ทันทีที่เฮ่อยวนพูดจบ ร่างหลายร่างก็เหาะลงมาจากภูเขา
ผู้นำสวมชุดสีแดงสด แววตาคมกริบ ที่ด้านหลังมีสตรีสองคนที่อายุใกล้เคียงกับนาง ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียง
“ใครกล้าบุกเข้าประตูภูเขา”
สตรีที่เป็นผู้นำยืนอยู่บนถนนบนเขา น้ำเสียงที่ชัดเจนของนาง ก็แว่วกระทบโสตประสาทของเฮ่อยวน
เฮ่อยวนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เสียงนี้เขาคุ้นเคยยิ่งนัก เหมยชิงเกอ นางยังมีชีวิตอยู่จริงๆ
“ชิงเกอ ข้าเอง ข้าเฮ่อยวน”
เหมยชิงเกอจำเสียงของเขาได้เช่นกัน ไฟโทสะสองลูกพลันระเบิดออกมาจากดวงตาของนาง
“ท่านมันคนใจร้ายไร้น้ำใจ กล้าดีอย่างไรมาถึงตำหนักเทพ ตายซะเถอะ!”
เหมยชิงเกอตวาดอย่างเย็นชา โบกมือโจมตีไปยังเฮ่อยวน
เฮ่อยวนไม่ได้หลบเลี่ยง ภายในหัวของเขาคือภาพของเหมยชิงเกอถูกมัดด้วยโซ่เหล็ก ถูกดาบลมหนาวเชือดเฉือนทุกวัน
ไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงที่อ่อนแอเลย แม้แต่ผู้ชายที่แข็งแกร่ง ก็อาจไม่สามารถอยู่รอดได้เกินสิบปี
โชคดีที่นางมีความเกลียดชังตัวเองอยู่ในใจเสมอ ถึงทำให้นางต้องรอจนกว่าลูกสาวมาช่วยเหลือได้
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เฮ่อยวนก็ถอนหายใจหนักๆ
ทั้งหมดนี้เป็นเขาที่ติดค้างนาง แม้ว่าเหมยชิงเกอจะปลิดชีพเขาไป เขาก็ยินดีให้ทำเช่นนั้น
เมื่อนึกถึงทุกฉากความรักของพวกเขา เฮ่อยวนก็หลับตาด้วยความโล่งใจ
เปรี้ยง
มีเสียงดังอึกทึก มือหยกขาวเรียวของเหมยชิงเกอก็ประทับลงบนหน้าอกของเขาทันที
เฮ่อยวนกระเด็นออกไปทันทีราวกับว่าวที่เชือกขาด และกระแทกต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังอย่างแรง
แรงมหาศาลทำให้ต้นไม้หักสะบั้นลง เฮ่อยวนล้มลงกับพื้นอย่างแรง เลือดเต็มปากกระเซ็นลงบนพื้น เสื้อผ้าเปื้อนสีแดงสดทันที
เหมยชิงเกอดูตกตะลึง นางคิดไม่ถึงว่าเฮ่อยวนจะไม่หลบหลีก
นางเหาะไปหาเฮ่อยวน คว้าคอเสื้อของเขา แล้วมองดูเขาอย่างเย็นชา
“เจ้าเป็นใคร บังอาจมาสวมรอยเป็นเฮ่อยวน?”
วรยุทธ์ของเฮ่อยวนไม่ได้แย่ขนาดนั้น
เฮ่อยวนจับต้นไม้ข้างหลังเขา แล้วพูดอย่างอบอุ่นว่า “ชิงเกอ เราไม่ได้เจอกันมานานกว่าสิบปีแล้ว เจ้าจำข้าไม่ได้หรือ”
เขาหมุนข้อมือขวา ลูกแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา
“นี่คือเคล็ดวิชาใจเพียวเหมี่ยวของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง เจ้าคงรู้จักอยู่กระมัง”
เหมยชิงเกอก้มหน้าลงมองไปที่ฝ่ามือของเฮ่อยวน นี่คือวรยุทธ์ของอิ๋นเฉิงจริงๆ หรือว่า...เขาคือเฮ่อยวนจริงๆ
“แล้วทำไมไม่สู้กลับล่ะ”
เฮ่อยวนมองดูใบหน้าที่เขาฝันไว้นับครั้งไม่ถ้วน ไม่ได้เจอนางมาหลายปี รูปร่างหน้าตาของนางไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่อารมณ์ของนางเย็นชาไปบ้าง
“ข้าจะสู้กลับได้อย่างไร ทั้งหมดนี้ข้าติดค้างเจ้า ถ้าเจ้าต้องการชีวิตของข้า ข้าจะให้เจ้าตอนนี้”
เขามองเหมยชิงเกออย่างลึกซึ้ง แล้วหลับตาลง
เมื่อนึกถึงคนชุดดำที่กำลังไล่สังหารนาง เหมยชิงเกอก็รู้สึกเย็นชาไปทั้งตัว ถ้าไม่ใช่เพราะถูกคนของอิ๋นเฉิงไล่ล่า พวกนางแม่ลูกจะแยกจากกันมานานกว่าสิบปีได้อย่างไร
ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งของเฮ่อยวน ใครเล่าจะสั่งองครักษ์ส่วนตัวของอิ๋นเฉิงได้มากมายขนาดนั้น
ฉากในความทรงจำเข้ามาในใจทีละฉาก เหมยชิงเกอยิ้มเยาะและพูดว่า “ตอนนี้เพิ่งนึกอยากจะมอบชีวิตทั้งหมดให้ข้า แล้วก่อนหน้านี้ทำอะไรไว้ ถ้าท่านไม่ได้สั่งไล่ล่าเราสองคนแม่ลูก ข้ากับชิงเสวียนจะถูกบังคับให้แยกจากกันได้อย่างไร เฮ่อยวน ท่านโหดร้ายเพียงนี้ เพียงเพราะข้าเป็นคนของตำหนักเทพ ท่านถึงได้กลัวงั้นหรือ กลัวว่าเมื่อไปมาหาสู่กับข้า กลัวฐานะเจ้าเมืองของท่านจะไม่สามารถรักษาไว้ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...