สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 488

สรุปบท บทที่ 488 ฉู่หนิงจูหัวใจสลาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สรุปเนื้อหา บทที่ 488 ฉู่หนิงจูหัวใจสลาย – สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย โดย Internet

บท บทที่ 488 ฉู่หนิงจูหัวใจสลาย ของ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย ในหมวดนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 488 ฉู่หนิงจูหัวใจสลาย

บทที่ 488 ฉู่หนิงจูหัวใจสลาย

“คุณหนูสกุลเหมียว…” ฉู่หนิงจูตกตะลึงไปแล้ว

“พวกเรายังไม่เคยพบคุณหนูสกุลเหมียว แต่น้องสามีบอกว่า เขามีความสัมพันธ์อันดีกับใต้เท้าเหมียว อีกฝ่ายจึงแนะนำน้องสาวของตนให้ และเขาเองยังคิดว่าคุณหนูเหมียวก็ดีมาก ดังนั้น…”

มู่ซืออวี่เห็นสีหน้าของฉู่หนิงจูไม่ค่อยดีนัก จึงถามด้วยความเป็นห่วง “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”

“ข้าไม่เป็นไร” ฉู่หนิงจูลุกขึ้นยืน “จู่ ๆ ข้าก็นึกได้ว่ามีเรื่องต้องทำ วันนี้ข้าคงไม่ดื่มชากับพี่หญิงแล้ว ขออภัยด้วย ไว้ข้าจะชดเชยให้วันหลัง”

“เจ้ามีเรื่องต้องทำก็ไปทำก่อนเถอะ” มู่ซืออวี่เอ่ย

ฉู่หนิงจูจากไปพร้อมกับสาวใช้ของนาง

จื่อซูลูบผมยุ่ง ๆ ของตนแล้วเอ่ยว่า “คุณหนูฉู่ไม่มีความสุขเลยใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

“แม้กระทั่งเจ้ายังมองออก ข้าและฮูหยินจะมองไม่ออกได้อย่างไร?” จื่อเยวี่ยนกล่าว “ดูเหมือนคุณหนูฉู่ผู้นี้จะมีใจให้นายท่านรองของพวกเราจริง ๆ น่าเสียดายที่สถานะของนางสูงเกินไป ขอแค่เพียงเป็นบุตรสาวขุนนางธรรมดา นายท่านรองคงพอสามารถต่อสู้แย่งชิงได้ แต่นางเป็นถึงคุณหนูแห่งจวนกั๋วกง อีกทั้งยังหมั้นหมายกับท่านอ๋องน้อยแล้ว แล้วนายท่านรองจะกล้าอาจเอื้อมได้อย่างไร?”

“เรื่องนี้จัดการยากจริง ๆ” มู่ซืออวี่กล่าวขึ้นมา “แต่ว่า ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับว่าน้องสามีคิดอย่างไร”

หากเขาต้องการแต่งงานกับฉู่หนิงจู ก็ยังพอมีโอกาส เพียงแต่เป็นโอกาสที่บางเบาเท่านั้นเอง

ด้วยสมองของลู่อี้ เขาย่อมใช้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ แต่งานแต่งที่จัดแจงโดยผู้อื่นมักไม่ใช่งานแต่งที่ดี เกรงว่าท้ายที่สุด ทุกคนจะไม่ความสุขเมื่องานแต่งนั้นเสร็จสิ้น

“ฮูหยินต้องการพบคุณหนูเหมียวผู้นั้นหรือไม่เจ้าคะ?” จื่อเยวี่ยนเอ่ยถาม

“ข้ายังใหม่ต่อเมืองหลวง ข้าต้องการสร้างไมตรีกับสหายใหม่ คงไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่?” มู่ซืออวี่เอ่ย “เพียงแค่ทำความรู้จักกันไว้ คงไม่กระทบอะไรกระมัง”

มู่ซืออวี่ส่งคำเชิญไปหาคุณหนูเหมียวเพื่อชวนอีกฝ่ายไปซื้อของด้วยกัน

ชื่อของคุณหนูเหมียวคือเสียนจิ้ง มู่ซืออวี่เห็นอีกฝ่ายเดินมาอย่างสง่างาม จึงรู้ว่า ‘คนเป็นดั่งนาม’ สุภาพเยือกเย็นดั่งชื่อมิมีผิด ตามแบบฉบับบุตรสาวตระกูลขุนนาง

“คารวะฮูหยินลู่” เหมียวเสียนจิ้งคำนับมู่ซืออวี่

มู่ซืออวี่ปฏิบัติตอบด้วยท่าทีแบบเดียวกันแล้วเอ่ยว่า “วันที่ร้อนเช่นนี้ ข้ายังเรียกท่านออกมา ท่านคงไม่ถือสากระมัง?”

“ฮูหยินล้อข้าเล่นแล้ว ข้าเองก็อยากออกมาเปิดหูเปิดตาเช่นกัน” เสียงอ่อนหวานของเหมียวเสียนจิ้งทั้งอ่อนโยนและแผ่วเบา หากไม่ฟังให้ดี เกรงว่าบางคำคงตกหล่นไป หากสภาพแวดล้อมรอบข้างจอแจยิ่งกว่านี้ คงไม่อาจได้ยินเสียงนาง

จื่อซูและจื่อเยวี่ยนมองหน้ากัน

แววตาของทั้งสองปรากฏคำว่า ‘ปวดหัว’ อยู่ข้างใน

พวกนางติดตามมู่ซืออวี่แทบตลอดเวลา ย่อมรู้ความชอบของผู้เป็นนายเป็นอย่างดี นางชอบคนที่ร่าเริง เหมือนหลี่หงซูกับเจิ้งซูอวี้ ทว่ามิชอบคนอ่อนแอ เปราะบาง

มู่ซืออวี่ไม่ได้แสดงท่าทีที่ผิดปกติใด ๆ นางพาเหมียวเสียนจิ้งเดินเที่ยวเล่นรอบ ๆ

“คุณหนู พวกเราควรกลับแล้วนะเจ้าคะ” ชุนเจียว สาวใช้ของเหมียวเสียนจิ้งเอ่ยขึ้น “อีกประเดี๋ยวจะถึงเวลาที่ฮูหยินผู้เฒ่าสวดมนต์แล้ว ท่านควรไปอยู่ข้างกายเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นข้า…” เหมียวเสียนจิ้งหันกลับมามองมู่ซืออวี่ “ฮูหยิน วันนี้ข้าคงต้องขอตัวก่อนแล้ว ข้าจะมาพบท่านอีกวันหลัง”

“ได้ ค่อย ๆ เดินเล่า” มู่ซืออวี่ยิ้มบาง ๆ “ข้าไม่ส่งแล้ว”

เมื่อร่างของเหมียวเสียนจิ้งลับตาไป มู่ซืออวี่พลันลูบหน้าตน คลายใบหน้าที่ยิ้มฝืด ๆ ลง

“ฮูหยิน ท่านช่างอดทนเหลือเกิน” จื่อซูเอ่ย “แค่ฟังคุณหนูเหมียวผู้นั้นพูด ข้าก็เหนื่อยแล้ว! กลัวว่าครั้งต่อไปที่นางเปิดปากจะหมดลมหายใจเสียก่อน”

“อืม” มู่ซืออวี่เห็นสามีจะไปคุยกับลู่เซวียนก็รู้สึกวางใจขึ้นมาไม่น้อย

ลู่เซวียนเชื่อฟังคำพูดของลู่อี้ที่สุด หากลู่อี้โน้มน้าวให้เขาเลื่อนงานแต่งนี้ออกไปก่อน เขาคงจะใจเย็นลง

“จริงสิ เรื่องที่ฉาวอวี่เข้าสำนักบัณฑิตหลวงราบรื่นดีหรือไม่?”

“องค์ชายห้าออกคำสั่งด้วยตนเอง คนในสำนักบัณฑิตหลวงย่อมไม่ทำให้เขาลำบากใจ” เพราะคนที่ทำให้ฟ่านเหยียนลำบากใจได้มีเพียงผู้ที่เป็นองค์ชายเหล่านั้น

ทว่าลู่อี้ได้ส่งคนของเขาแทรกซึมเข้าไปแล้ว หากองค์ชายเหล่านั้นกล้าคิดร้ายต่อลู่ฉาวอวี่ คนที่เขาส่งไปจะลงมือทันที

มู่ซืออวี่พูดคุยเรื่องทั่วไปในชีวิตและเรื่องกิจการ ลู่อี้รู้ว่านางมีพรสวรรค์ด้านการค้าเป็นอย่างมาก มิเช่นนั้น นางคงมาไม่ถึงจุดที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

ไม่ว่ามู่ซืออวี่จะกล่าวสิ่งใด เขาไม่มีทางไม่ฟัง บางครั้งยังแนะนำนางเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการพิสูจน์ว่าเขาใส่ใจทุกคำพูดของนาง

รุ่งเช้าวันต่อมา ขณะที่มู่ซืออวี่กำลังจะออกไป ก็เห็นรถม้าคันหนึ่งเคลื่อนเข้ามาหยุดลงตรงหน้าประตูจวนลู่

“ฮูหยินลู่” เหมียวเสียนจิ้งลงจากรถม้า เมื่อเห็นมู่ซืออวี่ ดวงตาของนางเปี่ยมไปด้วยความยินดี “ข้ามาหาท่าน ท่านกำลังจะออกไปข้างนอกหรือ?”

“เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใดหรือ?” มู่ซืออวี่เอ่ยพร้อมกับยิ้มบาง ๆ

“อืม…” เหมียวเสียนจิ้งเหลือบมองชุนเจียวสาวใช้ข้างกาย “เมื่อวานนี้ข้ากลับไปกะทันหัน ทำให้ฮูหยินลู่หมดสนุก วันนี้จึงอยากไปเที่ยวซื้อของกับท่านอีก”

มู่ซืออวี่ตอบยิ้ม ๆ “ขอบคุณความหวังดีของท่าน แต่เมื่อวานนี้ข้าซื้อของที่อยากได้ครบแล้ว”

หากรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร ครั้งนี้อีกฝ่ายควรเข้าใจว่ามู่ซืออวี่หมายความว่าอย่างไร ฮูหยินลู่ไม่อยากเที่ยวเล่นอีกต่อไปแล้ว ทั้งยังเอ่ยไล่กลาย ๆ ทว่า…

“เช่นนั้น ฮูหยินลู่ไปซื้อของเป็นเพื่อนข้าเถอะ!” เหมียวเสียนจิ้งเอ่ย “ข้ามีของบางอย่างที่อยากซื้อ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย