นี่เป็นครั้งแรกที่อินชิงเสวียนได้ยินเสียงพูดที่ชัดเจนเช่นนี้ จึงอดดีใจเสียไม่ได้
“เก่งจริงๆ ขนาดคำพูดยากๆ ลูกชายของข้าก็พูดได้แล้ว”
เสี่ยวหนานเฟิงดูเหมือนจะรู้ว่าอินชิงเสวียนกำลังชื่นชมตัวเอง จากที่ร้องไห้ก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะลั่นทันที
เมื่อเห็นลูกชายยิ้มตาหยี อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะจูบใบหน้าเล็กๆ ที่อวบอ้วนดวงนั้น
“ลูกแม่เป็นเด็กดีจริงๆ คืนนี้แม่จะนอนกับเจ้านะ”
เสี่ยวหนานเฟิงวางหน้าเล็กๆ บนไหล่ของอินชิงเสวียน ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งนัก
อินชิงเสวียนตบก้นกลมของเขาเบาๆ
“เราไปนอนกันดีกว่า ยายหลี่ ท่านกับอวิ๋นฉ่ายก็กลับไปกันเถอะ”
“ทราบแล้วเพคะพระสนม หม่อมฉันทูลลา”
ทั้งสองโค้งคำนับและออกจากห้องโถงกลาง อินชิงเสวียนประแป้งให้เสี่ยวหนานเฟิง แล้วอุ้มเขาพาเข้านอน
เด็กได้นอนหลับแล้วหนหนึ่ง ตอนนี้จึงยังคึกคักมากทีเดียว อินชิงเสวียนจึงแลกตัวต่อไม้ที่มีตัวอักษรมาจากมิติ แล้วสอนให้เสี่ยวหนานเฟิงต่อตัวต่อไม้ ขณะเดียวกันก็เรียนรู้ตัวอักษรไปด้วย
เสี่ยวหนานเฟิงทำปากมู่ทู่ เรียนกับอินชิงเสวียนด้วยสีหน้าจริงจัง เมื่อเป็นคำที่อ่านออกเสียงยาก ตอนที่เขาพูดน้ำลายก็แตกฟองฟุ้ง
สองแม่ลูกต่อตัวต่อไม้จนสูง เสี่ยวหนานเฟิงเห็นดังนั้นก็แสดงท่าทางดีอกดีใจ ตบตัวต่อไม้ที่ต่อไว้จนล้มไปหมด
อินชิงเสวียนแกล้งตีหน้าขึงขัง เสี่ยวหนานเฟิงเหมือนจะรู้ว่าตัวเองทำผิด รีบคลานขึ้นไปอ้อนนาง
มือเล็กป้อมคว้าตัวต่อไม้ พยายามจะยื่นให้อินชิงเสวียน
เมื่อเห็นว่าเสี่ยวหนานเฟิงรู้ความถึงเพียงนี้ อินชิงเสวียนก็หัวเราะคิก ยื่นแขนออกไปดึงตัวเขาเข้ามากอด
“ถึงเวลาที่เราต้องไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ค่อยลุยกันใหม่ ดีหรือไม่”
เสี่ยวหนานเฟิงซุกอยู่ในอ้อมแขนของนาง แต่ดวงตายังคงมองจับไปยังตัวต่อไม้ แล้วปากเล็กๆ ก็ยื่นออกมา
“ก็ได้ แม่จะต่อให้เจ้าใหม่ แต่เราห้ามทำพังอีกนะ แล้วก็ไปนอนเสียโดยดี พรุ่งนี้เราต้องไปบ้านท่านตาอีก”
อินชิงเสวียนต่อตัวต่อไม้ไว้ที่อีกด้านหนึ่งของเตียง เสี่ยวหนานเฟิงมองดูตัวต่อไม้แล้วแสดงสีหน้ามีความสุข มือเล็กตบแปะๆ ด้วยความยินดี
“พวกเราดูอย่างเดียวนะ อย่าไปแตะต้องอีก แล้วก็รีบเข้านอนเร็วๆ พรุ่งนี้แม่จะพาเจ้าออกจากวัง”
เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมา แล้วชี้ไปข้างนอกทันที
“ไป~”
“ใช่ พรุ่งนี้พวกเราจะออกไปเที่ยวกัน”
อินชิงเสวียนจุมพิตที่หน้าผากของเขา แล้ววางเขาให้นอนหนุนหมอนใบเล็ก
เสี่ยวหนานเฟิงกอดแขนของอินชิงเสวียนทันที ใบหน้าดวงน้อยๆ ซบนางแน่นหนึบ
อินชิงเสวียนนอนอยู่ข้างๆ เขา พลางร้องเพลงกล่อมเด็ก พลางตบน่องขาเล็กๆ ของเสี่ยวหนานเฟิง
เสี่ยวหนานเฟิงจ้องมองนางด้วยดวงตาดำคู่โต หลังจากนั้นไม่นาน ดวงตาก็หรี่เล็กลงเรื่อยๆ และหลับไปด้วยความง่วงงุนในที่สุด
อินชิงเสวียนห่มผ้าห่มบางๆ ให้เขา กำลังจะลงไปเป่าดับตะเกียง ในเวลานี้ ประตูก็เปิดออกดังเอี๊ยด
เย่จิ่งอวี้ถือโคมไฟเดินเข้ามาจากด้านนอก
“ชู่ว์”
อินชิงเสวียนยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปาก เพื่อส่งสัญญาณให้เย่จิ่งอวี้เงียบเสียงลง
“ดึกป่านนี้แล้ว ฝ่าบาทเสด็จมาได้อย่างไรเพคะ”
“จ้าวเอ๋อร์อยู่ที่นี่หรือ”
เย่จิ่งอวี้เป่าโคมไฟ แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วต่ำ
อินชิงเสวียนกระซิบ “ตอนแรกก็อยู่กับยายหลี่ แต่จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา ไม่ว่าอย่างไรก็จะมาหาหม่อมฉันให้ได้ จึงให้เขานอนอยู่ที่นี่เพคะ”
“นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าจ้าวเอ๋อร์โตแล้ว จำแม่ได้แล้ว”
เย่จิ่งอวี้มาที่เตียง แล้วจับเท้าเล็กๆ ของเสี่ยวหนานเฟิงด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
เมื่อดูเขาก้มลงหอมแก้มเสี่ยวหนานเฟิง อินชิงเสวียนรู้สึกเหมือนเป็นคู่สามีภรรยาแก่ๆ อย่างอธิบายไม่ได้
“ตรวจฎีกาเสร็จแล้วหรือเพคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...