สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 634

อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมอง

“เจ้าได้ยินเรื่องนี้มาจากใคร”

ซูฉ่ายเวยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านและข้าก็นับว่าไม่ตีกันก็ไม่รู้จักกัน ข้าจะพูดอย่างไม่ปิดบังละกัน ทั้งวังหลังรู้ดีว่าฝ่าบาทโปรดปรานกุ้ยเพียงผู้เดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ ก็เป็นแค่ของประดับตกแต่ง เรื่องการแยกย้ายวังหลังก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดอยู่วันยังค่ำ แทนที่จะใช้ชีวิตอยู่ในวังหลัง มิสู้หาแต่งงานกับคนดีๆ เสียเวลาอยู่ที่นี่ไปเปล่าๆ สุดท้ายต้องกลายเป็นสาวเทื้อขึ้นคาน”

เมื่อเห็นท่าทางที่เกินจริงของซูฉ่ายเวย อินชิงเสวียนก็เม้มริมฝีปากแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องนี้ฝ่าบาทจะตัดสินใจเอง น่าจะไม่ให้พวกเจ้ารอนานเกินไป”

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนั้น”

ซูฉ่ายเวยแสดงท่าทางที่ชัดเจน

“งั้นข้าก็ต้องหากำไรให้ได้เยอะๆ ถ้าออกจากวังแล้ว คงไม่มีโอกาสดีๆ แบบนี้”

อินชิงเสวียนจิบชาแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้เจ้ากิจการเจริญรุ่งเรือง นับตั๋วเงินจนนับไม่ถ้วน”

“ขอบคุณกุ้ยเฟยที่อวยพร เรื่องในวังท่านไม่ต้องกังวล ตั้งแต่ฉู่หลิงอวี้ถูกโยนเข้าวังเย็นไปอีกคน สาวน้อยพวกนั้นก็สงบเสงี่ยมขึ้นมาก เพราะกลัวว่าทำให้ทรงกริ้ว พวกนางคนใดหากกล้าไปเล่นหูเล่นตาต่อหน้าพระพักตร์ ข้าจะทำให้พวกนางเห็นดีเอง”

สีหน้าเยียบเย็นของซูฉ่ายเวย กลับทำให้ดูมีอำนาจดุดัน

อินชิงเสวียนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก

เย่จั้นไม่ใช่คนมากรักหลายใจ ทั้งยังมีคนในหัวใจอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้ใบหน้าของเย่จิ่งอวี้ทำอะไรอย่างอื่น

ทั้งสองพูดคุยกันสักพัก แล้วซูฉ่ายเวยก็ขนสินค้ากองโตกลับไปด้วยความพึงพอใจ

อินชิงเสวียนวางเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงลงบนตัก ขณะที่โยกตัวเบาๆ ก็เล่านิทานกล่อมให้เขานอน

เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงชอบฟังนิทานมาก ดวงตากลมโตจ้องเป๋ง ใบหน้าเล็กๆ ดูจริงจัง ถึงขั้นก็ดูเป็นกังวลด้วยซ้ำ

ยิ่งอินชิงเสวียนมองดูก็ยิ่งชอบ นางรู้สึกขอบคุณเจ้าของร่างเดิมมาก ขอบคุณนางที่เสี่ยงชีวิต ทิ้งเด็กที่น่ารักเช่นนี้ไว้ให้ตัวเอง

หวังว่าชาติหน้าเจ้าของร่างเดิมจะตาสว่าง และได้พบกับผู้ชายที่รักและทะนุถนอมนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์