สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1385

“เสวียนเอ๋อร์กำลังคิดอะไรอยู่”

เสียงของเย่จิ่งอวี้ดังอยู่ข้างๆ กระแสเสียงที่อ่อนโยนและมั่นคงนั้น ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมาก

อินชิงเสวียนหันกลับมาด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน

“ความเงียบกะทันหัน กลับทำให้รู้สึกไม่สบายใจ”

เย่จิ่งอวี้ก้มมองนาง ดวงตาเต็มไปด้วยความรัก

“เสวียนเอ๋อร์หมายถึงแคว้นเฟยเหยา?”

อินชิงเสวียนพยักหน้า

“ถูกต้อง ตั้งแต่มีคนจำนวนมากมาที่อิ๋นเฉิง พวกเขาก็เงียบไป พวกเขาวางแผนมานานมาก แล้วจู่ๆ จะหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร พวกเขาต้องมีแผนอื่นแน่ๆ ข้ากังวล ว่านี่อาจจะเป็นกลอุบายอะไรบางอย่างหรือเปล่า”

“แผนล่อท่านเข้าไปในหม้อดิน? ข้าคิดว่าเสวียนเอ๋อร์กังวลมากเกินไป ลูกหลานของชาวเฟยเหยา ไม่เหมือนกับชาวเฟยเหยาที่แท้จริง เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะมีความปรารถนาที่จะฟื้นฟูแคว้น ความสามารถด้านวรยุทธ์ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสูงกว่าราชาแห่งแคว้นเฟยเหยา ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงฝูงชนที่ไร้สติ อีกทั้งชาวยุทธ์ทุกคนในยุทธจักรก็มารวมกันที่นี่ สำนักใหญ่ๆ หลายสิบสำนักร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู ผู้ใดจะสามารถต้านทานได้ หรือว่าคนเหล่านั้นแข็งแกร่งมากกว่าผีแคระตงหลิวที่เคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างนั้นหรือ”

คำพูดนี้ก็มีเหตุผล ผู้ที่เดินทางมาที่นี่ทุกคนไม่ธรรมดาจริงๆ แถมยังแข็งแกร่งจนไม่อาจต้านทานได้

อินชิงเสวียนก็รู้สึกว่าตัวเองกังวลเกินไปหน่อย กำลังจะคล้อยตาม แต่จู่ๆ ก็นึกถึงค่ายกลของตงหลิว ซึ่งชาวแคว้นเฟยเหยาก็เชี่ยวชาญในศาสตร์พิลึกพิลั่นเหล่านี้เช่นกัน

“ข้าควรไปหาท่านพ่อเสียหน่อย ถ้าสามารถถ่ายทอดวิธีทำลายค่ายกลให้ทุกคนได้ โอกาสที่จะชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ ก็จะดียิ่งมีมากขึ้น”

นางถูกขังอยู่ในค่ายกลหลายครั้ง จึงยังคงระแวงอยู่

เย่จิ่งอวี้พยักหน้าเห็นด้วย

“เสวียนเอ๋อร์พูดถูก แต่ค่ายกลนั้นซับซ้อน ในเวลาอันสั้นเกรงว่าจะทำความเข้าใจได้ยาก”

“ในบรรดาศิษย์ต้องมีคนฉลาดอยู่บ้าง ถ้าสอนตามความถนัด แม้จะไม่เชี่ยวชาญ ก็ยังเข้าใจอะไรได้บ้าง ถือว่ายังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย”

บทที่ 1385 หลิวซือจวินมีความรู้สึกบางอย่าง 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์