ณ เทือกเขาเชื่อมเมฆา เมืองชิงเหอ
เย่จิ่งหลานเจอหวังซุ่นที่กำลังรอเขาอยู่
“นายท่าน ราบรื่นดีหรือไม่”
หวังซุ่นกำลังกินของว่าง ดูหนังสือภาพเล่มเล็ก ท่าทางสบายมาก
เย่จิ่งหลานพูดด้วยรอยยิ้มอวดๆ “เจ้านายเจ้าออกโรงทั้งที หนึ่งต่อสอง จะไม่ราบรื่นได้รึ”
หวังซุ่นหัวเราะเบาๆ พูดอย่างประจบประแจง “ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านมีความสามารถทุกอย่าง ครั้งนี้ได้เจอแม่นางอินบ้างหรือไม่”
“แน่นอน ครั้งนี้ข้าจะพาเจ้าขึ้นไปบนภูเขาด้วย มีงานบางอย่างให้เจ้าทำ”
เมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานมีงานให้ตัวเองทำ หวังซุ่นก็รู้สึกตื่นเต้น รีบวางขนมในมือไว้บนเตียง ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ท่านมีงานอะไรให้ทำก็บอกมาได้เลย บ่าวรับรองว่าจะทำให้เสร็จ”
เย่จิ่งหลานหยิบรูปของเจ้าตำหนักจินออกมา
“ตามภาพเหมือนคนนี้ เจ้าสามารถสร้างหน้ากากได้หรือไม่”
หวังซุ่นรับภาพวาดมาดู ลูบคางแล้วพูดว่า “ภาพนี้ดูค่อนข้างยาก ปกติข้าจะปั้นหน้ากากตามหน้าคนจริงๆ ถ้าปั้นขึ้นตามภาพแบบนี้ ค่อนข้างยากสักหน่อย”
“มีความยากก็พยายามทำให้ได้ ข้าดูแลเจ้าเป็นอย่างดี เจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ”
เย่จิ่งหลานตบไหล่เขาอย่างแรง มองหวังซุ่นด้วยแววตาแน่วแน่
หัวใจของหวังซุ่นรู้สึกร้อนผ่าว ยืดอกขึ้นทันที
“ท่านไม่ต้องห่วง ข้าสัญญาว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จ”
“แบบนี้สิ จะให้เวลาเจ้าสามวัน รีบเก็บของก่อนเร็ว ขึ้นเขากันเดี๋ยวนี้”
หวังซุ่นพยักหน้า รีบเก็บข้าวเขาอย่างรวดเร็ว เก็บทุกสิ่งที่ชอบลงในมิติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...