“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป”
เย่จิ่งอวี้ผุดลุกขึ้นทันควัน ปราดเข้ามาอยู่ข้างๆ อินชิงเสวียนแล้ว
อินชิงเสวียนหายใจเข้าลึกๆ ระงับอาการปั่นป่วนในอก เงยหน้าขึ้นยิ้มละไม
“ไม่เป็นไร บางทีช่วงนี้อาจกินข้าวไม่ตรงเวลา ทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง”
เย่จิ่งอวี้มีสีหน้าเคลือบแคลงสงสัย
วรยุทธ์ของอินชิงเสวียนไม่ได้อ่อนแออีกแล้ว ด้วยระดับการฝึกฝนในปัจจุบันของนาง เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบจากการบาดเจ็บและความเจ็บป่วยเล็กน้อย
“หรือว่าเจ้า...”
เขาคิดถึงความเป็นไปได้บางอย่าง
อินชิงเสวียนหันหลังกลับและวิ่งหนีไปแล้ว
“อย่าคิดฟุ้งซ่าน ข้าจะไปเตรียมอาหารก่อนล่ะ”
เย่จิ่งอวี้มองไปที่ร่างของอินชิงเสวียน ครั้นแล้วหัวใจก็เต้นตึกตัก
หรือว่าเสวียนเอ๋อร์?
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง ดวงตาของเย่จิ่งอวี้ก็เปล่งประกายด้วยความดีใจ
“เสวียนเอ๋อร์!”
เขารีบวิ่งตามนางไป
“หืม?”
อินชิงเสวียนหันกลับมาด้วยสายตาสดใส ยิ้มเห็นฟันขาว นัยน์ตาเป็นประกายด้วยความสุข
“เจ้า...ตั้งครรภ์ใช่หรือไม่”
เย่จิ่งอวี้ก้มศีรษะมองไปที่ท้องน้อยของอินชิงเสวียน
ใบหน้าของอินชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
“ไม่มีทาง”
ครั้นเห็นท่าทางของนาง เย่จิ่งอวี้ก็ยิ่งรู้สึกยินดีมากขึ้น
“พรุ่งนี้เราจะลงเขาไปให้หมอตรวจกัน”
อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปาก
“ลูก...คงจะไม่เป็นไร”
เย่จิ่งอวี้กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้ต่อสู้กับผู้อื่นมาหลายครั้ง ทั้งยังได้รับบาดเจ็บ ควรไปตรวจดูดีกว่า หรือไม่ก็ให้จิ่งหลานตรวจดูให้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...