สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 676

บทที่ 676 เกิดความวุ่นวายในเมืองซานหลิน

บทที่ 676 เกิดความวุ่นวายในเมืองซานหลิน

มู่ซืออวี่พบเหตุผลแล้วจึงไปหารือกับช่างต่อเรือเรื่องวิธีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่นี้

นางไม่มีเวลาทานข้าวกับลู่อี้ แม้กระทั่งเวลาจะกลับไปพักผ่อนยังไม่มีมาหลายวันติดต่อกันแล้ว

ลู่อี้อยู่บนเกาะเพียงลำพัง นั่งมองดูทะเลบ้างเป็นครั้งคราว รอให้เรือที่คุ้นเคยมาหา

“ระยะนี้ฮูหยินยุ่งมากหรือ?”

ตอนนั้นที่นางอยู่ที่เมืองฮู่เป่ย กิจการของนางเพิ่งเริ่มต้น นางก็ไม่ได้ยุ่งมากถึงเพียงนี้ ต่อมาเข้าเมืองหลวง นางเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ทว่านางก็ยังไม่ได้ยุ่งมากถึงเพียงนี้อีก ตอนนี้มาอยู่ที่เมืองซานหลิน แม้กระทั่งสามีที่ได้รับบาดเจ็บนางยังไม่สนใจเสียด้วยซ้ำ แต่ละวันอยู่ห่างบ้าน นี่งานรัดตัวเกินไปหรือไม่?

ตอนที่เขาอยู่ที่อาณาจักรเหลียง เขามักจะคิดเสมอว่าหากเขาไม่อยู่ข้างกาย นางจะตื่นขึ้นมากลางดึก จะทานอาหารไม่ลงหรือไม่ บัดนี้ดูเหมือนเขาจะคิดมากไปเอง ฮูหยินบ้านเขายุ่งยิ่งกว่าเขาด้วยซ้ำ นางจะมีเวลาคิดถึงเขาได้อย่างไร?

“ฮูหยินมักจะยุ่งมากจนลืมกินลืมนอน ใต้เท้า ท่านก็อย่าโกรธเลยนะเจ้าคะ บ่าวจะไปเตือนนางให้” ซางจือยิ้มเจื่อน ๆ

“ไม่ต้องหรอก” ลู่อี้ขมวดคิ้ว “เจ้าไปปรนนิบัติฮูหยินของข้าเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า ข้ามีคนคอยลูแลแล้ว”

หลังจากนั้นอีกครึ่งเดือน ในที่สุดมู่ซืออวี่ก็เขียนแบบเสร็จ เมื่อหารือกับช่างต่อเรือหลายครั้ง ในที่สุดก็สรุปแผนได้ จากนั้นจึงเริ่มนำไปปรับปรุงเพิ่มเติม

นางลูบคอแล้วเอ่ยอย่างเหนื่อยล้า “ข้าเหนื่อยเหลือเกิน วันนี้มากินหม้อไฟให้รางวัลตนเองที่เหนื่อยแทบล้มลงเถอะ”

“ฮูหยิน บ่าวคิดว่าท่านไปให้รางวัลนายท่านที่ถูกท่านละเลยก่อนเถอะนะเจ้าคะ!” ฉานอีเอ่ย “เขาแทบจะกลายเป็นหินก้อนหนึ่งที่คอยเฝ้ามองภรรยาแล้ว”

มู่ซืออวี่กล่าว “…ข้าลืมเขาไปเสียสนิท”

“บ่าวรู้สึกได้เจ้าค่ะ” ซางจืออับจนปัญญา

มู่ซืออวี่ไม่พบลู่อี้เมื่อไปถึง ลู่อี้ได้ทิ้งจดหมายและจากไปแล้ว

มู่ซืออวี่พึมพำขณะเปิดจดหมาย “ข้าละเลยเขา คราวนี้เป็นความผิดของข้า แต่คงไม่จำเป็นต้องหนีออกจากบ้านโดยไม่กล่าวอะไรสักคำกระมัง?”

หลังจากอ่านจดหมาย นางจึงเข้าใจเหตุผลและหยุดบ่นในที่สุด

ลู่อี้จากไป ทว่าเขาไม่ได้หนีออกจากบ้าน กลับกันเขาได้ยินคนมารายงานว่ามีกลุ่มโจรปรากฏตัวในเมืองซานหลิน ทั้งยังเผา ปล้น ฉุด ฆ่าไปทุกหนทุกแห่ง เขาจึงพาคนของเขาไปจัดการ

“เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์เล่า?” มู่ซืออวี่เอ่ยถาม

“คุณหนูและพี่หญิงน้องหญิงหลายคนไปเที่ยวบนภูเขาชมแม่น้ำเจ้าค่ะ” ซางจือเอ่ย “นางคงไม่โชคร้ายถึงขั้นบังเอิญไปเจอโจรพวกนั้นกระมัง?”

“เจ้ารีบไปสอบถามลูกน้องดูว่าวันนี้นางได้พาผู้คุ้มกันออกไปหลายคนหรือไม่”

ไม่นานฉานอีก็สอบถามออกมาได้ความจึงกลับมารายงานสถานการณ์ให้มู่ซืออวี่ทราบ

ลู่จื่ออวิ๋นนำผู้คุ้มกันไปเพียงสองคนรวมกับติงเซียงแล้วก็มีคนเพียงสามคนที่ปกป้องนางได้

หากปกป้องแค่เพียงนางผู้เดียวย่อมสามารถหลบหนีได้อย่างไร้ปัญหา ทว่าลู่จื่ออวิ๋นไม่มีทางทิ้งพี่หญิงน้องหญิงเหล่านั้นไว้ ดังนั้นสามคนนี้ย่อมไม่ได้ปกป้องลู่จื่ออวิ๋นเพียงลำพัง หากแต่ต้องปกป้องแม่นางน้อยหลายนาง

“ฉานอี ซางจือ พวกเจ้าส่งคนไปตามหาเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ประเดี๋ยวนี้!” ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ไอรีนโนเวล ขอบคุนจ้า

“เจ้าค่ะ”

“ฉาวจิ่งกับเสี่ยวชิงเอ๋อร์เล่า?”

“แม่นมพาพวกเขาไปที่บ้านบนฝั่งแล้วเจ้าค่ะ”

“ไม่ได้การ ที่นั่นก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน ส่งคนไปรับมาที่เกาะทันที!”

ความสงบสุขของเมืองซานหลินถูกทำลายลงโดยกองคาราวานม้า ซึ่งเป็นชายโหดเหี้ยมเลวทรามกลุ่มหนึ่ง

ชายเหล่านั้นบุกเข้าไปในเมืองซานลิน สังหารทุกคนที่พบ ทั่วทั้งถนนเต็มไปด้วยเลือดที่สาดกระเซ็น

ผู้คนต่างกรีดร้อง หลบหนีกันจ้าละหวั่น ในเวลานี้ เงินทองไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด หากแต่เป็นชีวิตที่ล้ำค่าที่สุด

“ลูกพี่ ได้ยินมาว่าที่นี่มีแม่ทัพเจียงผู้หนึ่ง เขาเป็นลูกชายของเสนาบดีกรมกลาโหมอะไรสักอย่าง พวกเราตัดหัวเขาไปเล่นเป็นลูกหนังดีหรือไม่?”

“ลูกชายของของเสนาบดีกรมกลาโหมหรือ? นั่นนับเป็นของอะไร?”

เจียงหว่านเฉินพาคนของเขามุ่งหน้ามาหยุดพวกมัน

อย่างไรก็ตาม ผู้เป็นหัวหน้ายังพอมีความสามารถอยู่บ้าง เจียงหว่านเฉินไม่ใช่คู่ต่อกรกับเขาแม้แต่น้อย

“ท่านแม่ทัพ!” ผู้ใต้บังคับบัญชาเห็นเจียงหว่านเฉินได้รับบาดเจ็บจึงออกไปยืนบังตรงหน้าเขา

ฉับ! ศีรษะของคนผู้หนึ่งถูกบั่นลงตรงหน้าเจียงหว่านเฉิน

ดวงตาของแม่ทัพหนุ่มพลันแดงก่ำขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย