สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 534

บทที่ 534 นี่ เจ้าแมวน้อย

บทที่ 534 นี่ เจ้าแมวน้อย

ปัง ๆ! ปัง ๆ!

“มีคนหรือไม่?” ลู่จื่ออวิ๋นตบลงบนประตู “ข้างนอกมีคนหรือไม่? ข้ายังอยู่ข้างใน”

มีเพียงเสียงความเงียบที่ตอบนางกลับมา

ลู่จื่ออวิ๋นหมุนตัวไปมองรอบ ๆ ห้องนี้ค่อนข้างเล็ก ข้างในเต็มไปด้วยสินค้ามากมาย

นี่เป็นห้องเก็บรักษาของในหอซือเป่า

นางต้องใช้ด้ายชนิดหนึ่ง เมื่อได้ยินจากคนงานว่าในโรงเก็บรักษาพอมีของอยู่ นางจึงมาดูที่นี่

ผลที่ได้คือ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่างที่นางกำลังจดจ่ออยู่กับการหาของนั้น ห้องกลับถูกลงกลอนตั้งแต่ยามใดก็ไม่รู้

ห้องเก็บรักษาแห่งนี้อยู่บนชั้นสามของหอซือเป่า ปกติน้อยคนนักที่จะมาที่นี่

ลู่จื่ออวิ๋นร้องเรียกให้ช่วยอยู่เป็นนานสองนาน ทว่าไม่มีผู้ใดตอบนาง นางคิดว่าตนบอกหยางเจิงก่อนที่จะมาห้องเก็บรักษาแล้ว คิดว่าอีกไม่นานอีกฝ่ายคงมาหา นางจึงหาของที่ต้องการต่อไป

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใดแล้ว ลู่จื่ออวิ๋นกลับยังหาของที่นางต้องการไม่พบ เมื่อมองจากแสงด้านนอกจึงพบว่าแสงเริ่มสลัวเต็มที หากนางยังไม่ออกไปอีก ทุกคนในหอซือเป่าคงกลับบ้านกันหมด

จี๊ด ๆ! จี๊ด ๆ! จี๊ด ๆ!

เสียงแปลกประหลาดที่ดังขึ้นมาดึงดูดความสนใจของลู่จื่ออวิ๋น

หนูตัวแล้วตัวเล่าทยอยคลานออกมา

ลู่จื่ออวิ๋นเติบโตมาในชนบทจึงไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เช่นนี้ ทว่าหลังจากมองหนูโผล่ออกมาตัวแล้วตัวเล่าก็ทำให้อดรู้สึกขนลุกชันขึ้นมาไม่ได้

“ในหอซือเป่าจะมีหนูมากกว่าสิบตัวเชียวหรือ?…” แววตาของนางเต็มไปด้วยความดูถูก “เป็นลูกไม้ที่น่าเบื่ออะไรเช่นนี้”

นางยกกล่องที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้น จากนั้นก็โยนไปยังหนูเหล่านั้น

หากเป็นแม่นางน้อยทั่วไป ถูกขังอยู่ในห้องเล็ก ๆ ที่บานหน้าต่างปิดสนิท อีกทั้งยังมีหนูเข้าออกยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เกรงว่าคงหวาดผวาไปนานแล้ว

ลู่จื่ออวิ๋นมองหนูเหล่านั้นวิ่งชนนาง

วิ่งชนนางหรือ?

นางดมกลิ่นเสื้อผ้าบนร่างกายตนเองฟุดฟิด

มีกลิ่นแปลก ๆ แผ่ออกมา

ก่อนหน้านี้แม่นางน้อยไม่ทันสังเกต ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าบนเสื้อผ้าถูกผงบางอย่างโปรยใส่

นางถอดเสื้อผ้าด้านนอกออก จากนั้นก็โยนใส่หนูเหล่านั้น

เป็นไปดังคาด หนูเหล่านั้นไม่โจมตีลู่จื่ออวิ๋นแล้ว

ดูเหมือนการรอคอยความช่วยเหลืออยู่ที่นี่จะไม่ได้ผล นางเคาะลงบนหน้าต่าง ใช้ของบางอย่างทุบมันให้แตก จากนั้นก็โผล่หัวออกไปมอง

“สูงยิ่งนัก!”

ทว่าโชคยังดี จากที่นี่ยังพอก้าวลงไปหลังคาบ้านฝั่งตรงข้ามได้ หากค่อย ๆ ไต่ลงจากหลังคา แล้วใช้เสาข้าง ๆ กันปีนลงไปที่พื้นคงพอไหว

เพียงแค่ต้องอาศัยความคล่องแคล่วว่องไวเล็กน้อย หากพลาดแม้เพียงนิด…

ลู่จื่ออวิ๋นอยู่กับมู่ซืออวี่มานาน มิได้เรียนเรื่องอื่นใดนอกเสียจากการเป็นผู้มีความสามารถต้องกล้าที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ หลังจากนางวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันแล้วก็ลงมือทำทันที

รถม้าคันหนึ่งเคลื่อนมาอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นเองก็มีคนผู้หนึ่งร่วงลงมาจากข้างบน

เซี่ยเฉิงจิ่นผู้ที่พักสายตาอยู่ในรถม้าพลันลืมตาขึ้นมาพร้อมสายตาอันแหลมคม ทว่าเมื่อเขาเห็น ‘เจ้าแมวน้อยมอมแมม’ ที่แสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน ความโกรธในแววตาพลันหายวับไป สายตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยคำถาม

“ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่เจ้าชอบเล่นอีกแล้วหรือ ถึงได้ไปเล่นบนฟ้า บนฟ้าสนุกมากนักหรือ?”

ลู่จื่ออวิ๋นรู้ถึงความผิดของตน จึงค้อมศีรษะขออภัย “ข้าขออภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจเจ้าค่ะ”

“ข้าพอรู้อยู่” เซี่ยเฉิงจิ่นเอ่ยอย่างสุขุม “เหตุใดเจ้าจึงแต่งกายเช่นนี้? ถูกคนรังแกหรือ?”

ลู่จื่ออวิ๋นมองเสื้อผ้าชิ้นเดียวที่เหลืออยู่บนตัวนาง แล้วจึงกระชับมันเข้าหากันอย่างแน่นหนา

เซี่ยเฉิงจิ่นถอดเสื้อคลุมชั้นนอกออกแล้วโยนไปให้

เดิมทีร่างกายของเขาก็ใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้นเสื้อผ้าของเขาจึงห่อรอบร่างเล็ก ๆ ของนางเสียมิดชิด

ลู่จื่ออวิ๋นลังเลครู่หนึ่ง แล้วกล่าวขอบคุณอีกครั้ง “ข้าขอขอบคุณท่านอีกครั้ง”

“อย่างไรเจ้าก็เป็นคุณหนูตระกูลขุนนาง หากถูกรังแกก็แค่เพียงกลับไปฟ้อง จะท่านพ่อหรือท่านแม่ของเจ้าก็สามารถทำให้พวกเขาถึงตายได้ทั้งนั้น” เซี่ยเฉิงจิ่นเอ่ยนิ่ง ๆ

“ท่านรู้จักคนที่บ้านข้าได้อย่างไร?” ลู่จื่ออวิ๋นประหลาดใจ

“ใต้เท้าลู่ชื่อเสียงโด่งดังยิ่ง” เซี่ยเฉิงจิ่นมองนาง “ท่านแม่เจ้าก็โด่งดังเช่นกัน”

ลู่จื่ออวิ๋นพึมพำ “ข้าก็ไม่ใช่เด็กแล้ว ถูกรังแกเช่นนั้นก็แค่รังแกกลับคืน ไม่จำเป็นต้องฟ้อง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย