าถงซื่อเอาไว้ “ข้าไม่รู้ว่าจะไปที่ใด ข้า… ข้าจะตายแล้วใช่หรือไม่?”

“เจ้าบาดเจ็บก็ควรไปโรงหมอ เรื่องพวกนี้ยังต้องให้ผู้อื่นสอนเจ้าอีกหรือ?” ถงซื่อจ้องมองเขา “นั่งอยู่ที่หน้าประตูบ้านเราไม่ยอมไป หากเกิดอะไรร้ายแรงถึงชีวิตขึ้นมา พวกเราจะอธิบายได้ชัดเจนหรือ?”

“ข้าเพียงแค่อยากพบเจ้า” มู่ต้าซานเอ่ยอย่างเศร้าใจ “ตอนที่หินขว้างมาถูกข้า ในสมองของข้าล้วนมีเพียงแค่อยากพบเจ้า ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะตายไป ข้าก็ไม่หลงเหลือความเสียใจอะไรแล้ว”

“ตอนนี้เห็นก็ได้เห็นแล้ว ไปโรงหมอได้แล้วกระมัง” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ “เหออัน จางซิ่ง พวกเจ้าพาเขาไปส่งที่โรงหมอ”

บ่าวรับใช้สองคนที่ถูกเรียกชื่อก้าวออกมาอย่างว่องไว คนหนึ่งหิ้วเขาด้วยแขนข้างเดียว ส่วนอีกคนดึงตัวเขาขึ้นไป

อึก!

มู่ต้าซานกระอักเลือดออกมา

“ช้าก่อน” ถงซื่อหน้าเปลี่ยนสีทันควัน “ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส เกรงว่าจะบาดเจ็บไปถึงอวัยวะภายในแล้ว อย่าขยับตัวเขา ขยับไม่ได้แล้ว”

มู่ซืออวี่ถอนหายใจเบา ๆ เฮือกหนึ่ง “จะให้เขานั่งอยู่หน้าประตูไม่ได้ เหออัน จางซิ่ง แบกเขาเข้าไปไว้ในห้องรับรองแขก แล้วไปเชิญท่านหมอกงมาดูหน่อย”

ท่านหมอกงตรวจบาดแผลของมู่ต้าซานก่อนจะเอ่ยว่า “บาดแผลภายในร้ายแรงยิ่งนัก ดูเหมือนหินที่ใช้ทุบเขาจะไม่เล็กเท่าไหร่ ระยะเวลานี้จำเป็นต้องฟื้นฟูร่างกายให้ดี ทานของเผ็ดไม่ได้ ทานอาหารบำรุงกำลังให้มากก็พอ”

“นานเท่าใดกว่าจะลุกจากเตียงได้เจ้าคะ?” ถงซื่อถามอยู่ข้าง ๆ

“สิบวันถึงครึ่งเดือน อย่างน้อยสองสามวันนี้เขาก็ยังไม่อาจขยับเขยื้อนได้ เกรงว่าเรื่องจำเป็นของเขาล้วนแต่ต้องทำอยู่บนเตียงแล้ว พวกเจ้าคิดหาวิธีเอาเถอะ”

“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ”

หลังจากส่งท่านหมอกลับไปแล้ว การไปซื้อหาหยูกยาและต้มยาล้วนแต่เป็นบ่าวรับใช้จัดการทั้งสิ้น

มู่ซืออวี่นั่งเป็นเพื่อนถงซื่ออยู่ในห้อง เมื่อเห็นถงซื่อนั่งเหม่อมองมู่ต้าซานอยู่อย่างนั้น นางก็ถามขึ้นว่า “ท่านทุกข์ใจหรือ?”

“ข้าน่ะหรือทุกข์ใจเพราะเขา? มีอะไรดีให้ทุกข์ใจกัน”

ระยะนี้ถงซื่อมีเนื้อมีหนังขึ้นมาบ้างแล้ว จากคนผ่ายผอมมาก่อน ตอนนี้กลับมีน้ำมีนวลขึ้นมา ตอนนี้รูปร่างกำลังพอเหมาะพอดี

บางทีอาจเป็นเพราะบำรุงรักษาผิว อีกทั้งยังหมั่นพอกหน้าตามมู่ซืออวี่ ผิวของนางจึงเต่งตึงขึ้น รอยเหี่ยวย่นลดน้อยลง สมกับวัยของสตรีรุ่นราวคราวเดียวกับนาง

“ตอนนี้จะทำอย่างไร? เขาบาดเจ็บเช่นนี้ พวกเราไม่อาจโยนเขาออกไปได้ ถึงแม้จะเป็นคนแปลกหน้า พวกเราก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ นับประสาอะไรกับเขา” ถงซื่อหน้านิ่วคิ้วขมวด

ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร นางยังคงรู้สึกขอบคุณเขา

เขามอบลูกชายลูกสาวที่ดีถึงเพียงนี้ให้นาง อาศัยเหตุผลนี้ ก็ไม่อาจไม่สนใจความเป็นความตายของเขาได้แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย