สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 548

บทที่ 548 ธิดาสวรรค์

บทที่ 548 ธิดาสวรรค์

ลู่จื่ออวิ๋นยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ท่านพ่อรักข้า ขอแค่เพียงเป็นคำขอของข้า เขามักจะเอาใจใส่เสมอ นอกจากนี้ นี่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เขาเพียงวานคนของเขาให้ทำเรื่องนี้ก็ได้แล้ว”

“ดีจริง” หยางเจิงพึมพำกับตนเอง “หากข้ามีบิดายอดเยี่ยมเช่นนี้ก็คงดี ไม่สิ ขอเพียงยอดเยี่ยมแม้เพียงนิด ก็พอ ต่อให้เขาเป็นเพียงนักการอย่างไรเสียก็คงดีกว่าตอนนี้”

“หยางเจิง ระยะนี้เจ้าปิดบังอันใดกับข้าหรือไม่?” ลู่จื่ออวิ๋นมองอีกฝ่าย “กลับเร็วทุกวัน บางครั้งก็อารมณ์ไม่ดีนัก เจ้ากำลังทำอันใดอยู่กันแน่?”

“ข้าไม่ได้ทำอะไร” หยางเจิงไม่กล้าสบตาลู่จื่ออวิ๋น

“จริงหรือ?”

“อืม จริง ๆ นะ”

“โอกาสที่จะได้ติดตามเรียนรู้จากท่านเจ้าหอมีน้อยนัก เจ้ากลับเร็วทุกวันเช่นนี้ไม่มีเวลาได้ฝึกฝนมากพอ หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้าเกรงว่าผู้อื่นจะมีข้อครหาได้ เจ้าไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดีเถิด”

“ข้ารู้” หยางเจิงเอ่ย “เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ ความสามารถของข้านั้นธรรมดาทั่วไป หากไม่ใช่เพราะเจ้าที่เป็นสหายคอยปกป้องข้า ข้าจะได้รับสิ่งที่ดีเช่นนี้มาได้อย่างไร? ข้าย่อมอยากเก็บรักษามันไว้”

หยางเจิงกล่าวว่านางอยากเก็บรักษามันไว้ ทว่านางยังคงกลับเร็วทุกวันเช่นเคย

ลู่จื่ออวิ๋นพบว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงให้ติงเซียงไปสืบเรื่องหยางเจิง

ระหว่างทางกลับบ้าน ติงเซียงรายงานสถานการณ์ให้ลู่จื่ออวิ๋นฟัง

“เจ้าหมายความว่า ช่วงนี้หยางเจิงกำลังทำบางอย่างเพื่อท่านน้าของนางหรือ?”

“เจ้าค่ะ ดูเหมือนท่านน้าของนางคิดจะขายน้องสาวของนาง นางไร้ทางเลือกจึงทำได้เพียงทำงานเย็บปักถักร้อยให้เขา ได้ยินว่าขายในราคาสูงมาก อีกทั้งยังทำในนามของหอซือเป่าด้วย”

“หากเรื่องนี้แพร่ออกไป นับประสาอะไรกับการเรียนกับท่านเจ้าหอ เกรงว่าแม้แต่บ่าวรับใช้เบ็ดเตล็ดทั่วไปในหอซือเป่า นางยังไร้คุณสมบัติที่จะเป็น นางทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ได้อย่างไรกันนะ?”

ติงเซียงมองลู่จื่ออวิ๋นที่ทำหน้าบึ้งตึง

เจ้านายเติบใหญ่ขึ้นทุกวันแล้ว ยิ่งโตยิ่งเหมือนใต้เท้าลู่ โดยเฉพาะยามที่นางโมโห บรรยากาศน่ายำเกรงเช่นนั้น ไม่ใช่สิ่งที่บุตรสาวผู้สูงศักดิ์ทั่วไปจะมีได้จริง ๆ

“คุณหนูช่วยนางไว้ไม่น้อย นับได้ว่าพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว อันที่จริงท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนางอีกต่อไป” ติงเซียงเอ่ยโน้มน้าว “ข้าคิดว่าครอบครัวนางเป็นบ่อไร้ก้นบึ้ง ท่านน้าของนางผู้นั้นโหดร้ายยิ่งนัก วันนั้นหากหยางเจิงไม่ได้กลับไปเร็ว น้องสาวของนางคงถูกเขานำไปขายแล้ว”

“เจ้ารู้เหตุผลหรือไม่?”

“ดูเหมือนตอนที่บิดานางยังมีชีวิต นางต้องนำเงินไปรักษาอาการป่วย ท่านแม่ของนางจึงหยิบยืมเงินมาจากเขาสองร้อยตำลึงเงิน นางยังติดค้างเขาอยู่อีกหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงเงินเจ้าค่ะ”

“หากเป็นเพียงเพราะเรื่องเงิน เช่นนั้นคงง่ายขึ้นแล้ว”

“อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นเจ้าค่ะ อันที่จริงท่านน้านางเพียงต้องการให้นางทำงานเย็บปักให้เขา บ่าวสืบทราบมาว่าระยะนี้ ท่านน้าท่านนั้นได้เงินมาเจ็ดร้อยถึงแปดร้อยตำลึงเงิน คนผู้นั้นละโมบโลภมาก เขาจะยอมรับเงินแล้วจากไปดี ๆ ได้อย่างไร?”

“หากครอบครัวหยางเจิงติดเงินท่านน้าคนนั้น แล้วเขาข่มขู่หยางเจิงด้วยสารพัดวิธีเพื่อทวงเงินคืน ถึงแม้มันจะน่ารังเกียจแต่ก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง ทว่าเขากลับเห็นหยางเจิงเป็นต้นไม้เขย่าเงิน คิดจะควบคุมนางให้เป็นลูกไก่ในกำมือ น้าเช่นนี้เลวร้ายกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “ข้าอยากได้ข้อมูลของคนผู้นั้น

“บ่าวไปสืบมาแล้วเจ้าค่ะ” ติงเซียงรายงานสถานการณ์ปัจจุบันของท่านน้าหยางเจิงให้ฟังโดยละเอียด

ณ เฉิงเป่ย ศาลาอวี้ซิ่ว

หยางชุนเซิงร้องเพลงเบา ๆ สองมือไพล่หลัง เดินเข้าไปในร้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเปี่ยมสุข

“เจ้านาย” ผู้จัดการทักทายเขาอย่างประจบประแจง “วันนี้หยางเจิงมาเร็วยิ่งนัก ไม่ได้เกียจคร้านหย่อนยาน กำลังทำงานเย็บปักอยู่ด้านหลังขอรับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย