“วันนี้เจ้าจะกลับวังหรือเปล่า ถ้าไม่รีบก็นอนค้างที่บ้านสักคืนเถอะ แม่รองก็คิดถึงเจ้ามาก”
ดวงตาของอินจ้งฉายแววรักและเอ็นดู กระแสเสียงกอปรไปด้วยความอ่อนโยนดั่งบิดาที่รักบุตร
ตอนนี้อาซือหลานตายแล้ว คนตงหลิวที่อยู่นอกวังก็ถูกกำจัดไปหมดสิ้นแล้ว ไม่มีภัยคุกคามในวัง ทั้งยังมีเย่จั้นอยู่ด้วย อินชิงเสวียนจึงไม่กังวลนัก
เมื่อคิดว่าตัวเองเดินทางไปคราวนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย นางก็ควรใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในนามของเจ้าของร่างเดิมให้มากขึ้นจริงๆ
ครั้นจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็ได้เจ้าค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปบอกแม่รองเถอะ ตั้งแต่แม่ของเจ้าจากไป นางก็ตรากตรำเพื่อพวกเจ้าพี่น้อง”
หลายปีที่ผ่านมานี้ซูหมิงหลานก็ลำบากจริงๆ แต่นางก็ไม่ได้บ่นเลย แม้ว่าอินจ้งจะไม่พูดอะไร แต่เขาก็เห็นในสายตาอยู่ตลอด
อินชิงเสวียนพยักหน้า
“ลูกรู้แล้วเจ้าค่ะ มีบางเรื่อง ไม่ทราบว่าท่านแม่รองได้บอกท่านพ่อหรือยัง”
อินจ้งถามว่า “มีอะไรหรือ”
“เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ลูกกลับจวน ได้คุยกับท่านแม่รองเรื่องการเปิดร้าน ท่านแม่รองดูสนอกสนใจมาก อีกทั้งข้าก็มีของเล็กๆ น้อยๆ อยากขายด้วย เลยอยากให้ท่านแม่รองซื้อร้านสองร้านทิ้งไว้ ร้านหนึ่งเอาไว้เปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้า ส่วนอีกร้านเอาไว้ขายเครื่องประทินโฉมต่างๆ แต่ไม่รู้ว่าท่านพ่อคิดเห็นอย่างไร ยอมให้ท่านแม่รองทำหรือไม่”
แม้ว่าจะติดต่อกับซูหมิงหลานไม่มากนัก แต่อินชิงเสวียนก็มองออกว่านางเป็นสตรีที่ยึดถือจารีตประเพณีมาก ก่อนออกเรือนก็เชื่อฟังบิดา หลังแต่งงานก็เชื่อฟังสามี ถ้าอินจ้งสามารถสนับสนุนนางได้ นางก็จะยิ่งมั่นใจมากขึ้น
ในตอนแรก อินชิงเสวียนคิดถึงแต่ตัวเอง แต่ตอนนี้นางกำลังทำเพื่อตระกูลอิน
แม้ว่าวันหนึ่งวันใดอินจ้งจะไม่เป็นขุนนางในราชสำนักแล้ว ตราบใดที่หาเงินได้ ก็ยังสามารถก่อร่างสร้างตัวได้อีกครั้ง
อินจ้งคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ก่อนที่แม่รองเจ้าจะแต่งงาน นางก็เป็นสตรีที่ยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ตั้งแต่นางมาอยู่ตระกูลอิน นางได้อุทิศตนดูแลพวกเจ้า ไม่ได้แตะต้องงานธุรกิจอีก ถ้าตอนนี้นางยังชอบอยู่ พ่อย่อมไม่คัดค้าน”
อินชิงเสวียนยกมุมปากขึ้นยิ้มบางๆ
“เช่นนั้นก็เยี่ยมเลย ในเมื่อต้องรอวันครบรอบวันจากไปของท่านแม่ เช่นนั้นข้าจะใช้เวลาสองวันนี้ปักหลักเรื่องทำร้าน”
“นี่เป็นเรื่องระหว่างเจ้ากับแม่รองของเจ้า เจ้าสองคนตัดสินใจกันเองเถิด พ่อไม่คัดค้านเรื่องนี้”
“ขอบคุณท่านพ่อเจ้าค่ะ งั้นลูกจะไปหาท่านแม่รองแล้ว”
อินชิงเสวียนยอบกายคารวะเล็กน้อย แล้วตรงไปยังเรือนหลัง
ซูหมิงหลานกำลังคุยกับอินจื่อลั่วเรื่ององค์หญิงน้อย เมื่อครู่เด็กสาวกำลังปักผ้าอยู่ด้านหลัง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เรือนหน้า เมื่อนางรู้ว่ามีพี่สะใภ้มาที่บ้าน ไม่ว่าอย่างไรก็จะไปดูให้ได้
ซูหมิงหลานบอกว่าองค์หญิงพักผ่อนแล้ว ให้นางไปใหม่พรุ่งนี้ เมื่ออินชิงเสวียนเข้ามา อินจื่อลั่วก็กำลังเสียดายอยู่ ถ้าเมื่อครู่นางไปที่ห้องโถงหน้าก็คงดี คงได้เห็นว่าพี่สะใภ้หน้าตาเป็นเช่นไร
ขณะที่กำลังเศร้าเสียใจ ก็เห็นพี่สาวเดินเข้ามา นางก็รู้สึกดีใจทันที
“พี่หญิง ท่านยังไม่กลับวังหรือเจ้าคะ”
อินชิงเสวียนแตะผมของนางเบาๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “วันนี้พี่ไม่กลับ คืนนี้จะนอนที่นี่”
อินจื่อลั่วกระโดดโลดเต้นอย่างตื่นเต้นทันที
“ดีจังเลย ข้าอยากนอนกับพี่หญิง”
ซูหมิงหลานก็มีความสุขมากเช่นกัน นางพูดอย่างเคืองๆ “อย่ากวนสิ เปลี่ยนที่นอนก็หลับยากอยู่แล้ว ถ้าเจ้าไปนอนกับพี่สาวเจ้าอีก จะยิ่งไม่รบกวนนางกว่าเดิมหรือ”
อินจื่อลั่วเม้มริมฝีปาก แล้วพูดอย่างไม่เต็มใจ “ถ้าอย่างนั้นข้าไม่นอนกับพี่หญิงก็ได้”
เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของหญิงสาวตัวน้อย อินชิงเสวียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร คืนนี้เราสองพี่น้องก็นอนด้วยกันเถอะ ข้านอนหลับง่าย นอนที่ไหนก็หลับได้”
ซูหมิงหลานลังเล แล้วพูดว่า “จะดีหรือ ในวังยังมีงานให้เจ้าทำมากมาย ถ้านอนไม่หลับคงรู้สึกแย่แน่ ไม่เหมือนจื่อลั่วที่อยู่ว่างทั้งวัน จะงีบกลางวันเมื่อไหร่ก็ได้”
“สองวันนี้ข้าก็ไม่มีอะไรทำ ท่านแม่รองไม่ต้องกังวล เมื่อครู่ข้าบอกท่านพ่อเรื่องร้านแล้ว เขาบอกว่าจะไม่ยุ่ง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความต้องการของท่านแม่รองเลย ถ้าท่านแม่รองไม่ขัดข้อง ข้าคิดว่าจะไปจองร้านวันพรุ่งนี้ แล้วจะจัดส่งสินค้าที่จะขายมาให้ท่าน”
ซูหมิงหลานกำลังกังวลว่าอินจ้งจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่เมื่อนางได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าก็สว่างขึ้นด้วยความดีใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...