สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 322

บทที่ 322 กำหนดฤกษ์ยาม

บทที่ 322 กำหนดฤกษ์ยาม

ณ โรงหมอถงตั๋ว

ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ไม่มีคนไข้เหลืออยู่อีก

ท่านหมอจูกำลังเลือกสมุนไพร ส่วนถงซื่อใช้หุ่นไม้ฝึกพันแผล ถังจิ้งกำลังนับจำนวนของแล้วจดบันทึกของที่หมดลงไป เพื่อจะได้เตรียมไปซื้อของมาเติมพรุ่งนี้

ยามนี้เตาซานเหนียงที่ปกติมักจะส่งเสียงดังนั้นไม่อยู่ที่นี่ ทั่วทั้งโรงหมอจึงเงียบขึ้นกว่าเดิม

“ฮูหยินลู่มาได้อย่างไร?” ท่านหมอจูเห็นมู่ซืออวี่ก็เอ่ยหยอก

เมื่อเขาเห็นมู่เจิ้งหานที่อยู่ข้างหลังมู่ซืออวี่ รอยยิ้มของท่านหมอจูก็แข็งค้างไปส่วนหนึ่ง เขาเหลือบมองถงซื่อ

เป็นดังคาด ถงซื่อก็ตื่นตระหนกขึ้นมาแล้ว

“เจ้าหนูหานสูงขึ้นอีกแล้วหรือนี่?” ท่านหมอจูถาม “เด็กน้อย สูงขึ้นถึงเพียงนี้?”

“ท่านหมอจู สหายของข้าผู้หนึ่งอยากมาหาหมอ ทว่าเขาอายเกินกว่าจะมาด้วยตนเอง เขาให้ข้ามาถามคำถามสักสองสามข้อ พวกเราไปพูดคุยกันที่อื่นได้หรือไม่?” มู่เจิ้งหานเอ่ยขึ้น

“ได้ พวกเราไปสวนด้านหลังเถอะ”

มู่ซืออวี่เห็นถงซื่อเอาแต่จ้องมองไปทางมู่เจิ้งหาน จึงเดินเข้ามาเอ่ยปลอบมารดา “ท่านวางใจ น้องหานเป็นคนมีเหตุผลเสมอ หลายปีมานี้ ผู้ที่เขารักมากที่สุดก็คือท่าน หากท่านมีความสุข เขาก็พลอยมีความสุขไปด้วยเช่นกัน”

“เจ้าพูดอะไรกับเขาหรือ?” ถงซื่อถาม

“เรื่องที่ควรเอ่ยและที่ไม่ควรเอ่ยล้วนเอ่ยไปหมดสิ้นแล้ว น้องหานเฉลียวฉลาด เขารู้ว่าทำอย่างไรจึงจะเป็นผลดีต่อทุกคน”

ถงซื่อพะว้าพะวง หุ่นไม้ตรงหน้านางจึงถูกนางพันออกมาเป็นรูปทรงแปลก ๆ

“หุ่นไม้อย่างไรเสียก็นับว่าเป็นคนตาย หากท่านอยากมีประสบการณ์ ก็ควรเรียนรู้จากคนจริง ๆ ท่านฝึกฝนกับท่านหมอจูไปสักพักก็จะยิ่งชำนาญมากกว่าเดิมแล้ว อย่าได้ร้อนใจไปเลย”

มู่ซืออวี่เห็นมารดากระวนกระวายใจก็อยากดึงความสนใจจากนาง

เพียงแต่มันไม่ได้ผล

ยามนี้สมองของถงซื่อล้วนเต็มไปด้วยคำถาม อย่างเช่นมู่เจิ้งหานจะโกรธหรือไม่ หากเขาโกรธแล้ว นางและท่านหมอจูจะทำอย่างไร

“ท่านไม่ต้องกังวลแล้ว ข้าคุยกับน้องหานแล้ว น้องหานตกลงให้พวกท่านได้อยู่ด้วยกัน”

“จริงหรือ?” ถงซื่อมองบุตรสาวด้วยสายตากระตือรือร้น “ข้าอายุถึงเพียงนี้แล้ว ยังคิดจะสร้างครอบครัว ไม่รู้ว่าผู้อื่นจะมองข้าอย่างไร แล้วเขาจะรู้สึกอับอายหรือไม่?”

“ท่านนี่ก็พูดอะไรไม่น่าฟังจริงเชียว หากเอ่ยถึงเรื่องที่ต้องอับอาย ก็ต้องเป็นตอนถูกแม่เฒ่าเจียงกดขี่มากกว่า ครานั้นท่านไม่กลัวผู้อื่นดูถูกเหยียดหยามท่าน ถึงครานี้เหตุใดท่านต้องกลัวสายตาผู้อื่นด้วยเล่า?”

“ข้า…”

นางไม่สนใจสายตาของผู้อื่นได้ ทว่านางไม่อยากถูกลูกชายรังเกียจ

ท่านหมอจูและมู่เจิ้งหานเดินพูดคุยหัวเราะออกมาด้วยกัน

เมื่อเห็นท่าทีของพวกเขา ถงซื่อพลันมีสีหน้างงงวย “คุยเรื่องอะไรกัน?”

“ท่านหมอจูกล่าวว่าให้จัดการตามขนบประเพณี เชิญแม่สื่อมาสู่ขอ เขาถามว่าท่านอยากไปทางบ้านครอบครัวถงหรือไม่ ข้าจึงถือโอกาสปฏิเสธแทนท่านไปแล้ว เพิ่งส่งปัญหายุ่งยากคู่นั้นออกไป ครานี้ไม่อาจไปเชิญชวนพวกเขามาอีก มิเช่นนั้นคงสลัดไม่พ้น เดิมทีท่านก็ไม่ชอบโอ้อวด ข้าจึงคิดว่างานแต่งของพวกท่านไม่ต้องจัดใหญ่โต เชิญเพียงญาติสนิทมิตรสหายมาทานอาหารสักมื้อ ทำทุกอย่างให้เรียบง่ายก็พอ ท่านแม่คิดว่าอย่างไร?” มู่เจิ้งหานกล่าว

“แต่งงาน?” ถงซื่อประหลาดใจ

เพล้ง! เสียงหนึ่งดังมาจากบริเวณประตู

ทุกคนหันไปมองประตู

เตาซานเหนียงยืนอยู่ตรงนั้น นางทำกระถางดินในมือหล่นลงบนพื้นจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

“ท่านแม่ เหตุใดท่านไม่ระมัดระวังเช่นนี้?” ถังจิ้งจับมือของเตาซานเหนียง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย