ผู้ที่เป็นผู้นำอยู่ในวัยสามสิบเศษ สวมเครื่องแบบบัณฑิต ทว่าดวงตากลับไม่มีความสง่างามแบบบัณฑิตเลย แต่กลับเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย
โดยเฉพาะไฝขนที่แก้มขวา ทำให้อินชิงเสวียนรู้สึกขยะแขยงอย่างยิ่ง
“ฮ่าๆ ที่แท้ก็เป็นแม่นางน้อย ดูเหมือนว่าเราจะโชคดีทีเดียว”
“ปากสุนัขคายงาช้างออกมาไม่ได้ ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ”
อินชิงเสวียนใช้ฝ่ามือโจมตี บัณฑิตคนนั้นแทนที่จะหลบ แต่กลับคว้าข้อมือของอินชิงเสวียน
“สาวน้อย พระจันทร์มืดมนลมพัดแรง ค่ำคืนฤดูใบไม้ผลิก็สั้นนัก ทำไมต้องเจ้ากับข้าต้องต่อสู้กันด้วยเล่า มิสู้ไปหาความสำราญกันดีหรือไม่”
“หาความสำราญบ้านเตี่ยแกน่ะสิ!”
เมื่อมองดูใบหน้าที่น่ารังเกียจของชายคนนั้น อินชิงเสวียนก็รู้สึกคลื่นไส้ แสงสีม่วงเปล่งออกมาจากฝ่ามือ ก่อนที่นิ้วของชายคนนั้นจะเข้าใกล้ ก็ถูกแทงด้วยกำลังภายในที่กดขี่คุกคาม เขาส่งเสียงกรีดร้องออกมา
อีกสามคนเหาะขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์อย่างรวดเร็ว ตะโกนลั่น
“มั่วเหล่าชี!”
“พวกเจ้าเป็นใคร จงบอกชื่อมาเดี๋ยวนี้”
ขณะที่อินชิงเสวียนตะโกนถาม ทั้งสามชักดาบออกมาโจมตีแล้ว อย่างไรก็ตามคนที่พวกเขาโจมตีไม่ใช่อินชิงเสวียน แต่เป็นมั่วเหล่าชี
อินชิงเสวียนตกใจ มั่วเหล่าชีถูกคนสามคนแทงจนตาย
เกิดอะไรขึ้น?
หรือว่าจริงๆ แล้วพวกเขาเป็นทหารองครักษ์ของอิ๋นเฉิง?
เหมือนกับตำรวจนอกเครื่องแบบในสมัยปัจจุบัน?
อินชิงเสวียนไม่เข้าใจ
ในช่วงเวลาแห่งความสับสนนี้ พวกเขาทั้งสามชักกระบี่ออกมา และพุ่งโจมตีนาง
เสื้อผ้าของอินชิงเสวียนพัดกระพือ นางยึดเสาธงของหอคอยไว้ เมื่อยกข้อมือขึ้น พิณการเวกก็ปรากฏบนฝ่ามือของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...