สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 793

บทที่ 793 ต้องการไปก็ไปเสีย ทว่าอย่าได้หวนกลับมาอีก

บทที่ 793 ต้องการไปก็ไปเสีย ทว่าอย่าได้หวนกลับมาอีก

บนกระดานข่าวสารของศาลาว่าการติดประกาศฉบับใหม่อย่างรวดเร็ว ประกาศก่อนหน้านี้เขียนว่า ‘ราษฎรที่ขาดเมล็ดพันธุ์ให้มาลงทะเบียนที่ศาลาว่าการ ศาลาว่าการจะให้ยืมเมล็ดพันธุ์ก่อน เก็บเกี่ยวแล้วค่อยรวบรวมเมล็ดพันธุ์มาคืนในภายหลัง’

บัดนี้มีประกาศฉบับใหม่ติดไว้ ในนั้นเขียนว่าให้ราษฎรตัดสินใจใหม่อีกครั้ง หากไม่ยินดีรั้งอยู่ที่เดียวกับฆาตกรฆ่าญาติของพวกเขา เช่นนั้นก็จากไปในทันที หากยินดีที่จะรั้งอยู่ต่อไป เช่นนั้นก็ตั้งใจทำงาน เชื่อฟังการเตรียมการของทางการ

เมื่อติดประกาศฉบับนี้ไป ราษฎรต่างโจษจันกันอย่างอื้ออึง เดิมทีมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ตัวตนของมู่ซืออวี่ บัดนี้ทุกคนรู้โดยทั่วกันแล้ว

แน่นอนว่ามีคนจากไปจริง ๆ

ไม่มีผู้ใดสร้างความลำบากใจให้พวกเขา ประตูยังคงตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น สามารถออกไปได้ทุกเมื่อ

อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ถูกขึ้นบัญชีดำทั้งหมด หากคิดจะเปลี่ยนกลับมาทะเบียนบ้านเดิมย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะเมืองถงหยางจะไม่รับคนที่หวนกลับมาอีกครั้ง

“อาจารย์ ตามสถิติจากทางอาลักษณ์หวัง ระยะนี้แต่ละวันมีหลายสิบครัวเรือนที่ต้องการย้ายออกขอรับ ทว่าก็มีคนย้ายเข้ามาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมากเช่นกัน อย่างไรก็ดี ผู้ที่มาจากที่อื่นไม่ได้ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับเรา”

“หากต้องการออกไปก็ออกไปเถิด แม้นจะอยากอยู่ก็ไม่อาจอยู่ เจ้าจัดการให้คนไปสืบหาตัวตนของคนเหล่านี้ทีละคน หากมีประวัติกระทำผิดก็ให้จดบันทึกไว้” มู่ซืออวี่เอ่ย “นี่ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่เคยกระทำผิดจะไม่มีคุณสมบัติมาตั้งรกรากในเมืองถงหยางเรา ขอเพียงอีกฝ่ายแก้ไขพวกมัน ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ บางอย่างยังพอยอมรับได้ เพียงแต่ผู้ที่มีประวัติกระทำความผิดมักจะมีอันตรายแอบแฝงเสมอ หากข้อมูลของพวกเขาได้ลงทะเบียนไว้ชัดเจน เกิดอะไรขึ้นจะได้พบผู้ต้องสงสัยในทันที”

“อาจารย์วางใจเถิด อาลักษณ์หวังและคนอื่น ๆ ได้จัดการเช่นนี้แล้ว”

“ไม่เลวนี่เจ้าหนุ่ม เป็นความคิดของเจ้ากระมัง?”

หลี่กู่หยวนหัวเราะออกมาเบา ๆ

“ระยะนี้ข้ายุ่งมาก ลำบากเจ้าต้องวิ่งวุ่นไปมาเพื่อข้าแล้ว” มู่ซืออวี่หันไปมองร่างกายผอมบางของหลี่กู่หยวนแล้วก็รู้สึกผิดเล็กน้อย “ข้ารับเจ้ามาเป็นลูกศิษย์ เดิมทีเป็นเพราะชื่นชมความสามารถของเจ้า แต่เจ้าติดตามข้ามานานเพียงนี้กลับไม่มีวันว่างเลย เดิมทีเจ้าก็ผอมกะหร่อง ระยะนี้ดีขึ้นมาหน่อย น้ำหนักก็ลดลงอีกแล้ว แม่เจ้าคงปวดใจแย่กระมัง”

“ไม่หรอกขอรับอาจารย์ ท่านแม่ข้าบอกว่า ข้าโชคที่ได้พบคนที่ดีอย่างท่าน แม่ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก”

“ท่านแม่เคยชมว่าข้าปากหวานที่สุด บัดนี้ดูท่าจะพบคนที่ปากหวานกว่าแล้ว ท่านคงลืมลูกสาวตนเองไปแล้วใช่หรือไม่?” ลู่จื่ออวิ๋นเดินเข้ามาจากด้านนอก

“พวกเจ้าล้วนแต่ปากหวานทุกคน” มู่ซืออวี่เอ่ย “ปกติไม่เห็นมาหาข้า วันนี้มาหาข้าได้ มีเรื่องอะไรใช่หรือไม่?”

“เรากำลังรับสมัครช่างไม้และช่างตีเหล็ก วันนี้มีคนมาสมัครไม่น้อย ข้าได้ยินว่าช่างไม้และช่างตีเหล็กหลายคนล้วนรุดมาที่นี่ พวกเขาล้วนมาเพราะชื่นชมฝีมือท่านแม่”

“ในเมื่อมาแล้ว เช่นนั้นก็สมัครไว้ก่อน ข้าจะหาเวลาไปทดสอบพวกเขา ขอเพียงแค่คุณสมบัติตรงตามความต้องการ เช่นนั้นก็จะได้เป็นช่างไม้และช่างตีเหล็กส่วนหนึ่งของงานก่อสร้างที่นี่” มู่ซืออวี่เอ่ย “นอกจากนี้ ทางด้านท่านอาฉีของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ท่านอาฉีนำทหารมากมายเพียงนั้นไปหักร้างถางพง ในแต่ละวันถางที่ได้ไม่น้อย ข้าเห็นว่าเหลืออีกไม่มากแล้วจึงบอกท่านอาฉีว่า อีกห้าหกวันคงหยุดหักร้างถางพงได้”

“อีกไม่นานอากาศก็จะเย็นลงแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างให้ท่านอาฉีของเจ้าทำนะ” มู่ซืออวี่เอ่ย “บ้านใหม่ของพวกเราได้คำนึงถึงฤดูหนาวล่วงหน้าแล้วจึงได้ออกแบบให้มีเตียงเตา ทว่าบ้านเก่า ๆ ในเมืองถงหยางนี้ไม่ได้มีข้อดีนี้ รอพรุ่งนี้ข้าเห็นท่านอาฉีของเจ้า ข้าจะให้ทหารของเขาไปเคาะประตูจัดการเรื่องนี้ทีละบ้าน”

“ถึงแม้จะอยากทำ แต่นั่นต้องใช้วัสดุจำนวนมากนะเจ้าคะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย