เฟิงเอ้อร์เหนียงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แสงในดวงตาค่อยๆ จางลง
นางจ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า แล้วพูดเสียงเบาหวิว “ศิษย์พี่เหมยเป็นศิษย์พี่หญิงของเรา ครั้งหนึ่งตอนที่นางลงเขาไปทำธุระ ก็ได้พบกับเฮ่อยวนเจ้าเมืองหนุ่มแห่งอิ๋นเฉิง นางตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น มอบตัวให้กับเขา ต่อมาผู้อาวุโสหันทราบเรื่อง จึงกักขังศิษย์พี่เหมยไว้ในผาเฟิงเริ่น ต้องทุกข์ตรมต่อความเจ็บปวดจากการต้องลมหนาวเสียดกระดูกทุกวัน”
ที่แท้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแบบนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าแม้ว่าแม่ของเจ้าของร่างเดิมจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็มีชีวิตอยู่แบบอยู่มิสู้ตาย
“เหตุใดผู้อาวุโสหันจึงทำเช่นนี้”
อินชิงเสวียนถามอีกครั้ง
เฟิงเอ้อร์เหนียงพูดด้วยทื่อๆ “หันเจิงหมิงลูกชายของเขาชอบพี่หญิงใหญ่ เขาอยากได้ศิษย์พี่เป็นลูกสะใภ้มาโดยตลอด เมื่อเขารู้ว่าพี่หญิงใหญ่มอบกายให้คนอื่นแล้ว หันเจิงหมิงก็ธาตุไฟเข้าแทรก นี่จึงเป็นสาเหตุที่ผู้อาวุโสเกลียดศิษย์พี่มาก”
เมื่อพูดจบ นางก็กล่าวเสริมอีกว่า
“นี่เป็นการคาดเดาของข้าเอง”
“ผาเฟิงเริ่นอยู่ที่ไหน แล้ว...ลิ่นเซียวอาศัยอยู่ที่ไหน”
เฟิงเอ้อร์เหนียงชี้ไปที่บนหัวเหมือนหุ่นเชิด
“ผาเฟิงเริ่นอยู่ทางตะวันตกของยอดเขาบรรจบสวรรค์ ส่วนเรื่องลิ่นเซียวข้าไม่รู้เรื่อง ตอนที่ข้าจากไป ยังไม่มีลิ่นเซียว”
อินชิงเสวียนฟังอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แล้วทำไมพวกเจ้าถึงอยากจากไปล่ะ”
เฟิงเอ้อร์เหนียงจ้องไปที่กำแพงแล้วพูดว่า “เพราะเราไม่สามารถช่วยศิษย์พี่ได้ จึงต้องหาวิธีอื่น”
อินชิงเสวียนยังอยากถามอะไรอีก แต่จู่ๆ เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นมาแต่ไกล นางเม้มริมฝีปากทันที แตะคิ้วของเฟิงเอ้อร์เหนียง แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง
นี่เป็นครั้งแรกที่นางใช้วิชาเนตรของโมริตะคาวาสึบาเมะได้สำเร็จ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าวรยุทธ์ของเฟิงเอ้อร์เหนียงนั้นไม่ค่อยดีนัก หากนางเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสหัน อินชิงเสวียนย่อมไม่มีความมั่นใจเช่นนั้นอยู่แล้ว
หลังจากที่เสี่ยวหนานเฟิงเข้าไปในมิติ นางก็ไม่ต้องกลัวที่จะถูกข่มขู่อีกต่อไป แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ หากผู้อาวุโสหันใช้แรงกดดันเต็มที่ นางก็ไม่สามารถเข้าไปในมิติได้อยู่ดี ซึ่งหมายความว่านางไม่สามารถปกป้องได้ตัวเอง
แม้ว่าทักษะห้าสิบห้าสิบในมิติจะสามารถใช้ได้สิบครั้ง แต่ก็จำกัดระยะเวลาที่คงอยู่เพียงห้าสิบนาทีเท่านั้น หากกำลังภายในของผู้อาวุโสหันสูงเกินไป เช่นนั้นความตายก็คือจุดจบของนาง
เมื่อใดที่นางไม่อยู่ มิติก็จะพังทลายลงอย่างแน่นอน
อินชิงเสวียนจะไม่ยอมเสี่ยงง่ายๆ เว้นแต่จำเป็นจริงๆ
ขณะที่กำลังคิดอย่างวุ่นวายใจ เฟิงเอ้อร์เหนียงก็ฟื้นคืนสติแล้ว นางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงรีบเรียกอินชิงเสวียน
“แม่นางชิงเสวียน แม่นางชิงเสวียน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...