สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 980

สรุปบท บทที่ 980 การให้ความสำคัญของพระชายาลู่: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

อ่านสรุป บทที่ 980 การให้ความสำคัญของพระชายาลู่ จาก สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย โดย Internet

บทที่ บทที่ 980 การให้ความสำคัญของพระชายาลู่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายจีนโบราณ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 980 การให้ความสำคัญของพระชายาลู่

บทที่ 980 การให้ความสำคัญของพระชายาลู่

สิงเจียซือซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

นางพบกับพระชายาลู่เพียงไม่กี่ครั้ง ทว่าทุกครั้งล้วนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความเมตตา

ทุกคนในสกุลสิง รวมถึงฮูหยินผู้เฒ่าสิงและญาติหญิงอีกหลายคนจึงต้องมองสิงเจียซือใหม่อีกครั้ง

การปีนป่ายไปถึงสกุลหัวนั้นไม่เลว ทว่าเทียบกับสกุลลู่แล้วนับว่ายังอยู่ข้างหลัง

น่าเสียดาย บุรุษที่อายุเหมาะสมเพียงคนเดียวในสกุลลู่คือใต้เท้าลู่น้อย อีกทั้งท่านนั้นยังดูเข้าหาได้ไม่ง่าย แม้กระทั่งกุลสตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงยังไม่เข้าตา แล้วจะต้องตานังเด็กบ้านป่าสกุลสิงผู้นั้นได้อย่างไร?

เมื่อคิดเช่นนี้ ความปรารถนาที่จะเข้าหาสกุลลู่จึงค่อย ๆ เย็นลง ไม่ว่าจะคิดคำนวณอย่างไร? ก็ยังคงต้องปีนป่ายเข้าหาสกุลหัว เช่นนี้โชคชะตาของสกุลสิงจึงจะได้เขียนขึ้นใหม่อีกครั้ง

“หมู่นี้เจ้ามีชื่อเสียงทีเดียว ข้าไม่ทันออกจากจวนก็ได้ยินเรื่องเจ้าแล้ว” มู่ซืออวี่เอ่ยกระเซ้าสิงเจียซือ “ชนรุ่นหลังเก่งกว่าชนรุ่นก่อน เจ้ามีท่าทีกล้าหาญเหมือนข้า ข้าชื่นชมแม่นางน้อยที่เก่งกล้าอย่างเจ้า”

ซูจือหลิ่วที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ย “แม่นางห้าสิงไม่รู้ พระชายาลู่ของเราได้ยินเรื่องของเจ้าแล้วถึงกับกล่าวว่าโชคดีที่นังหนูชิงเอ๋อร์ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง มิเช่นนั้น นางต้องวิ่งไปให้กำลังใจเจ้าอย่างแน่นอน”

สิ้นคำ ซูจือหลิ่วก็หัวเราะออกมา

ฮูหยินหลายท่านที่อยู่ตรงนั้นก็หัวเราะขึ้นมาเช่นกัน

ในแวดวงเมืองหลวง ท่าทีของมู่ซืออวี่ก็คือทิศทางลม คนที่ว่าสิงเจียซือก่อนหน้า ยามนี้กลับกล่าวยกย่องนางแทบทุกคำ เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ไม่มีกฎเกณฑ์ในการแยกแยะผิดถูก

ไม่ไกลออกไป หลี่เยียนหรานเฝ้ามองฉากนี้ แล้วเอ่ยกับหยางเซียงจวินที่กำลังนึกอิจฉา “ดูเหมือนว่าพระชายาลู่จะชอบนังเด็กป่าเถื่อนไร้กฎเกณฑ์ประเภทนี้”

“พระชายาลู่ชมชอบผู้ที่กล้ารักกล้าเกลียด ข้าก็ทำได้เช่นกัน” หยางเซียงจวินเอ่ย

เมื่อทังหงซิ่วเห็นสิงเจียซือพูดคุยสรวลเฮฮาอย่างผ่อนคลายต่อหน้าพระชายาลู่และฮูหยินสูงศักดิ์คนอื่น ๆ เช่นนั้น นางก็เอ่ยกับคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่อยู่ข้าง ๆ “ท่านแม่ข้ามักจะบอกเสมอว่า มีสหายเพิ่มขึ้นอีกคนชาญฉลาดกว่าการก่อศัตรูเพิ่มอีกคน ดูเหมือนที่ข้าฟังท่านแม่จะตัดสินใจได้ไม่ผิด ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีสถานะอย่างไร หากเลี่ยงได้ก็อย่าสร้างศัตรู ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าผู้ที่ตนไปสร้างความขุ่นเคืองให้จะเป็นคนประเภทไหน?”

“พี่หญิงทังกล่าวเช่นนี้ กลัวเกรงนังเด็กสกุลสิงนั่นแล้วหรือ?” บุตรสาวสกุลผู้ดีคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยพลางยิ้มเย้ย “หากกลัว คุณชายสกุลหัวผู้นั้นก็จะเป็นของผู้อื่นแล้ว”

บุตรสาวสกุลผู้ดีหัวเราะขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

ทังหงซิ่วไม่โง่ นางรู้ว่าคนเหล่านี้เพียงแค่อยากจะสุมไฟ

น่าเสียดาย นางไม่ได้ถูกหลอกง่ายเพียงนั้น

“เรื่องการแต่งงานเป็นไปตามคำชักนำของแม่สื่อ คำสั่งของบิดามารดา หากเป็นเช่นนั้น นั่นก็เป็นโชคชะตา” ทังหงซิ่วกล่าว “ข้าย่อมอวยพรให้พวกเขา”

กุลสตรีสูงศักดิ์สองสามคนมองหน้ากันไปมา แววตาดูถูกเย้ยหยัน

ดวงตาแต่ละคู่จับจ้องไปที่ร่างสิงเจียซือ

สาวใช้เชิญนางไปที่ห้องเจ้าสาวแต่นางกลับมีสีหน้าลำบากใจ

ผู้ใดมีตาล้วนมองออกว่านางไม่ต้องการคบหากับคนสกุลหัว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าจะรู้สึกว่านี่เป็นสิทธิพิเศษ

“พวกเจ้าไปหลายคนเพียงนี้แล้วก็ให้นางรั้งอยู่เป็นเพื่อนข้าเถอะ!” มู่ซืออวี่เอ่ย “คุณหนูห้าสิง ข้าอยากไปเดินเล่นทางนั้น เจ้ายินดีไปกับข้าหรือไม่?”

นี่เป็นสิ่งที่สิงเจียซือตั้งตารอ นางเข้าไปควงแขนมู่ซืออวี่อย่างว่องไว “เจียซือรู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้ร่วมชมบุปผากับพระชายา”

ยังมีเหล่าฮูหยินและคุณหนูสกุลหัวหลายคนอยู่ตรงนั้น ครั้นพวกนางเห็นมู่ซืออวี่ให้ความสำคัญกับสิงเจียซือเพียงนั้น ท่าทีที่ไม่แยแสสิงเจียซือแต่เดิมก็ได้เปลี่ยนไป ต้องพินิจดูคุณหนูห้าสิงใหม่อีกครั้ง

“นางเข้าหาพระชายาลู่ตั้งแต่เมื่อใดกัน?” ฮูหยินรองสิงเอ่ยเหน็บแนมนางพลางดันสิงเจียเวย “สมองเจ้าไม่โตแล้วใช่หรือไม่? สิงเจียซือทำให้พระชายาลู่พอใจได้ เหตุใดเจ้าไม่เริ่มก่อนเล่า? เจ้าย่ำแย่กว่านางหรือไร?”

ฮูหยินสามสิงหัวเราะขึ้นมาพลางกล่าวว่า “เจ้าสี่ใช้การไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ พระชายาลู่ชอบอย่างนังหนูไม่รู้กฎเกณฑ์ไม่อยู่กับร่องกับรอยนั่น ไม่ใช่กุลสตรีที่อยู่กับเหย้ากับเรือน เจ้าห้าคล้ายคลึงนางอยู่บ้างจริง ๆ”

สิงเจียเวยเม้มปาก “ท่านย่า ท่านแม่ ข้าจะไปสูดอากาศบริสุทธิ์เสียหน่อย”

“ท่านยายของเจ้าอับอายขายขี้หน้าแล้ว แม้กระทั่งเจ้ายังถูกพี่หญิงน้องหญิงหมางเมิน ยามนี้เจ้าไม่ควรหลบหนี หากแต่ต้องเป็นฝ่ายเริ่มพูดคุยกับพวกเขา ข่าวลือเหล่านั้นมีผู้ไม่ประสงค์ดีจงใจปล่อยออกไป บางทีอาจยังรักษาชื่อเสียงไว้ได้สักเล็กน้อย หากเจ้าเอาแต่หนีก็จะไม่มีผู้ใดสนใจเจ้า เจ้าหนีไปที่อื่นเพียงลำพังก็ไม่มีประโยชน์อะไร”

“ท่านย่า พวกเขาจะเชื่อสิ่งที่ข้าพูดได้อย่างไร?” สีหน้าสิงเจียเวยดูทุกข์ใจ “ข้าไม่มีความสามารถในการเอ่ยคำพูดสละสลวยน่าฟังเหล่านั้น หากท่านย่ารู้สึกว่าขายหน้า ท่านก็คุยกับผู้อื่นให้น้อยลงยังจะมีประโยชน์เสียกว่า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย