สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 927

บทที่ 927 ข้ายอมแพ้

บทที่ 927 ข้ายอมแพ้

จากนั้นหวงสยงจงก็ยอมแพ้ไปเช่นกัน

จี้ซ่งเฉิงเหลือบมองลู่จื่อชิงแล้วกล่าวว่า “ช่างเถิด ข้ายอมแพ้แล้ว”

อย่างไรเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว ล้วนทำไปเพื่อความสนุกเท่านั้น

อีกทั้งคนของคุณชายอี้หรานไม่กี่คนนั้นก็ล้วนถูกกำจัดออกไปหมด

ผ่านไปได้พักหนึ่ง ท้ายที่สุดก็เหลือเพียงเติ้งจิ่วอวี๋ คุณชายอี้หราน และลู่จื่อชิง

“หมดเวลาแล้ว! ทุกท่านจำได้มากน้อยเพียงใดก็เขียนออกมามากเพียงนั้น”

ทั้งสามคนคัดลอกสิ่งที่พวกเขาจดจำได้ลงไป

เติ้งจิ่วอวี๋เขียนอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยุด

เมื่อเห็นว่าคุณชายอี้หรานและลู่จื่อชิงยังคงคัดลอกสิ่งที่จดจำได้อยู่ สายตาของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “นี่มันสมองเช่นไร?”

ลู่จื่อชิงวางพู่กันของนางลงแล้วเอ่ย “ข้าเขียนเสร็จแล้ว”

คุณชายอี้หรานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขียนต่อไปสักพัก ก่อนจะหยุดมือ

“ตามผลลัพธ์สุดท้าย ผู้ที่จดบันทึกได้มากที่สุดคือคุณชายอี้หราน ดังนั้นผู้ชนะคนสุดท้ายคือคุณชายอี้หราน นอกจากนี้ยังมีการท้าประลองในขั้นตอนสุดท้าย ผู้ใดที่ไม่เชื่อในความสามารถของคุณชายอี้หราน สามารถออกมาท้าประลองกับเขาได้”

“เจ้าสำนักหยาง คำกล่าวนี้ของท่านค่อนข้างไร้เหตุผลไปหน่อยกระมัง?” จี้ซ่งเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกเรามาถึงที่นี่ได้ ผู้ใดบ้างที่ไม่ได้ฝ่าห้าด่าน สังหารหกขุนพล ท้ายที่สุดก็ได้ผลลัพธ์ออกมาแล้ว บัดนี้ท่านยังจะจัดให้ท้าประลองอีก ท่านพียงกล่าวว่าประมุขพันธมิตรยุทธภพนี้ท่านไม่ยอมรับ ต้องการสร้างความปั่นป่วนยังจะดีเสียกว่า”

“ทุกท่าน คุณชายอี้หรานทั้งแข็งแกร่งและกล้าหาญ แน่นอนว่าเราย่อมยอมรับเขาแล้ว เงื่อนไขนี้มีขึ้นก็เพื่อทุกท่าน ข้าเชื่อว่าหากคุณชายอี้หรานเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายได้ เขาจะต้องมีอะไรพิเศษแน่นอน ไม่ว่าทุกคนจะท้าประลองกับเขาอย่างไร เขาย่อมจัดการได้ทั้งหมด”

“พูดได้น่าฟังเสียจริง” ลู่จื่อชิงหัวเราะเย้ยหยัน “ผู้ใดไม่พอใจก็ลุกขึ้นมา ข้าจะดูว่ามันผู้ใดที่ไร้ยางอาย”

“ช่างเถิด พวกเรายอมแพ้แล้ว” เติ้งจิ่วอวี๋เอ่ย “ในเมื่อที่นี่ไม่เกี่ยวข้องกับเราอีก พวกเราก็ขอตัว”

“เติ้งจิ่วอวี๋ เรื่องส่วนตัวของเรายังไม่ได้สะสาง เกรงว่าเจ้าจะไปไม่ได้แล้ว” เจ้าสำนักหยางดีดนิ้ว ผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนกรูออกมาจากด้านหลัง

เติ้งจิ่วอวี๋ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “พวกท่านช่างไร้สาระยิ่งนัก คิดว่าพวกเรามาที่นี่เพราะตำแหน่งประมุขพันธมิตรยุทธภพจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”

“นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

“หมายความว่าพวกเราตำหนักเซิ่งหัวได้ล้อมรอบที่แห่งนี้เอาไว้แล้วอย่างไรเล่า” เติ้งจิ่วอวี๋กล่าว

ลูกน้องผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาจากไกล ๆ เขาโน้มตัวลงกระซิบสองสามคำข้างหูเจ้าสำนักหยาง

เจ้าสำนักหยางได้ยินแล้วสีหน้าพลันแปรเปลี่ยน เขามองเติ้งจิ่วอวี๋ด้วยความโกรธ “เจ้าคนน่ารังเกียจไร้ยางอาย!”

สิ้นคำ เจ้าสำนักหยางก็หันไปเอ่ยกับคุณชายอี้หราน “คุณชายอี้หราน ในเมื่อตอนนี้ท่านเป็นประมุขพันธมิตรยุทธภพ เช่นนั้นได้โปรดสั่งให้ทุกคนจัดการกับสตรีที่เต็มไปด้วยพิษสงจากตำหนักเซิ่งหัวเหล่านี้เถอะ”

“ดูเหมือนว่าเป็นประมุขพันธมิตรยุทธภพนี้ก็ไม่ได้ดีเด่อะไรนัก!” ลู่จื่อชิงเอ่ย “ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้เป็น เช่นนั้นตราประทับเล่า? ท่าทีของสำนักต่าง ๆ เป็นอย่างไรเล่า? หากประมุขพันธมิตรยุทธภพนี้เป็นพวกท่านคิดเองเออเอง สำนักต่าง ๆ ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ตำแหน่งนี้ก็เป็นเพียงของตกแต่ง เช่นนั้นไม่ใช่ว่าให้เขาเป็นนกที่ยื่นหัวออกไปรอคนยิงหรือ?”

จี้ซ่งเฉิงกระตุกชายเสื้อลู่จื่อชิง “เสี่ยวชิงเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าต้องปกป้องเขาเช่นนี้?”

นางดีต่อเด็กคนนี้เกินไปหรือไม่?

คุณชายอี้หรานมองลู่จื่อชิงด้วยสายตาอ่อนโยน “ขอบคุณ”

“ในเมื่อเราจัดการคัดเลือกประมุขพันธมิตรยุทธภพนี้ขึ้น แน่นอนว่าทุกสำนักได้ลงมติกันหมดแล้ว คุณชายอี้หราน เจ้าสำนักสำนักต่าง ๆ กำลังรอท่านอยู่ ไม่สู้ท่านไปพบพวกเขาเป็นอย่างไร?”

“ข้าจะไปกับท่าน”

ลู่จื่อชิงจ้องมองเขา

“ข้าจะไม่เป็นไร” คุณชายอี้หรานเอ่ย

“ท่านจะเป็นอะไรหรือไม่เกี่ยวอะไรกับข้า?” ลู่จื่อชิงเอ่ยกับจี้ซ่งเฉิงและฉินโม่ถง “พวกเราไปเถอะ”

หลังเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว นางก็หันกลับมาเอ่ยกับเจ้าสำนักหยาง “กระบี่ดีที่ท่านรับปากไว้อยู่ที่ใด?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย