สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 454

สีหน้าท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไปทันตา

“แม่ทัพอิน ท่านอย่าเหิมเกริมนัก”

อินจ้งหยิบป้ายทองอาญาสิทธิ์ออกมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าได้รับคำสั่งให้รักษาชายแดนและยึดดินแดนที่สูญเสียไปกลับคืน สามารถประหารก่อนค่อยทูลรายงานได้ ทหาร มาจับตัวแม่ทัพเหล่านี้ ประหารทันทีไม่มีการยกโทษ”

ทหารจากเมืองหลวงก็รุมจับคนเหล่านั้นทันที เหลือเพียงเหลียงอันไท่คนเดียว

เหลียงอันไท่ตัวสั่นด้วยความกลัว ขาสั่นพั่บๆ โชคดีที่เมื่อครู่คัวเองเพิ่งบอกว่าจะส่งทหารไป ไม่เช่นนั้นคงมีจุดจบเช่นกัน

คนที่เหลือเห็นดังนั้นก็รีบร้องขอความเมตตา แต่ก็ถูกลากลงจากกำแพงเมืองแล้ว

เสียงกรีดร้องระงม ครั้นแล้วแม่ทัพทั้งสี่ก็ถูกตัดศีรษะทันที

ทหารทั้งหมดได้มาอยู่ภายใต้คำสั่งของอินจ้ง ไม่มีผู้ใดบ่นคำใดอีก

กวนเซี่ยวจึงเข้าใจเจตนาของอินจ้ง เขาไม่ได้แสดงความเมตตา หากแต่ทำเพื่อให้ได้ใจของเหล่าทหาร

ตอนนี้กองทัพมีใจไปทิศทางเดียวกัน มีขวัญกำลังใจเข้มแข็ง หากส่งทหารออกไปทำศึกอีกครั้ง จะได้ผลลัพธ์สองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียวอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นอินจ้งได้เลื่อนตำแหน่งจังเถี่ยและสวีเหลียง ให้ทั้งสองเป็นแม่ทัพรักษาเมืองชั่วคราว หลังจากศึกเจียงวูสงบลงแล้ว ค่อยให้ฮ่องเต้แต่งตั้งให้ประทานรางวัลตามความเหมาะสม

ณ เมืองหลวง

อินชิงเสวียนได้เปลี่ยนชุดบุรุษ และออกจากวังพร้อมกับป้ายทองประจำพระองค์และตำราเรียน

ฉินเทียนและหลี่ชีตามประกบซ้ายขวา สิบห้านาทีต่อมา ทุกคนก็มาถึงสำนักศึกษาหลวง

ซึ่งตำแหน่งสูงสุดในสำนักศึกษาหลวงคือตำแหน่งจี้จิ่ว เป็นบัณฑิตเฒ่า แซ่ฉางนามว่าเฮ่อไหล

ฮ่องเต้ได้แจ้งฉางเฮ่อไหลแล้วว่า วันนี้จะมีอาจารย์คนใหม่มารายงานตัว คนผู้นี้เป็นปัญญาชนผู้อัจฉริยะ สำนักศึกษาหลวงสามารถเรียนร่วมกับเขาได้

ฉางจี้จิ่วศึกษาวิชาความรู้มาตลอดชีวิต เมื่อทราบรู้ว่าฮ่องเต้ส่งผู้ปรีชาสามารถมา ย่อมยินดีปรีดาอู่แล้ว พากลุ่มเจ้าหน้าที่มารอต้อนรับตั้งแต่เช้าตรู่

ทันทีที่พบหน้า ก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ เพราะผู้ที่มากลับกลายเป็นชายหนุ่มอายุน้อยไม่ถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์