เนิ่นนานหลังจากนั้น เขาก็หยุดหัวเราะ หยิบกระพรวนสีดำออกมาจากอกเสื้อ
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนพูดว่า “ดูเหมือนว่าจะมีเสียงอยู่ตรงนั้น”
“เข้าไปดูเร็ว”
เสียงฝีเท้าอันวุ่นวายดังขึ้นจากระยะไกล และคนผู้นั้นก็หายตัวไปทันที
ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นศพแขวนอยู่บนต้นไม้
“เป็นศิษย์พี่หลิวจากสำนักหานเตา มีศิษย์พี่เจียงจากสำนักเทียนหยวนด้วย”
อีกคนพูดว่า “ตรงนี้ดูเหมือนจะเป็นศิษย์ของสำนักเซียวเหยา”
“เฮ้ย นี่คือศิษย์พี่หวังจากสำนักกระบี่สังหาร!”
เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของทั้งสองคน คนอื่นๆ ก็วิ่งกรูไปอย่างรวดเร็ว และทั้งหมดก็ตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้า
ทุกคนตกตะลึงเป็นเวลานาน ก่อนที่ศิษย์คนหนึ่งจะพูดราวกับว่าเพิ่งตื่นจากความฝัน “กลับไปรายงานต่อเจ้าสำนักด่วน”
“ใช่ รีบไปเถอะ”
ทั้งหมดใช้วิชาตัวเบาทันที แทบอยากจะยืมขาคู่หนึ่งจากกระต่ายมาช่วยกระโดดด้วยซ้ำ ต่างวิ่งล้มลุกคลุกคลานกลับไปยังสำนักตัวเอง
อินชิงเสวียนได้เปิดการเชื่อมต่อมิติ สามารถมองเห็นทุกสิ่งภายนอกได้
“อาอวี้ เราต้องรีบกลับไป ถ้ามีใครมาเห็นเราที่นี่ อาจจะเกิดความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็นได้”
ถึงอย่างไรมิติก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ตราบใดที่เข้าตอนอยู่ในป่า ก็ต้องออกมาอยู่ที่เดิม
“อืม”
ทั้งสองออกจากมิติอย่างรวดเร็ว กลับไปที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่เหล่าลูกศิษย์จะกลับมา
สิบหน้านาทีต่อมา ก็เกิดความโกลาหลในลานบ้าน
เสียงเกรี้ยวกราดของเจ้าสำนักเซี่ยวดังมาจากด้านนอกประตู
“ข้าจะไปที่เชิงเขาก่อน พวกเจ้าดูแลตัวเองด้วย”
“เจ้าค่ะ”
ซื่อเมี่ยวอินทั้งสี่และศิษย์ชายหลายคนขานตอบด้วยความเคารพ
เย่จิ่งอวี้ก็เดินออกไปนอกประตู ถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้ “เกิดอะไรขึ้น”
เซ่อเอ๋อร์ตอบเสียงฉาดฉาน “ศิษย์ที่ลาดตระเวนพบว่ามีศิษย์ถูกทรมานและสังหารที่ตีนเขา เจ้าสำนักกำลังรีบเร่งไปตรวจสอบ”
เย่จิ่งอวี้พยักหน้า
“เข้าใจแล้ว ข้ากับเสวียนเอ๋อร์ก็จะไปเหมือนกัน หากมีอะไรเกิดขึ้น ยังสามารถช่วยเหลือได้”
เซี่ยวอิ๋นหวนก็ตื่นขึ้น คลุมเสื้อเดินออกจากห้อง เมื่อรู้ว่าเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเช่นนี้เกิดขึ้น ก็รีบพูดว่า “อวี้เอ๋อร์ เจ้ากับเสวียนเอ๋อร์ต้องระวังให้มาก อย่าอยู่ห่างเกินไปเจ้าสำนักเกินไป”
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ขับกับเสวียนเอ๋อร์จะไม่เดินไปมั่ว”
อินชิงเสวียนขยิบตาให้เย่จิ่งหลานที่โผล่หัวออกมา จากนั้นมองไปที่หวนไท่เฟย นางเชื่อว่าเย่จิ่งหลานสามารถเข้าใจได้
เย่จิ่งหลานทำมือโอเคทันที
เมื่อใดที่เผชิญกับอันตราย เขาจะพาหวนไท่เฟยและเสี่ยวหนานเฟิงทั้งหมดเข้าสู่มิติทันที
ในไม่ช้าท้องฟ้าก็กลายเป็นสีขาวขุ่น เมื่อทุกคนมาถึงตีนเขา ก็มองเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ตรงหน้าแล้ว กลิ่นคาวเลือดก็หายไปไม่น้อยเช่นกัน
เจ้าสำนักเซี่ยวก้าวไปที่ต้นไม้ วางศิษย์ที่มีดวงตาปูดโปนลง
เฮ่ออวิ๋นทงก็อุ้มลูกศิษย์ของตัวเองเช่นกัน
หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าลูกศิษย์ที่ตายไปแล้วก็นอนเรียงกันเป็นแถว
ผู้อาวุโสสวีขมวดคิ้วยาว ลูบเคราแล้วพูดว่า “ลูกศิษย์เหล่านี้ไม่ใช่คนธรรมดา เป็นใครกันนะ ที่สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดในคราวเดียว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...