สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 725

เย่จิ่งอวี้หิ้วร่างของจูอวี้เหยียนขึ้นมา และพูดอย่างเย็นชาว่า “ผู้หญิงที่ชั่วร้ายเช่นนี้ สมควรให้นำศพของนางไปทิ้งร้างในป่าช้าอย่างไม่ไยดี และปล่อยให้สัตว์ป่ารุมกัดกิน”

อินชิงเสวียนไม่ได้พูดอะไร ในใจนึกถึงแสดงสีแดงแปลกประหลาดในแววตาของเย่จิ่งอวี้อยู่ตลอดเวลา

เย่จิ่งอวี้ลากร่างของจูอวี้เหยียนมาด้านนอกเรือน อินชิงเสวียนเรียกไป๋เสวี่ยหนึ่งครั้ง และรีบพยุงหวนไท่เฟยที่สลบไสลไม่ได้สติเดินตามมาอย่างว่องไว

เย่จิ่งอวี้เดินออกมายังทางเดินหินเขียว ใบหน้าที่หล่อเหลาเปื้อนหยดเลือดจำนวนมาก เขาใช้มือเพียงข้างเดียวหิ้วร่างของจูอวี้เหยียนที่ดวงตาที่โปนออกมาและยังมีเลือดไหลไม่หยุด ตาคมคู่หนึ่งเย็นชาดั่งน้ำแข็ง และเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

รอยเลือดยาวพาดผ่านทางเดินหินสีเขียว และกลิ่นคาวเลือดก็ถาโถมเข้าจมูก

เมื่อมองเย่จิ่งอวี้ที่ราวกับอสูรแห่งยมโลก ลูกศิษย์หลายคนของสำนักเซียวเหยาต่างก็ตกใจจนต้องถอยไปหนึ่งก้าวในทันที

อาซือหลานซ่อนตัวอยู่ในความมืดและเฝ้าดูอย่างเย็นชา

รวมทั้งวิธีการลงมือของเย่จิ่งอวี้ และรูม่านตาที่มีสีแดง เขาเห็นมองเห็นอย่างชัดเจน

นี่คือวรยุทธ์ของสำนักใดกัน?

หรือเป็นวิชาการต่อสู้ของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์?

ไม่เจอกันเพียงไม่กี่วัน ดูเหมือนว่าวรยุทธ์ของเย่จิ่งอวี้สูงขึ้นไม่น้อย เช่นนั้นการลำบากฝึกฝนของตัวเองก็คงเปล่าประโยชน์แล้วสิ!

เมื่อมองเย่จิ่งอวี้ที่มีจิตวิญญาณแห่งความกระหายเลือดอีกครั้ง ก็รู้สึกว่าไม่เหมือนตัวเขา กลับดูเหมือนถูกผีสิงมากกว่า...

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เช่นนั้นก็คงน่าสนุกทีเดียว!

จูอวี้เหยียนตายไปหนึ่งคน แต่สามารถได้วิชาลับมา ถือว่าคุ้มค่าเช่นกัน

เดิมทีเขาสามารถออกมาช่วยชีวิตจูอวี้เหยียนได้ แต่ว่าจูอวี้เหยียนกลับเสียคุณค่าที่ทำให้เขาต้องช่วยไปแล้ว

ตอนนี้เขารู้วิธีในการดึงพิษกู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็สมควรตายแล้วเช่นกัน

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็บินร่อนลงมาที่ด้านนอกประตูสำนักเซียวเหยาอย่างรวดเร็ว และแกล้งทำเป็นว่าเพิ่งกลับเข้ามา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์