อีกคนพูดอย่างเย็นชา “พวกเราทำตามคำสั่ง กลับไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยม”
“พวกเจ้านี่บังอาจกันจริงๆ!”
อินชิงเสวียนตั้งพิณการเวกบนพื้น พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าอยากเห็นจริงๆ ว่าพวกเจ้ามีความสามารถแค่ไหน”
“แม่นางอิน นี่เป็นเรื่องภายในของสำนักของเรา เจ้าไม่ควรเข้ามาก้าวก่ายจะดีกว่า”
อินชิงเสวียนพูดอย่างเย็นชา “สองคนนี้เป็นเพื่อนของข้า วันนี้ข้าจะปกป้องพวกนางให้ได้”
มือเรียวของนางดึงสายเบาๆ เสียงพิณดังชัดเจนทำให้ทุกคนเลือดลมพลุ่งพล่าน
ศิษย์หลายคนก้าวถอยหลังอีก
คิดไม่ถึงว่าอินชิงเสวียนที่อายุยังน้อย แต่ทักษะวรยุทธ์กลับสูงส่งถึงเพียงนี้
“ในเมื่อแม่นางอินยืนกรานดื้อดึง งั้นพวกเราก็มีแต่ต้องบอกผู้อาวุโสหันให้มาจัดการเท่านั้น”
อินชิงเสวียนพูดอย่างเย็นชา “ตามสะดวก”
ทั้งหมดมองดูพวกนางทั้งสามอย่างเกลียดชัง และจากไปอย่างรวดเร็ว
อินชิงเสวียนเก็บพิณการเวก แล้วหันกลับมาถามว่า “ผู้อาวุโสทั้งสองจะไปที่ใด”
เฟิงเอ้อร์เหนียงกล่าวว่า “พวกเรากำลังจะไปพบผู้อาวุโสคุมกฎ แต่ถูกศิษย์ที่ลาดตระเวนเหล่านี้พบเข้า”
นางหยุดชั่วคราวแล้วพูดว่า “หากผู้อาวุโสหันรู้ว่าศิษย์พี่ฉุยฟื้นคืนสติแล้ว จะทำอย่างไรดี”
อินชิงเสวียนพูดเบาๆ “ไม่เป็นไร พวกท่านบอกความจริงก็พอ โจรเฒ่าหันตอนนี้ยังมีเรื่องที่ต้องขอร้องข้าอยู่ ย่อมไม่กล้าทำอะไรข้าแน่”
ตอนนี้นางไม่ได้ถูกผู้อาวุโสหันควบคุมอีกต่อไปแล้ว จึงไม่กลัวที่จะแตกหักกับพวกเขาเลย
“ถ้าผู้อาวุโสทั้งสองสะดวก ช่วยพาข้าไปด้วยได้ไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...