บทที่ 294 พบพานครั้งแรกกลับรู้สึกคุ้นเคย
บทที่ 294 พบพานครั้งแรกกลับรู้สึกคุ้นเคย
“ข้าเองก็คิดว่าอาจารย์ฟ่านหน้าตาคุ้น ๆ เช่นกัน บางทีนี่อาจจะเป็นความรู้สึกคุ้นเคยราวกับสหายเก่าตั้งแต่พบหน้าครั้งแรกกระมัง”
ทันทีที่มู่ซืออวี่กล่าวเช่นนั้น ทั้งสองก็มองหน้ากันแล้วเผยรอยยิ้มออกมา
อันอวี้เห็นพวกเขาสองคนสนทนากันด้วยดีจึงคอยอยู่ข้าง ๆ เพื่อรินชาให้
ร้านสาวทอผ้ามีลูกศิษย์ยี่สิบคน อันอวี้เป็นหนึ่งในนั้น
ลูกศิษย์เหล่านี้มาจากทั่วทุกแห่งหน ส่วนใหญ่ล้วนใช้เงินของที่บ้าน มีเพียงการทำเช่นนี้เท่านั้น พวกเขาจึงจะสามารถทำเรื่องที่ตนเองชอบได้
มู่ซืออวี่เดินตามฟ่านอวี๋เยี่ยมชมไปทั่วร้านสาวทอผ้า นางรับรู้ถึงความเก่งกาจของฟ่านอวี๋ ถึงแม้นางจะทำงานเย็บปักถักร้อยไม่เป็น แต่ก็รู้ว่าฝีมือของฟ่านอวี๋เทียบได้กับชั้นครูในยุคปัจจุบัน ยุคโบราณเช่นนี้ ฝีมือเย็บปักที่ราวกับมีชีวิตขึ้นมานี้ล้วนเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนแสวงหา หากลู่จื่ออวิ๋นได้กราบคนเช่นนี้เป็นอาจารย์ ย่อมมีแต่ผลดีไม่มีผลเสียอย่างแน่นอน
“ข้าชอบอวิ๋นเอ๋อร์จริง ๆ นางเปล่งประกายไปด้วยพรสวรรค์ ตอนที่ข้าพบนาง ข้าพลันเกิดความรู้สึกยินดีในใจ อยากรับนางไว้เป็นศิษย์ขึ้นมาน่ะ”
“เช่นนั้นก็เป็นโชคดีของอวิ๋นเอ๋อร์ของเราแล้ว” มู่ซืออวี่ถามต่อ “อาจารย์ฟ่านเป็นคนที่ใดหรือ?”
“หยางโจว”
“หยางโจวหรือ ที่นั่นเป็นสถานที่ที่ดีมาก เหตุใดอาจารย์ฟ่านจึงมาที่เมืองฮู่เป่ยเล่า? ที่นี่ไม่เจริญรุ่งเรืองเท่ากับหยางโจวด้วยซ้ำ”
“ข้ามาที่นี่เพื่อหาคนผู้หนึ่ง” ฟ่านอวี๋ตอบ
“ท่านหาเจอแล้วหรือยัง?”
“อืม ข้าหาเจอแล้ว”
มู่ซืออวี่เห็นท่าทีของฟ่านอวี๋ก็พอจะเข้าใจบางอย่างแล้ว
“นับแต่นี้เป็นต้นไป ต้องรบกวนท่านอาจารย์ฟ่านดูแลอวิ๋นเอ๋อร์แล้ว” มู่ซืออวี่ฝากฝัง “หากอาจารย์ฟ่านไม่รังเกียจ เช่นนั้นข้าขอเรียกท่านว่าพี่ฟ่านแล้วกัน”
ลู่จื่ออวิ๋นจึงได้กราบไหว้อาจารย์เช่นนี้
หลังจากที่ลู่อี้ได้ยินเรื่องนี้ ลู่จื่ออวิ๋นก็เข้าพิธีกราบไหว้อาจารย์เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นมีผู้คนไปสอบถามลู่อี้เรื่องนี้หรือเปล่านั้น มู่ซืออวี่ไม่ได้ถาม ทว่าเนื่องด้วยนิสัยของลู่อี้แล้ว เขาต้องสอบถามเรื่องนี้เป็นแน่
การตรวจสอบคดีศพสตรีของเมืองฮู่เป่ยดำเนินไปอย่างยาวนาน ทว่ากลับสืบไม่พบสิ่งใดทั้งสิ้น ลู่อี้กังวลใจกับเรื่องนี้อยู่หลายวัน ทำให้มู่ซืออวี่รู้สึกเสียใจอยู่บ้างว่าเหตุใดนางจึงไม่มีรัศมีของตัวละครนำหญิงอย่างในโทรทัศน์ สามารถช่วยตัวละครนำชายคลายคดีและตามหาฆาตกรออกมาได้อะไรเทือกนั้น
ในอุดมคติมักจะสวยงามเสมอ ทว่าความเป็นจริงมักโหดร้าย ในฐานะนักออกแบบธรรมดาคนหนึ่ง ทั้งหมดที่นางทำได้มีเพียงดูแลครอบครัวและดูแลกิจการของนางให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่สร้างปัญหาเพิ่มให้ลู่อี้
อากาศเริ่มร้อนขึ้นแล้ว มู่ซืออวี่จึงเริ่มทำอาหารหลากหลายรูปแบบมากขึ้นเพื่อคลายความร้อนให้คนรอบตัว
“ท่านป้าผาง” มู่ซืออวี่เดินเข้าไปในสำนักศึกษาเหวินชาง ในมือถือห่อผ้าขนาดเล็กใหญ่ไว้มากมาย
ท่านป้าผางได้ยินเสียงนั้นก็ปรี่เข้ามาทักทาย เมื่อเห็นนางถือของมาเยอะแยะมากมาย จึงช่วยรับเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“ท่านนำอะไรมาหรือ?”
“อากาศร้อนยิ่งนัก ข้าจึงทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลหวาน ๆ ใส่น้ำแข็งมาให้เด็ก ๆ น่ะ”
“เช่นนั้นพวกเขาก็โชคดีแล้ว” ป้าผางยิ้ม “อากาศร้อนเช่นนี้ แม้แต่ข้าก็ทนไม่ไหว”
“ฉาวอวี่และน้องหานเป็นอย่างไรบ้างหรือ? ตอนนี้พวกเขากำลังเรียนอยู่ใช่หรือไม่?” มู่ซืออวี่ไม่ได้ยินเสียงท่องตำราจึงถามออกมา
“ตอนนี้กำลังเรียนยิงธนูเจ้าค่ะ”
“พวกท่านมีสอนยิงธนูด้วยหรือ?” มู่ซืออวี่ประหลาดใจ
“ไม่นานมานี้ได้เชิญท่านอาจารย์สอนขี่ม้าและยิงธนูมาเจ้าค่ะ สำนักศึกษาของเราเล็กเกินไป เรียนวิชาขี่ม้าไม่ได้ แต่ได้ยินท่านอาจารย์เหวินกล่าวว่าทุกเดือนจะไปคอกม้าที่บ้านเจ้าของที่ดินจางเพื่อเรียนขี่ม้าเจ้าค่ะ”
“ข้าไม่รบกวนพวกเขา เพียงแค่ไปแอบดูสักหน่อยแล้วก็จะไป”
“หากท่านอยากมองอย่างเดียว เช่นนั้นข้าจะพาท่านไป”
พื้นที่ฝึกของสำนักศึกษาเหวินชางค่อนข้างกว้างขวาง นอกจากสนามยิงธนูแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับฝึกฝนอาวุธหลายอย่าง
มู่ซืออวี่แอบดูอยู่ในมุมหนึ่ง มองแขนเล็ก ๆ ของลู่ฉาวอวี่น้าวคันศรด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทว่ายังคงเห็นได้ว่าพละกำลังของเขาอ่อนแรงไปเล็กน้อย ทำให้น้าวได้ยากอยู่บ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...