สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 794

สรุปบท บทที่ 794 ใต้เท้าฉี กองทัพกับชาวบ้านไม่เคยเป็นศัตรูกัน: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 794 ใต้เท้าฉี กองทัพกับชาวบ้านไม่เคยเป็นศัตรูกัน – ตอนที่ต้องอ่านของ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

ตอนนี้ของ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 794 ใต้เท้าฉี กองทัพกับชาวบ้านไม่เคยเป็นศัตรูกัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 794 ใต้เท้าฉี กองทัพกับชาวบ้านไม่เคยเป็นศัตรูกัน

บทที่ 794 ใต้เท้าฉี กองทัพกับชาวบ้านไม่เคยเป็นศัตรูกัน

ฉีเซียวไม่ได้ปฏิเสธการตีความคำพูดของมู่ซืออวี่

อันที่จริงแล้ว นั่นคือความหมายของเขา

นับตั้งแต่โบราณ ราษฎรมีความกลัวต่อทหารโดยสัญชาตญาณ และเพราะความกลัวนี้จึงทำให้การกำราบพวกเขาประสบผล ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อฟังกฎแต่โดยดี

“ข้าไม่คิดเช่นนั้น” มู่ซืออวี่เอ่ย “ทหารก็คือราษฎร ราษฎรก็กลายมาเป็นทหารได้ เหตุผลที่เมืองฮู่เป่ยปกป้องเมืองไว้ได้ก็เพราะกองทัพและราษฎรรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน พึ่งพาซึ่งกันและกัน เกราะป้องกันเมืองจะแข็งแกร่งหรือไม่ ไม่ใช่เพราะทหารในเมืองนั้นโหดเหี้ยมเพียงพอ หากแต่เป็นเพราะราษฎรรักเมืองเมืองนั้น ยินดีที่จะร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อสันติสุข”

“ต่อให้ทหารแข็งแกร่งเพียงใดก็ยังคงเป็นมนุษย์ ยังมีจุดอ่อน หากราษฎรไม่ปฏิบัติตามกฎ ต่อให้ทหารจะแข็งแกร่ง พวกเขายังจะจัดการราษฎรทั้งเมืองได้หรือ? ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือ การพัฒนาเมืองต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าทหารยิ่งน่าเกรงขาม ยิ่งได้รับความเคารพ หากแต่เป็นทหารยิ่งรู้จักห่วงใยราษฎรจึงจะยิ่งได้รับความเคารพ หากไม่เชื่อพวกเราสามารถลองดูได้”

“ข้าเถียงไม่สู้ท่านจริง ๆ”

“นั่นเพราะข้ามีเหตุผล”

“อย่างไรเสียข้าก็ติดหนี้ท่าน ไม่ว่าเจ้าหนี้จะกล่าวอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น ลูกหนี้อย่างข้าจะกล้าปฏิเสธหรือ?”

“แม่ทัพฉีรู้จักสถานการณ์ เป็นผู้เฉลียวฉลาดโดยแท้จริง!”

ฉีเซียวยิ้มอย่างจนปัญญา

ดังที่คาดการณ์ไว้ พ่อค้ากว่าสิบรายนำโดยสกุลฉินได้ส่งวัสดุที่มู่ซืออวี่ต้องการมาให้

มู่ซืออวี่เพียงแต่งตั้งฉินเหวินหานให้เป็นหัวหน้ากลุ่มการค้าเมืองถงหยางอย่างง่ายดาย

หัวหน้ากลุ่มการค้าเมืองฮู่เป่ยยังคงเป็นมู่ซืออวี่ ครั้งก่อนมู่ซืออวี่คิดจะส่งต่อตำแหน่งให้กับพ่อค้าคนอื่น ๆ กลับไม่มีผู้ใดเต็มใจที่จะยอมรับมัน พวกเขารู้สึกว่านางเหมาะจะเป็นประธานกลุ่มการค้าเมืองฮู่เป่ย

ครั้นจัดตั้งกลุ่มการค้าขึ้นที่นี่แล้วก็เหนียวแน่นขึ้นดังคาด

ผลประโยชน์ที่มู่ซืออวี่วาดไว้ให้พวกเขานั้นสวยงามยิ่ง กระทั่งว่าแม้ทุนรอนที่พวกเขาลงไปในช่วงเวลานี้ ไม่ทันได้รับผลตอบแทนกลับคืนมา พวกเขาก็ไม่ยินดียอมแพ้ไประหว่างทาง

ไม่ต้องเอ่ยถึงสิ่งอื่นใด นี่ก็เพียงเพื่อแผนพัฒนาเมืองถงหยางในอนาคตที่ตั้งอยู่ที่ ‘ถนนการค้าหยงผิง’

ทหารของฉีเซียวถูกแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละหลาย ๆ คน แต่ละกลุ่มจะมีหนังสือภารกิจ หลังจากทำภารกิจเสร็จตามคำแนะนำข้างต้นแล้วค่อยกลับไปรายงานตัวที่ค่ายทหาร

“ของสิ่งนั้นช่างวิเศษจริง ๆ! เพียงแค่เผาฟืนก็ทำให้ทั้งบ้านอบอุ่นแล้ว พ่อข้าก็แข็งตายในฤดูหนาวนี่แหละ หากเรามาเมืองถงหยางเร็วกว่านี้ ด้วยร่างกายกับกระดูกเขาแล้ว อย่างน้อยพ่อข้าคงอยู่ได้เป็นสิบ ๆ ปี ข้าเป็นลูกอกตัญญู ไม่ได้พาท่านมาสถานที่ที่ดีเพียงนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ”

“แม้จะพาพ่อเจ้ามาที่นี่ก่อนหน้านี้ก็ไม่อาจรั้งพ่อเจ้าไว้ได้ เมื่อก่อนเมืองถงหยางไม่ได้เป็นเช่นนี้ เปลี่ยนแปลงดีขึ้นเพียงนี้ ล้วนต้องขอบคุณฮูหยิน”

“ในตอนนี้เรามีชีวิตที่ดี ล้วนต้องขอบคุณฮูหยิน ผู้มีสถานะอย่างฮูหยินปฏิบัติต่อราษฎรเป็นอย่างดี ช่างเป็นพระโพธิสัตว์ที่ยังมีชีวิตจริง ๆ”

ฉีเซียวเดินไปบนท้องถนน

อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ แล้ว อาการไอของเขากลับมากำเริบอีกครั้ง

มู่ซืออวี่ไม่รู้ว่าไปได้ยินเรื่องนี้จากที่ใด ถึงได้มาหายังที่เขาพักอาศัย มิหนำซ้ำยังยืนกรานจะให้เขากลับไปพักผ่อนที่ศาลาว่าการ อีกทั้งนางยังปรุงน้ำแกงให้เขาอบอุ่นร่างกายด้วย

ทหารก็เป็นราษฎร ราษฎรก็เป็นทหาร ทหารและราษฎรรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกันจึงไม่มีสิ่งใดตีแตกได้

“บางทีเมืองฮู่เป่ยทำให้ศัตรูปราชัยอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่เป็นฟ้าลิขิต” ฉีเซียวเอ่ย “แต่ไหนแต่ไรมาข้านึกไม่ถึงว่าแม่ทัพที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่แม่ทัพผู้มีชื่อเสียงเกรียงไกร หากแต่เป็นผู้ทำการค้าคนหนึ่ง”

ทุกวันหลังจากนั้น ฉีเซียวจึงอนุญาตให้ทหารเหล่านี้ค่อย ๆ ทำตัวกลมกลืนไปกับชาวบ้าน

เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ชาวบ้านที่เพิ่งมาถึงก็รู้สึกว่าตนเป็นคนของที่นี่แล้ว

ประการแรก ที่ดินที่นี่ให้เปล่าจริง ๆ ส่วนบ้านนั้น ถึงแม้จะไม่ได้ให้เปล่าแต่ก็สามารถผ่อนชำระได้ตามกำลังของตน อีกทั้งยังแบ่งจ่ายได้หลายรูปแบบ พวกเขาสามารถจ่ายเป็นเงิน หรือจ่ายเป็นเสบียงอาหารได้ ภายในระยะเวลาสามปีหรือจ่ายภายในสิบปีก็ได้

เพียงแต่สามปีกับสิบปีนั้นย่อมแตกต่างกัน หากไม่ยินดีจะจ่ายดอกเบี้ยสูงเกินไป เช่นนั้นก็ต้องทำงานให้หนักขึ้น และรีบจ่ายหนี้ให้หมดตั้งแต่เนิ่น ๆ

มู่ซืออวี่แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยคิดว่าการทำให้พวกเขารู้สึกกดดันกับการจ่ายหนี้บ้านจะมีอะไรไม่ถูกต้อง หากอะไร ๆ ล้วนให้เปล่า เช่นนั้นหากพวกเขาคิดจะไปก็ไปคิดจะมาก็มา ย่อมไม่เห็นคุณค่าของมัน

หากอยากให้พวกเขารู้จักถนอมสิ่งที่ตนมีในตอนนี้ ไม่เพียงแต่ต้องสร้างเงื่อนไขในการเอาตัวรอดให้ แต่ยังต้องสร้างแรงกดดันเพื่อที่จะมีชีวิตรอดให้พวกเขาด้วย ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะเอาแต่กินดื่มทุกวันรอคอยความตาย

“อาจารย์ ตามสถิติวันนี้ มีสกุลหนึ่งย้ายทั้งสกุลมาที่นี่แล้วขอรับ” หลี่กู่หยวนวิ่งเข้ามาบอกมู่ซืออวี่ในห้องตำรา

“เรื่องนี้มีอะไรแปลกหรือ?”

“สกุลนั้นเป็นสกุลบัณฑิตที่มีลูกศิษย์ลูกหาชื่อเสียงโด่งดังมากมายทั่วหล้านะขอรับ ทุกคนในสกุลพวกเขาล้วนเป็นนักปราชญ์ที่มีลูกศิษย์รักเคารพอยู่ทั่วใต้หล้า” หลี่กู่หยวนเอ่ย “ท่านลองเดาดูเถิดว่าเพราะเหตุใด? พวกเขามาเพราะภาพวาดสำนักบัณฑิตคงจงของท่าน! เพื่อสำนักบัณฑิตคงจงนี้ นึกไม่ถึงว่าจะย้ายมาที่นี่ทั้งสกุล อาจารย์ คนเหล่านี้สำคัญยิ่งนัก ข้าไม่กล้าไปรับรองพวกเขา ทำได้เพียงเชิญท่านไปดูแล้ว”

“แผนข้าได้ผลแล้ว” มู่ซืออวี่ลุกขึ้น “ไป พวกเราไปพบแขกคนสำคัญเหล่านี้กันเถิด!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย