สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 316

บทที่ 316 เช่นนั้นก็เข้าคุกไปเถอะ

บทที่ 316 เช่นนั้นก็เข้าคุกไปเถอะ

เช้าตรู่วันถัดมา แม่เฒ่าซ่งเห็นหูโม่ลี่ห่อแป้งทอดมังสวิรัติจำนวนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นด้วยความรังเกียจ “เจ้าจะเอาขนมแป้งทอดพวกนี้ไปทำอะไร? พวกเราไปหาพี่สาวของเจ้า นางยังจะหาของกินให้พวกเราไม่ได้อีกหรือ?”

“พี่สาวไม่ธรรมดา” หูโม่ลี่กล่าว “ท่านลืมแล้วหรือ แต่ก่อนท่านเคยเกลียดชัง หาว่านางเป็นสินค้าขาดทุน หากเป็นข้า คงไม่กล้าเสนอหน้าไปหานางแม้แต่น้อย”

“ข้าด่าว่านางแล้วอย่างไร? ข้าเป็นแม่ของนาง นางกล้าไม่กตัญญูกับข้าหรือ?” แม่เฒ่าซ่งเบะปากพลางเอ่ยอย่างใจดำ “เจ้าก็ด้วย เจ้าคลอดสินค้าขาดทุนออกมาตั้งสองคน ภายหน้าแม้แต่คนทุ่มอ่าง*[1] ก็ยังไม่มี”

หวงอันหนิงแย้งขึ้นอย่างไม่พอใจ “พวกเราจะดูแลท่านพ่อท่านแม่ของเราให้ดี”

“ใช่ พวกเราจะดูแลท่านพ่อและท่านแม่ให้ดี” หวงอันจิ้งพยักหน้า

“ที่พวกเจ้าเอ่ยถึงไม่นับ หากพวกเจ้าแต่งงานออกไปแล้ว เช่นนั้นก็จะเป็นคนของครอบครัวอื่น หากสามีของพวกเจ้าไม่ให้พวกเจ้ากลับมา พวกเจ้าจะกล้ากลับมาหรือ?” แม่เฒ่าซ่งเอ่ย “อาหารเช้ามีอะไรกิน?”

หูโม่ลี่ตอบเบา ๆ “โจ๊กผักป่า”

“ผักป่า…” แม่เฒ่าซ่งเอื้อมมือออกไปคว้าแป้งทอดชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งขึ้นมา “แต่งงานไปหลายปีเพียงนี้แล้ว เจ้ากลับทำให้ชีวิตนับวันยิ่งแย่ลงกว่าเดิมได้ ไร้ประโยชน์จริง ๆ ยังดีที่ข้าคลอดจี้จงออกมา หากหวังพึ่งเจ้า ชีวิตนี้คงจบสิ้นแล้ว”

หวงอันหนิงและหวงอันจิ้งมองแม่เฒ่าซ่งด้วยสายตาไม่ชอบใจ

แม่เฒ่าซ่งถลึงตามองทั้งสองคน “จ้องอะไร หา? หากยังจ้องอยู่ข้าจะควักลูกตาของพวกเจ้าออกมา”

“อันหนิง อันจิ้ง พวกเจ้าไปดูทีว่าในเล้าไก่มีไข่บ้างหรือไม่”

“รู้แล้วจ้ะ ท่านแม่” สองพี่น้องเดินออกไป

หูโม่ลี่เดินเข้าไปในห้องข้างหลัง

นางอธิบายให้หวงเฉิงเฟิงฟังสองสามคำ จากนั้นจึงวางอาหารกลางวันไว้ข้าง ๆ เตียงเขา เผื่อว่าเขาไม่มีแรงลุกออกจากเตียง

“จำที่ข้าบอกได้หรือไม่?” หวงเฉิงเฟิงถาม

“จำได้แล้ว” หูโม่ลี่กล่าว “เสร็จแล้วข้าจะรีบกลับมา”

แม่เฒ่าซ่งได้ยินว่าพวกเขาต้องเดินเข้าไปในเมือง นางพลันตะโกนออกมาเสียงดังลั่น “ข้าแก่ปานนี้แล้ว! เจ้ายังจะให้ข้าเดินเข้าไปในเมืองอีกหรือ? นังลูกสาวอกตัญญู อยากให้มารดาเหนื่อยตายใช่หรือไม่?”

“ท่านเดินจากหมู่บ้านสกุลถงมาหมู่บ้านสกุลลู่ไม่ใช่หรือ?”

“จะเหมือนกันได้อย่างไร?”

“ต่างกันอย่างไร? จากหมู่บ้านสกุลถงมายังหมู่บ้านสกุลลู่ใช้เวลาสองชั่วยาม*[1] จากหมู่บ้านสกุลลู่เข้าไปในเมืองใช้เวลาสองชั่วยาม ก็เป็นสองชั่วยามเท่ากัน เหตุใดจึงเดินไปไม่ได้?” หูโม่ลี่กล่าว “ท่านแม่ ครอบครัวของข้ายากจน ไร้กำลังซื้อรถม้า เช่าเกวียนวัวก็ไม่ได้ เช่นนั้นพวกเราก็ไม่ต้องไปแล้ว อย่างไรเสียครอบครัวของข้าก็ไม่มีเงิน หากินอยู่บ้านนอกบ้านนาก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าเมือง”

“ได้ เดินก็เดิน” แม่เฒ่าซ่งโมโหมาก ไม่เจอกันเพียงสองปี หูโม่ลี่เจ้าเด็กเหม็นโฉ่ผู้นี้ไม่เห็นแม่อย่างนางอยู่ในสายตาแล้ว

หวงอันหนิงและหวงอันจิ้งก็ตามเข้าไปในเมืองเช่นกัน

ไม่กี่ชั่วยามต่อมา พวกเขาก็จ่ายค่าผ่านทางเข้าเมืองแล้วเข้าไปในเมือง

“ไม่ได้เข้าเมืองนานแล้ว ในเมืองนี่มีชีวิตชีวาดีจริง ๆ! นังคนไร้ค่าถงชุนนีคนนั้นได้ใช้ชีวิตดี ๆ อยู่ในเมืองเช่นนี้ นางไม่คิดถึงพวกเราสองสามีภรรยาเฒ่ากับน้องชายแท้ ๆ ของนางแม้แต่น้อย เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ สินค้าขาดทุนไร้จิตสำนึก”

หูโม่ลี่มองหวงอันหนิงและหวงอันจิ้ง

แม่นางน้อยสองคนเดินหายไปท่ามกลางฝูงชน

แม่เฒ่าซ่งบ่นอยู่พักหนึ่ง เมื่อหันกลับมาไม่เห็นหวงอันหนิงและหวงอันจิ้งแล้วก็ถามว่า “เจ้าสินค้าขาดทุนน้อยสองคนนั้นเล่า?”

“ที่บ้านไม่มีข้าวสารแล้ว ข้าให้พวกนางไปซื้อข้าวสาร อีกเดี๋ยวไปพบกันที่หน้าประตูเมือง” หูโม่ลี่กล่าว “ที่บ้านไม่มีคนอยู่ ข้าจะพาท่านไปหาน้องถงก็พอ”

แม่เฒ่าซ่งขมวดคิ้ว เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “เช่นนั้นก็ไปเถอะ!”

หูโม่ลี่พาแม่เฒ่าซ่งไปยังศาลาว่าการ

เมื่อพวกเขามาหยุดอยู่หน้าประตูศาลาว่าการ แม่เฒ่าซ่งมองดูจวนว่าการที่น่าเกรงขาม นางรู้สึกว่าข้อเท้าของตนหมดแรงเล็กน้อย

“ถงซื่ออยู่ที่นี่หรือ?” แม่เฒ่าซ่งเอ่ยถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย