สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 704

บทที่ 704 ไม่สะดวกเท่าใดนัก

บทที่ 704 ไม่สะดวกเท่าใดนัก

“ข้ารู้” เซี่ยเฉิงจิ่นขึ้นหลังม้า “เจ้าอยู่ที่นี่เพียงคนเดียวดูแลตัวเองดี ๆ เล่า ฮูหยินลู่เป็นคนใจดี หากเจ้าเป็นสหายกับนางได้ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรล้วนจัดการได้ อย่างน้อยฮ่องเต้ฮุ่ยก็ต้องเห็นแก่หน้าสกุลลู่ ไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ”

ซ่างกวนจิ่นซิ่วพยักหน้าเบา ๆ

อันที่จริงหลังจากแต่งงานแล้ว นอกจากคืนแต่งงานที่ได้พบกับฮ่องเต้ฮุ่ย นับตั้งแต่นั้นมานางก็ไม่ได้พบเขาอีกเลย หากเป็นไปตามข่าวลือ ฮ่องเต้ฮุ่ยดูเหมือนจะไม่สนใจสตรี ปกติยามเขาว่างมักไปพระตำหนักเซียวเหยามากกว่ามาที่วังหลัง

พระตำหนักเซียวเหยาเป็นสถานที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ป่าโดยเฉพาะ ตอนที่นางผ่านไป นางเคยได้ยินเสียงร้องคำรามของสัตว์ป่าอยู่ข้างในจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้อีก

เซี่ยเฉิงจิ่นไม่รอลู่จื่ออวิ๋นแล้ว เขาจากไปด้วยความผิดหวัง

เดิมทีเขาคิดว่าลู่จื่ออวิ๋นคงพอมีความรักให้กันบ้าง อย่างน้อยก็ควรมาส่งเขากลับ ทว่าความจริงได้ตบหน้าเขาอย่างจัง ดูเหมือนเขายังทำไม่มากพอ สาวน้อยคนนั้นจึงยังไม่สนใจ

“ไปกันเถอะ!”

คณะราชทูตเดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว

ซ่างกวนจิ่นซิ่วเฝ้ามองร่างพวกเขาเลือนหายไป ดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำสีใส

“พระนางฮองเฮา ท่านไม่เป็นไรนะเพคะ?”

“ข้าไม่เป็นไร” ซ่างกวนจิ่นซิ่วสูดลมหายใจ “ข้าเดินเล่นอยู่ด้านนอกสักครู่ได้หรือไม่ ตอนนี้ข้ายังไม่อยากกลับเข้าวัง”

พระราชวังใหญ่โต สวยงาม ทว่าไม่มีผู้ใดสนใจนาง นางรู้สึกราวกับตนเป็นนกน้อยในกรงทอง แม้แต่การได้มองทิวทัศน์นอกกรงก็นับว่าหรูหรามากแล้ว

“ได้เพคะ ฝ่าบาทกล่าวว่าท่านจะออกไปเที่ยวเล่นนอกพระราชวังบ้างก็ได้ ทว่าต้องจัดเตรียมราชองครักษ์มาคุ้มครอง” นางกำนัลใหญ่หลีเซียงกล่าว

“ยามปกติข้าก็ออกจากวังได้หรือ?”

“ได้เพคะ” หลีเซียงพยักหน้า “เมื่อวานนี้บ่าวยังถามพระนางว่าต้องการออกไปเดินเล่นนอกวังหรือไม่ แต่ท่านปฏิเสธ”

“ข้าคิดว่าตนเองไม่สามารถออกจากวังได้ หากต้องการออกจากวัง ข้าต้องขออนุญาตจากฝ่าบาท ข้าไม่อยากยุ่งยากเพียงนั้น…”

“ไม่ต้องเพคะ ฝ่าบาทตรัสว่าทั่วทั้งวังหลังมีท่านเป็นสตรีเพียงผู้เดียว หากไม่ออกไปเดินเล่นบ้าง ยังจะเล่นกับผู้ใดได้?” หลีเซียงเอ่ย “ฝ่าบาทยังตรัสอีกว่า หากท่านรู้สึกเบื่อ สามารถไปเล่นที่สกุลลู่ได้เช่นกัน”

“ฝ่าบาทใจดีเพียงนี้เชียวหรือ” ซ่างกวนจิ่นซิ่วหัวเราะออกมา “หลีเซียง ข้าอยากกินเป็ดย่าง พวกเราไปที่ภัตตาคารเป็ดย่างที่อร่อยที่สุดและเอาเป็ดย่างกลับไปฝากฝ่าบาทกันเถอะ”

หลีเซียงมองซ่างกวนจิ่นซิ่วที่ยิ้มอย่างไร้เดียงสา ไร้พิษภัย แล้วส่งสัญญาณให้ราชองครักษ์ที่อยู่ข้าง ๆ ให้พวกเขารีบตามไปปกป้องฮองเฮา

หลีเซียงอยู่ในฐานะคนเก่าคนแก่ของพระราชวัง นางเคยทำงานในจวนจงอ๋อง ต่อมาจึงได้เข้าวังมาเป็นนางกำนัล ท้ายที่สุดจึงได้รับมอบหมายจากฮ่องเต้ฮุ่ยให้เป็นนางกำนัลส่วนพระองค์ของฮองเฮา หลีเซียงนับได้ว่าเป็นหนึ่งในคนสนิทที่รู้จักฮ่องเต้ฮุ่ยดีที่สุด

เหตุผลที่ฮ่องเต้ฮุ่ยเลือกซ่างกวนจิ่นซิ่วองค์หญิงอาณาจักรเฟิ่งหลินเป็นฮองเฮา ประการแรกคือ เขาไม่ต้องการองค์หญิงอาณาจักรเหลียงเป็นผู้ร่วมเรียงเคียงหมอน เขาไม่ต้องการเกี่ยวดองกับอาณาจักรเหลียงที่มีใจพยัคฆ์ ใจหมาป่า ประการที่สองคือ ซ่างกวนจิ่นซิ่วดูไร้เดียงสาไม่มีพิษภัย ดูไม่เหมือนผู้ที่ชอบสร้างปัญหา ฮ่องเต้ฮุ่ยเพียงต้องการสตรีที่ว่านอนสอนง่ายมารับตำแหน่งฮองเฮา ไม่สร้างปัญหาหรือก่อเรื่องให้เขากังวล นางจึงเป็นผู้ที่เหมาะกับตำแหน่งนี้

ในพระราชวัง หลังจากฮ่องเต้ฮุ่ยตรวจฎีกาในมือเสร็จแล้วก็เห็นขันทีนำฎีกาชุดใหม่เข้ามา เขาเอนตัวอยู่ตรงนั้นอย่างไม่พอใจ ยกขาพาดไปบนโต๊ะ

ขันทีรีบเอ่ยอย่างประจบประแจง “ฝ่าบาท นี่เป็นชุดสุดท้ายของวันนี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่อ่านแล้ว ส่งไปให้อัครมหาเสนาบดีลู่”

“ทั้งหมดนี้ล้วนต้องได้รับการตรวจทานจากฝ่าบาท” ขันทีลำบากใจ “อัครมหาเสนาบดีลู่ได้เลือกกลับไปชุดหนึ่งแล้ว ที่เหลือล้วนสำคัญยิ่ง ต้องผ่านตาฝ่าบาทนะพ่ะย่ะค่ะ!”

“เจ้านำตราลัญจกรหยกนี้ไปให้อัครมหาเสนาบดีลู่ แล้วให้เขาประทับตามสมควร” ฮ่องเต้ฮุ่ยตรัส

“ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”

“ตาเฒ่าคนนี้ เหตุใดเรื่องมากนัก?” ฮ่องเต้ฮุ่ยหมดความอดทน “ข้าไม่ได้มาเป็นฮ่องเต้เพื่อเป็นวัวเป็นม้า ลู่อี้ผลักดันข้าขึ้นมา ตอนนี้ฎีกาเหล่านี้ก็ต้องให้เขาจัดการ”

“เช่นนั้นกระหม่อมจะส่งฎีกาเหล่านี้ไปมอบให้อัครมหาเสนาบดีลู่ ทว่าตราลัญจกรหยกไม่อาจมอบให้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอตัว!”

ขันทีเฒ่าวิ่งกอดฎีกาออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ากลัวว่าฮ่องเต้ฮุ่ยจะมอบตราลัญจกรหยกให้เขาในลมหายใจถัดไป

ฮ่องเต้ฮุ่ยชี้ไปยังขันทีที่อยู่ข้าง ๆ “เจ้ามานี่”

“ฝ่าบาท…” ขันทีหนุ่มถวายบังคม

“ราชทูตอาณาจักรเฟิ่งหลิงออกเดินทางแล้วหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย