สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 441

บทที่ 441 เจ้าโง่หรือ ยังจะวิ่งขึ้นไปบนภูเขาอีก

บทที่ 441 เจ้าโง่หรือ ยังจะวิ่งขึ้นไปบนภูเขาอีก

“ได้ยินว่าที่นั่นมีสัตว์ป่าออกมาอาละวาดขอรับ พวกมันยังทำร้ายคนด้วย” องครักษ์เฝ้าประตูกล่าว “ท่านอ๋องนำใต้เท้าลู่และคนอื่น ๆ รุดไปตรวจสอบสถานการณ์แล้ว”

มู่ซืออวี่รับคำ “ขอบคุณ”

ขณะนั่งอยู่ในรถม้า ยิ่งมู่ซืออวี่คิดมากเท่าใด นางก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ สัตว์ป่าบนภูเขาจะก่อความวุ่นวายได้อย่างไร พวกมันไม่ได้ขาดแคลนอาหารถึงขั้นไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้

“ไม่ถูกต้องสิ” มู่ซืออวี่พึมพำกับตนเอง “หรือว่ามีบางอย่างผิดปกติบนเขาจงหมิง?”

“ฮูหยิน มีอะไรหรือเจ้าคะ?” จื่อซูเอ่ยถาม

“พวกเราขึ้นเขาจงหมิงกันเถอะ” มู่ซืออวี่กล่าว

บริเวณตีนภูเขามีแต่ความโกลาหลวุ่นวาย ชาวบ้านที่เดิมทีอาศัยอยู่ที่นั่นไม่รู้ว่าหายไปไหนกันหมด หมู่บ้านตกอยู่ในสภาพทรุดโทรม มีร่องรอยของสัตว์ป่ามาขย้ำสัตว์ปีกที่นี่ สัตว์ปีกมากมายกลายเป็นอาหารของพวกมัน

เมื่อกลุ่มของฟ่านหยวนซีมาถึงก็เห็นฉากนี้พอดี จึงไม่รีรอที่จะลงมือจับสัตว์ร้ายทันที

“ข้าต้องการจับเป็น” ฟ่านหยวนซีเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

“ท่านอ๋อง พวกนี้ล้วนเป็นสัตว์ดุร้าย…” รองหัวหน้าโจรเอ่ยขึ้นอย่างกระวนกระวายใจ

“วางใจเถอะ พวกเรามีวิธีจัดการ” ฟ่านหยวนซีกล่าวอย่างมั่นใจ “นี่เป็นยาผงที่ทำขึ้นมาเพื่อสัตว์ดุร้ายเหล่านี้เป็นพิเศษ เพียงแค่เขวี้ยงใส่จมูกมัน มันก็จะล้มลงภายในไม่กี่อึดใจ”

เมื่อมียาผงเป็นตัวช่วย สัตว์เหล่านั้นจึงถูกควบคุมไว้ได้อย่างรวดเร็ว

“ท่านอ๋อง” ลู่อี้เดินเข้ามา “มีบางอย่างไม่ถูกต้อง”

“มีอะไร?” ฟ่านหยวนซีเอ่ยถาม

“สัตว์ป่าเหล่านี้มีกลิ่นแปลกพิกล” ลู่อี้กล่าว “เกรงว่าที่พวกมันคลุ้มคลั่งขึ้นมาจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นฝีมือมนุษย์”

“ฝีมือมนุษย์…” ฟ่านหยวนซีเอ่ยอย่างเย็นชา “ดูเหมือนจะมีคนพยายามเค้นสมองอย่างหนักเพื่อวางอุบายข้า คราแรกก็ใส่หินปูนเผาลงไปในโจ๊ก มาครานี้ก็สร้างเรื่องสัตว์ป่าอาละวาด”

“ท่านอ๋องชมชอบสัตว์ร้าย ครั้งหนึ่งสร้างเรื่องจนเล่าลือโด่งดังไปทั่วเมืองซูโจว ราษฎรถึงขนาดกล่าวว่า สัตว์ร้ายยังไม่น่ากลัวเท่าคน บัดนี้เกิดเหตุสัตว์ป่าคลุ้มคลั่ง หากมีคนแพร่ข่าวลือว่าเป็นเพราะท่านอ๋องเข่นฆ่ามากเกินไปสัตว์ร้ายจึงมาแก้แค้น คนทั้งเมืองซูโจวรวมถึงเมืองข้างเคียงหลายเมืองจึงได้รับผลกระทบ ถ้าท้ายที่สุดท่านอ๋องตายด้วยเงื้อมมือเหล่าสัตว์ ก็คงจะแลกมาด้วยเสียงทอดถอนใจเล็กน้อยจากราชสำนักเท่านั้น”

มู่ซืออวี่ลงจากรถม้า

เมื่อเห็นเลือดนองเต็มพื้น ความกังวลจึงปรากฏขึ้นในแววตา

“เจ้ามาได้อย่างไร?” ลู่อี้คว้าแขนนางไว้

“ได้ยินว่าพวกท่านมาเขาจงหมิง ข้าไม่วางใจจึงตามมาดู” มู่ซืออวี่ตอบ “เหตุการณ์สัตว์ป่าคลุ้มคลั่งไม่ใช่อุบัติเหตุกระมัง? ตรวจสอบพบอะไรหรือไม่?”

โม่อู๋เว่ยมองสองสามีภรรยาคู่นั้น

นางฉลาดมากจริง ๆ แม้กระทั่งจงอ๋องยังปฏิบัติกับนางแตกต่างออกไป นางมีอากัปกิริยาสุขุมนุ่มลึก ไม่ว่าจะพบเจอสิ่งใดก็ดูเหมือนจะไม่สามารถทำให้ตื่นตระหนกได้แม้แต่น้อย ราวกับนางคุ้นชินเสียแล้ว

“บนตัวของสัตว์ป่าพวกนี้มีกลิ่นยา ดูเหมือนจะถูกควบคุมโดยมนุษย์” ลู่อี้เอ่ย “เกรงว่าจะมีคนจงใจทำ”

“สัตว์ดุร้ายเหล่านี้พยศหนัก ต่อให้เป็นยอดฝีมือก็ไม่สามารถควบคุมได้ หากต้องการควบคุมสัตว์ร้ายมากเพียงนี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมพวกมันทีละตัว บนเขาจะต้องมีความลับซ่อนอยู่เป็นแน่”

“แม่ทัพผู้นี้จะขึ้นไปสำรวจเอง” ซูเซิ่งอาสา

“ข้าก็จะไปเช่นกัน” ลู่อี้สมทบ “ท่านแม่ทัพมีฝีมือเยี่ยมยอด แต่ไม่เชี่ยวชาญด้านการสืบคดี”

“ใต้เท้าลู่กล่าวได้ถูกต้อง แม่ทัพคนนี้เป็นเพียงนักรบ สืบคดีคงต้องรบกวนท่านแล้ว” ซูเซิ่งตอบรับ “เช่นนั้นพวกเราไปกันเลยดีหรือไม่? นี่ก็เย็นมากแล้ว ประเดี๋ยวร่องรอยจะหายไปเสียก่อน”

“ข้าจะรอพวกเจ้าอยู่ตีนเขา” ฟ่านหยวนซีกล่าวเสียงเรียบ

“ขอรับ”

เพียงแค่มู่ซืออวี่ทำท่าจะเปิดปาก ฟ่านหยวนซีก็เอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน

“ฮูหยินลู่ก็อยู่ที่นี่กับข้าเพื่อรอพวกเขาลงจากเขาเถอะ! หากเจ้าตามไป ใต้เท้าลู่คงเอาแต่พะวงอยู่กับเจ้า แล้วเขาจะพบร่องรอยได้อย่างไร?”

ลู่อี้ลูบหลังมือของภรรยาเบา ๆ “เด็กดี ไม่นานข้าก็กลับมาแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย