เย่จิ่งอวี้ร้อนใจรีบตามหาหวนไท่เฟย จึงไม่ทันได้ระวังตัว เขาแค่รู้สึกจุกที่หัวใจ และระงับกลิ่นเลือดที่พลุ่งพล่านในลำคอเอาไว้
เพียงพริบตาเดียวอีกฝ่ามือหนึ่งก็พุ่งเข้ามา
อินชิงเสวียนกรีดร้องด้วยความตกใจ
“จูอวี้เหยียน!”
เมื่อเห็นผู้หญิงที่อยู่ด้านในห้อง อินชิงเสวียนก็ต้องตกใจอย่างอดไม่ได้
นางอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
อีกทั้งยังสามารถฟื้นฟูวิทยายุทธ์ได้ด้วยงั้นหรือ?
เย่จิ่งอวี้ยื่นมือไปโอบเอวบางของอินชิงเสวียนเอาไว้ รีบบินถอยหลังอยู่หลายก้าว และมองเห็นหน้าตาที่ชัดเจนของจูอวี้เหยียน
“เจ้าก็กล้ามาถึงเป่ยไห่เลยงั้นหรือ?”
จูอวี้เหยียนกระตุกยิ้มที่มุมปาก และพูดเยาะเย้ยว่า “เจ้ามาที่นี่ได้ เหตุใดข้าจะมาที่นี่ไม่ได้เล่า”
นางก้าวขึ้นมาด้านหน้าอย่างไม่เกรงกลัว และพูดด้วยใบหน้าที่หยิ่งยโสว่า “ข้าไม่เพียงมาที่นี่เฉยๆ แต่ยังนำของขวัญชิ้นใหญ่มาให้เจ้าด้วย”
เมื่อนางเบี่ยงตัว อินชิงเสวียนก็เห็นหวนไท่เฟยที่ผูกไว้กับเสาหินในทันที
เมื่อเห็นรอยเลือดเป็นริ้วๆ บนร่างกายของเซี่ยวอิ๋นหวน เย่จิ่งอวี้ก็โมโหเป็นอย่างมาก
“ท่านแม่!”
จูอวี้เหยียนมาขวางที่หน้าประตูอีกครั้ง และพูดอย่างเยือกเย็นว่า “เจ้าเอาแม่ของเจ้าไปได้ แต่เจ้าและอินชิงเสวียนจะต้องคุกเข่าหมอบลงต่อหน้าข้าก่อน ข้าจึงจะเอาตัวนางให้แก่พวกเจ้า”
อินชิงเสวียนพูดด้วยความโกรธ “จูอวี้เหยียน เจ้าอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไป”
จูอวี้เหยียนหัวเราะโฮะๆ แล้วพูดว่า “พวกเราสองคนใครรังแกใครกันแน่ วิทยายุทธ์ของข้าถูกพวกเจ้าทำลาย ข้าควรได้รับค่าชดเชยบ้างไม่ใช่หรือ?”
อินชิงเสวียนพูดด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว “นั่นเป็นเพราะเจ้าหาเรื่องใส่ตัว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...