สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 869

บทที่ 869 ขัดแย้งกัน

บทที่ 869 ขัดแย้งกัน

“ท่านแม่ ท่านแม่…” ลู่จื่อชิงชี้ไปที่ทะเลพลางตะโกนขึ้น “ทางโน้นเหมือนจะมีคนเจ้าค่ะ”

มู่ซืออวี่จึงเดินออกมา

“ฮูหยิน มีคนจริง ๆ ขอรับ” ลุงหนิงผู้ดูแลเรือกล่าว “ดูเหมือนจะเป็นเด็ก ไม่รู้ว่าตายแล้วหรือยังขอรับ”

“ช่วยคนก่อนเถอะเจ้าค่ะ” ลู่จื่อชิงเอ่ย “ไม่ว่าจะตายหรือยังไม่ตายก็ปล่อยให้เขาลอยอยู่กลางทะเลไม่ได้ นอกจากนี้ เขายังกอดโขดหินไว้จะต้องยังไม่ตายแน่นอนเจ้าค่ะ”

“ชิงเอ๋อร์กล่าวไม่ผิด ช่วยคนก่อนเถิด” มู่ซืออวี่เอ่ย “ไม่ว่าอย่างไร เราก็ไม่อาจปล่อยคนไว้ได้”

“ขอรับ”

คนเรือหลายคนร่วมมือกัน เด็กคนนั้นจึงได้ถูกช่วยขึ้นมาแล้ว

มู่ซืออวี่มองดูเด็กคนนั้นแล้วเอ่ยว่า “หน้าตาดีทีเดียว”

“ดูจากเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ จะต้องเป็นเด็กจากครอบครัวยากจนเป็นแน่”

“ใกล้ ๆ นี้มีหมู่บ้านหรือไม่?” มู่ซืออวี่ถาม “ยังไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ ท่านหมออยู่ที่ใด? ส่งเขาไปให้ท่านหมอตรวจอาการ รอเขาฟื้นขึ้นมาก็จะรู้ทุกอย่างเอง”

หลายชั่วยามให้หลัง เด็กคนนั้นก็ฟื้นขึ้น

ถึงแม้จะกล่าวว่าเป็นเด็ก ทว่าคงอายุราว ๆ สิบกว่าปี ไม่ห่างจากซ่งหานจือมากนัก

“ท่านแม่ เขาเป็นใบ้” ลู่จื่อชิงเอ่ย “ช่างน่าสงสารเสียจริง!”

“เขาเขียนตัวอักษรได้หรือไม่?”

“ข้าถามแล้ว เขาเขียนไม่เป็น”

“เขาฟังเจ้าเข้าใจ คงไม่ได้เป็นใบ้มาตั้งแต่เกิด”

“ท่านหมอบอกว่าคอเขาไม่มีอะไรผิดปกติ บางทีคงถูกบางอย่างทำให้สะเทือนใจจึงสูญเสียทักษะการพูด” ลู่จื่อชิงอายุยังน้อยแต่กลับถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา “พวกเราพาเขาไปด้วยเถิดนะเจ้าคะ! เขาช่างน่าสงสารเหลือเกิน!”

“เช่นนั้น เจ้าต้องถามก่อนว่าเขายินดีจะรั้งอยู่หรือไม่ หากเขามีญาติคนอื่น ๆ แล้วคิดจะไปหาญาติเล่า?”

“เช่นนั้นข้าจะไปถามเขา”

ลู่จื่อชิงวิ่งฉิวไปแล้ว

เจ๋อหลานที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น “คุณหนูรองใฝ่ฝันที่จะได้เป็นจอมยุทธ์หญิง นางพอมีนิสัยเฉกเช่นจอมยุทธ์ในยุทธภพจริง ๆ”

มู่ซืออวี่บุ้ยใบ้ไปอีกทาง “นางมีนิสัยอย่างจอมยุทธ์ในยุทธภพ คนผู้นั้นกลับมีนิสัยถี่ถ้วนรอบคอบ สองคนนี้ตรงกันข้ามแล้วกระมัง?”

เจ๋อหลานหันไปตามสายตาของมู่ซืออวี่ เมื่อเห็นซ่งหานจือผู้ที่ดูไม่มีความสุขนักก็หัวเราะออกมา “ทั้งสองคนมีส่วนที่เติมเต็มกันได้พอดี บางทีความสัมพันธ์ในภายหน้าอาจจะดีก็ได้นะเจ้าคะ”

“เรื่องของอนาคตผู้ใดจะบอกได้เล่า เจ้าดูนิสัยชิงเอ๋อร์ นางปฏิบัติต่อทุกคนเช่นเดียวกัน แม้กระทั่งเด็กน้อยน่าสงสารผู้นี้ที่เพิ่งพบนางยังเห็นใจ เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่นางจะเป็นหญิงใจร้ายเล่า?”

“หญิงใจร้ายคืออะไรหรือเจ้าคะ?”

“คือเห็นผู้ใดล้วนดีกับเขาไปหมด”

“เป็นไปไม่ได้กระมังเจ้าคะ!”

“เหตุใดจะเป็นไปไม่ได้เล่า?”

การกระทำต่อจากนั้นของลู่จื่อชิงทำให้เจ๋อหลานเริ่มสงสัยว่าการคาดเดาของมู่ซืออวี่อาจจะกลายเป็นความจริง

คุณหนูรองลู่รู้สึกสงสารฉินโม่ถงที่ตกน้ำผู้นั้นยิ่งนัก ยกเว้นเวลาเรียน ยามอื่น ๆ นางมักจะไปอยู่กับเขาตลอด

คำว่าฉิน เป็นเด็กผู้นั้นที่ชี้ตัวอักษรในหนังสือเล่มหนึ่งที่ลู่จื่อชิงอ่าน ลู่จื่อชิงจึงถามว่า เขาแซ่ฉินใช่หรือไม่ อีกฝ่ายจึงพยักหน้า ส่วนคำว่าโม่ถง ลู่จื่อชิงเลือกมันมาเหตุเพราะฟังดูไพเราะดี

อย่างไรก็คงไม่อาจเรียกเขาว่าเจ้าใบ้ได้กระมัง?

ครั้นลู่จื่อชิงขอให้อีกฝ่ายบอกชื่อจริง ๆ อีกครั้ง เขากลับส่ายหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการเอ่ยถึงมัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงตั้งชื่อใหม่ให้เขาซึ่งหมายถึงการเริ่มต้นใหม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย