อินชิงเสวียนพยักหน้า และออกจากโรงน้ำชาพร้อมเย่จั้น
เมื่อมาถึงหน้าประตู ก็พบเด็กคนหนึ่งในชุดผ้าแพรเดินเข้ามาจากด้านนอกประตู และเอามือไพล่หลัง
เมื่อเห็นหน้าตาของเขาชัดเจนแล้ว อินชิงเสวียนจึงคิดในใจว่า สงสัยว่าผู้คนในราชวงศ์ต่างชื่นชอบมาฟังเรื่องซุบซิบที่นี่
เด็กผู้ชายตัวน้อยคนนี้ ก็คือฝูอี้อ๋องเย่จิ่งหลาน
เมื่อเห็นอินชิงเสวียนและเย่จั้น เย่จิ่งหลานก็ตกใจเล็กน้อย
รีบน้อมตัวลงและพูดว่า “สวัสดีเสด็จอาสิบสาม สวัสดีเสด็จพี่สะใภ้”
ปากเล็กๆ พูดจาค่อนข้างหวานเลยทีเดียว
เย่จั้นมองเขาแล้วถามว่า “มาดื่มชางั้นหรือ?”
เย่จิ่งหลานพูดว่า “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ วันนี้อากาศดีทีเดียว จึงออกมาเดินเล่น เสด็จอาสิบสามและเสด็จพี่สะใภ้จะกลับแล้วหรือ?”
อินชิงเสวียนยิ้มและพูดว่า “ความจริงจะไปเยี่ยมท่าน ในเมื่อท่านมาที่นี่แล้ว ข้าจะอยู่ต่ออีกหน่อย”
เย่จั้นเหลือบมองเขาทั้งสองคน และเกิดความสงสัยในใจ
ทั้งสองคนนี้สนิทสนมกันตั้งแต่เมื่อใด?
“เช่นนั้นพวกท่านเชิญตามสบาย แต่รีบกลับด้วยล่ะ”
เย่จั้นประสานมือคำนับ ยกชุดคลุมแล้วเดินออกไป
อินชิงเสวียนมายังชั้ยสอง และนั่งลงตำแหน่งที่นั่งเดิม
“ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
เย่จิ่งหลานหัวเราะแหะๆ แล้วพูดว่า “ออกมาจากวังหลวง อากาศสดชื่น แน่นอนว่าดีที่สุดอยู่แล้ว”
เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้ม จิตใจที่ผ่อนคลายของเขา อินชิงเสวียนจึงพยักหน้าและพูดว่า “ดูท่าทางท่านอารมณ์ดีมากทีเดียว ช่วงนี้ได้รักษาคนไข้งั้นหรือ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่จิ่งหลานก็ถอนหายใจออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...